ข่าวใหญ่สัปดาห์นี้ คือสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน ประธานคณะองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาประเทศไทยเป็นการส่วนตัว
เพื่อเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างพักโทษและคุมประพฤติ
มาด้วยเครื่องบินส่วนตัวจากกรุงพนมเปญลงจอดที่สนามบินดอนเมือง
หลังลงเครื่อง ขบวนรถก็มุ่งตรงไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้าทันที
มีภาพการพบปะกันในครั้งนี้ออกสู่สาธารณะ ที่แสดงถึงความสนิทสนมแน่นแฟ้น
นายทักษิณยังคงใส่เฝือกที่คอและแขนขวา สีหน้าสดชื่นขึ้น
ฝ่ายเจ้าบ้านเลี้ยงอาหารมื้อเที่ยงเป็นอาหารไทย มีกุ้งแม่น้ำเผาจากสุพรรณบุรี ตามด้วยของหวานขนมต้มและลูกชุบ
สายสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่เริ่มมาตั้งแต่สมัยที่นายทักษิณยังไม่ลงเล่นการเมือง และเข้าไปทำธุรกิจโทรคมนาคมในกัมพูชา
พอช่วงที่นายทักษิณเป็นนายกฯ ทุกอย่างราบรื่น
แต่ก็มีเหตุตึงเครียดจากเหตุจลาจล มวลชนชาวเขมรบุกเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ
จนผู้นำไทยในขณะนั้นเรียกประชุมด่วน และส่งเครื่องบินและหน่วยคุ้มกันไปรับเจ้าหน้าที่และคนไทยกลับกรุงเทพฯ
สมเด็จฮุนเซน แสดงความรับผิดชอบด้วยการสร้างให้ใหม่ทั้งหมด
เมื่อนายทักษิณถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติรัฐประหาร กลับประเทศไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ก็ยังแนบแน่นกันอยู่
สมเด็จฮุนเซนถึงขนาดแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา และสร้างบ้านให้อยู่พำนักด้วย
ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชามีปัญหาสะดุด
ประเด็นหนึ่งที่รับรู้กันก็คือการแต่งตั้งอดีตนักการทูตสายห้าวที่มีบทบาทในเวทีพันธมิตรฯ เสื้อเหลืองมาเป็นรัฐมนตรี
หลังเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ความสัมพันธ์อันดีก็กลับมาอีกครั้ง
แม้คดีความที่ค้างคาเรื่องปราสาทพระวิหาร แต่เมื่อศาลโลกตัดสินออกมาก็ทำให้บรรยากาศคลี่คลาย
วันนี้ มีภาพสะท้อนบารมีและความสัมพันธ์ของสองอดีตผู้นำ นายทักษิณและสมเด็จฮุนเซน!!
เภรี กุลาธรรม