การเดินทางกลับเชียงใหม่ของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นการกลับจังหวัดบ้านเกิดครั้งแรกในรอบ 17 ปี และเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดครั้งแรกหลังได้รับพักโทษ

ท่ามกลางสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่เฝ้าเกาะติดความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าว

นายทักษิณตอบคำถามทุกดราม่า ทั้งเรื่องอาการป่วย เรื่องการพบปะกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และเรื่องปัญหาบ้านเมืองที่ต้องเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม

ตรงกับแนวนโยบายรัฐบาลชุดนี้ที่นายกฯ แถลงไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภา และเห็นชัดจากการดำเนินงานตลอด 6 เดือน ที่ให้ความสำคัญกับการออกนโยบายและมาตรการหลายอย่างในการเร่งฟื้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน

“ให้กำลังใจท่าน (นายกฯ เศรษฐา) ทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะมีความซับซ้อนและยากมากกว่า ฝ่ายการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน ฉะนั้น ต้องให้กำลังใจข้าราชการฝ่ายประจำและนักการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน เพราะมันยากกว่าเดิม”

อดีตนายกฯ ผู้มีประสบการณ์แก้วิกฤตต้มยำกุ้งยังกล่าวทำนองว่า ตนเองไม่ได้ให้ข้อคิดอะไรเป็นพิเศษกับนายเศรษฐา เพราะเรื่องเดิมที่ตนเองเคยแก้ไขมาบางอย่างก็ใช้ได้ บางอย่างก็ต้องเปลี่ยน เพราะโลกมันเปลี่ยน ไม่เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน นายกฯ เศรษฐาวางแผนแก้ไขไว้อยู่แล้ว

จากภาพที่สะท้อนออกมาจะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่อยู่เชียงใหม่นายทักษิณแสดงออกด้วยความระมัดระวัง ไม่ตกหลุมพรางกลุ่มคนไม่หวังดีต่อรัฐบาลและนายเศรษฐาที่คอยจับจ้อง ปลุกปั่นกระแสดราม่าเรื่องนายกฯ 2-3 คน นับตั้งแต่ได้กลับมาอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า

เช่นเดียวกับนายเศรษฐา นายกฯ ตัวจริงที่โนสน โนแคร์ และไม่มีความคิดจะขจัดคำว่า “นายกฯ ทับซ้อน” ให้หมดไป เพราะไม่ใช่เรื่องคอร์รัปชั่น หรือไร้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ต้องขจัด

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจ นายทักษิณกล่าวว่า ใจมันดี เพราะมีลูกสาว มีลูกชายอยู่ใกล้ๆ และยังมีหลานๆ อีก 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่ในวัย 75 ปี อย่างไรก็โปรดเข้าใจและเห็นใจคนแก่ในวัย 75 ปีด้วย ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน

“วันนี้กลับมาใครไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่ไป”

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน