บรรยากาศบ้านเมือง การเมืองวันนี้กำลังแข่งกันทำงาน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ฝ่ายรัฐบาล กับพรรคก้าวไกล ฝ่ายค้าน

ทั้ง 2 ฝ่ายเร่งเดินเครื่องสร้างผลงาน สร้างคะแนนนิยมต่อสังคม และประชาชน

เป็นไปตามบทบาทหน้าที่ในกลไกรัฐธรรมนูญกำหนดไว้

การเดินทางไปต่างประเทศของ “เศรษฐา ทวีสิน” เพียงไม่กี่วันหลังเข้ารับตำแหน่งนายกฯ แม้จะมีบางกลุ่มบางพวกชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง

จนวันนี้สื่อชั้นนำต่างประเทศยกย่องเป็น “เดอะเซลส์แมน” ที่นานาชาติทั่วโลกรู้จัก

โดยไปป่าวประกาศประเทศไทยพร้อมต้อนรับการค้าการลงทุน เปิดประตูการท่องเที่ยวมากขึ้น มีโครงการโปรเจ็กต์ใหญ่น่าลงทุน ทำสัญญาการค้าต่างๆ

ขณะที่ภายในประเทศเอง นอกจากนโยบาย หรือโครงการที่แถลงต่อสภา หรือเมื่อตอนเลือกตั้ง ก็พยายามขับเคลื่อนอยู่

แม้ถูกค่อนแคะ หรือการเตะสกัดจากเครือข่ายอนุรักษนิยมสุดโต่ง แต่ก็แสดงความพยายามจะผ่านไปให้ได้

รวมถึงการไปเยือนพื้นที่ต่างๆ ปฏิบัติภารกิจต่างจังหวัด แทบจะทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ จนกลายเป็นภาพที่สังคมคุ้นเคยไปแล้ว

ช่วงนี้เสร็จจากภารกิจเชียงใหม่ พะเยา ลำดับต่อไปที่พิจิตร นครราชสีมา ชัยภูมิ และคิวแน่นยาวไปถึงเดือนพ.ค.

ด้านฝ่ายค้านนำโดยพรรคก้าวไกล ยิ่งหลังจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ได้กลับเข้าสภา ส่งผลให้การขับเคลื่อนงานตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารเข้มข้นมากขึ้น

เช่น ลงไปจังหวัดต่างๆ คู่ขนานกับการไปของนายกฯ และพรรครัฐบาล

ส่วนงานสภาก็ยังเป็นจุดแข็งเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมาย ตั้งกระทู้ถามปัญหาต่อนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

การทำงานผ่านคณะกรรมาธิการ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนตรวจสอบเรื่องต่างๆ ตลอดจนความทุกข์ยาก และความเดือดร้อนประชาชน

ทั้งหลายเหล่านี้ก็ถือเป็นการสร้างผลงาน และสร้างคะแนนนิยมได้เหมือนกัน

เป็นไปตามปกติสามัญของระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก เมื่อหมดวาระครบเทอมก็ให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ในคูหาเลือกตั้ง

ในเมื่อทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างแข่งขันกันทำงาน ประชาชนย่อมได้ประโยชน์

ไม่เหมือนฝ่ายค้านในอดีตที่ใช้วิธีการนอกประชาธิปไตย ชกใต้เข็มขัด สร้างเงื่อนไขปูทางรัฐประหาร

ซึ่งพิสูจน์แล้วพรรคการเมืองแบบนั้นมีแต่เล็กเรียวลง

ไม่เหมือนวันนี้ที่รัฐบาลและฝ่ายค้านต่างแข่งขันกันทำงาน ไม่ใช้วิธีการนอกประชาธิปไตย

ข้าวตอกแตก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน