อีสานโพล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดผลสำรวจดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานไตรมาส 3/2566 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2566
พบว่าคะแนนผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก 27.8 เป็น 31.6 และคาดว่าดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานไตรมาส 4/2566 (ต.ค.- ธ.ค. 66) จะเท่ากับ 33.7 ดีขึ้นเล็กน้อย
สอบถามจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไปรวม 1,097 ราย ในพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด
จากการสำรวจพบว่า ดัชนีรายได้และทรัพย์สินครัวเรือนไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 32.2 หมายความว่า รายได้และทรัพย์สินครัวเรือนคนอีสานอยู่ในระดับแย่ และแย่กว่าไตรมาสก่อน
ขณะที่ดัชนีโอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 32.9 คือ อยู่ในระดับแย่และดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน
ดัชนีการหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 31.7 หมายความว่าการหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้อยู่ในระดับแย่ และแย่กว่าไตรมาสก่อน
ขณะที่ดัชนีการซื้อของมูลค่าสูงไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 32.5 หมายความว่าความมั่นใจของครัวเรือนในการซื้อของมูลค่าสูงอยู่ในระดับแย่ และดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน
ด้านดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 32.3 หมายความว่าภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนโดยรวมอยู่ในระดับแย่ และแย่กว่าไตรมาสก่อนซึ่งมีค่าดัชนี 32.8
Advertisement
คำถามสุดฮิตคือนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ควรแจกให้ทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป หรือแจกให้เฉพาะกลุ่มรายได้น้อย
พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.2 อยากให้แจกทุกคน รองลงมาร้อยละ 22.2 ให้แจกเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย ร้อยละ 9.4 ระบุควรนำงบไปทำอย่างอื่น และร้อยละ 4.2 ระบุว่าไม่แน่ใจ
เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างเพิ่มเติมว่าควรมีเงื่อนไขการใช้เงินอย่างไร
พบว่าเกินครึ่งหรือร้อยละ 57.7 ระบุให้ใช้ที่ไหนก็ได้ รองลงมาร้อยละ 32.2 ระบุให้ใช้ได้ภายในจังหวัด และร้อยละ 7.4 ระบุว่าให้ใช้ได้ภายในอำเภอ
มีเพียงร้อยละ 2.7 ระบุว่าให้ใช้ได้ภายในรัศมี 4 กิโลเมตรตามทะเบียนบ้าน
ส่วนรศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เสนอแนะรัฐบาลพิจารณาปรับนโยบายแจกเงินดิจิทัลเป็น 5,000 บาทแรกให้ฟรี อีก 5,000 บาท เป็นวงเงินหมุนเวียนโอดีดอกเบี้ยต่ำ
เป็นอีกเสียงสะท้อนของชาวอีสานต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลนี้!!
เภรี กุลาธรรม
