ยังเป็นควันหลงวิพากษ์วิจารณ์กันไม่จบ ถึงการเดินทางกลับจังหวัดบ้านเกิดครั้งแรกในรอบ 17 ปีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

กรณีมีคนเตรียมยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีมีรัฐมนตรี สส.พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลไปพบนายทักษิณ ที่เชียงใหม่ ว่าเข้าข่ายการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่อาจนำไปสู่การยื่นตรวจสอบว่าผิดเงื่อนไขการพักโทษหรือไม่

เรื่องนี้ รมว.ยุติธรรมบอกว่าการจะผิดเงื่อนไขการพักโทษหรือไม่ ต้องไปดูในพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ที่เขียนเรื่องการพักโทษเอาไว้ ซึ่งมีเงื่อนไขหลายข้อ แต่ไม่มีข้อใดกำหนดเรื่องจะพบหรือไม่พบใคร

ย้อนกลับไปอ่านข่าวเมื่อไม่นานนี้ นายทักษิณได้รับการพักโทษเมื่อวันที่ 18 ก.พ. และต้องเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนจะพ้นโทษในเดือนส.ค.

ระหว่าง 6 เดือนนี้ นายทักษิณต้องประพฤติปฏิบัติตามเงื่อนไข 8 ข้อ หากประพฤติผิดเงื่อนไขจะถูกนำตัวกลับมาคุมขังไว้ในเรือนจำตามเดิมและถูกลงโทษทางวินัยด้วย

คือ 1.ต้องพักอาศัยอยู่ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับเรือนจำ 2.ห้ามออกนอกเขตท้องที่ที่อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ห้ามประพฤติตนเสื่อมเสีย เช่น เล่นการพนัน ดื่มสุรา ยาเสพติด และกระทำผิดอาญาขึ้นอีก

4.ประกอบอาชีพโดยสุจริต 5.ปฏิบัติตามลัทธิศาสนา 6.ห้ามพกพาอาวุธ 7.ห้ามไปเยี่ยมบ้านหรือติดต่อกับนักโทษอื่นที่ไม่ใช่ญาติ และ 8.ให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติเรือนจำ เจ้าพนักงานปกครอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจทุกเดือน

มีรายงานเมื่อ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณเดินทางไปที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 1 ถนนพรานนก กทม. โดยมีรองอธิบดีกรมคุมประพฤติ รอรับการเข้ารายงานตัวพักโทษครบ 1 เดือน

ก็เป็นอย่างที่รัฐมนตรียุติธรรมบอกว่า ในเงื่อนไข 8 ข้อไม่พบว่ามีข้อไหนที่ห้ามใครมาพบ หรือห้ามพบใคร ไม่ว่าจะเป็นสส.หรือรัฐมนตรี ยกเว้นนักโทษอื่นที่ไม่ใช่ญาติ

แต่ก็อย่างว่า ฝ่ายจ้องจับผิดต่อให้ยกข้อกฎหมายมาพูดอธิบายอย่างไร ต่อให้เข้าใจก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจอยู่ดี ถ้าเรื่องนี้ไปต่อไม่ได้ก็ต้องไปเสาะหาเรื่องอื่น หรือไม่ก็โจมตีประเด็นเดิมๆ เช่น เรื่องอาการป่วย ป่วยจริงไม่จริง ป่วยหนักไม่หนัก

สุดท้ายเลยดูไม่ออก ระหว่างคนโดนจ้องจับผิด กับคนจ้องจับผิด ใครที่ป่วยหนักกันแน่?

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน