สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ครบถ้วน 200 คน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

โดยการประชุมนัดแรกจะมีขึ้นวันที่ 23 ก.ค.

วาระประชุมประกอบด้วย รับทราบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องผลการเลือก สว. และผลการเลือกบัญชีสำรอง ต่อด้วยการกล่าวปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่

จากนั้นก็จะเข้าวาระที่หลายคนจับตาคือการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา

สำหรับขั้นตอนในวันนั้น เลขาธิการวุฒิสภาจะเชิญสมาชิกผู้มีอาวุโสสูงสุดในที่ประชุม ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว

เรียงตามลำดับอาวุโสสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี อายุ 78 ปี นายแล ดิลกวิทยรัตน์ อายุ 77 ปี และนายบุญส่ง น้อยโสภณ อายุ 75 ปี

เมื่อเลือกเสร็จแล้ว สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะยืนยันมติและส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

เมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานและรองประธาน จึงจะนัดประชุมวุฒิสภาครั้งต่อไปได้ โดยประธานวุฒิสภาจะเป็นผู้มีคำสั่งนัดประชุม ซึ่งคาดว่าเร็วสุดคือ 30 ก.ค.

สำหรับตัวเต็งประธานวุฒิสภาตามที่เป็นข่าว ได้แก่ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ กับนายมงคล สุรสัจจะ และเพิ่มเข้ามาคือ นายบุญส่ง น้อยโสภณ

ส่วนรองประธานวุฒิสภา สว.อิสระที่ตั้งกลุ่มใช้ชื่อ “สว.พันธุ์ใหม่” มีอยู่ประมาณ 30 คน หารือสนับสนุนให้มีรองประธานเป็นผู้หญิง

โดยทางกลุ่มเตรียมผลักดัน สว.ในเครือข่ายเข้ารับตำแหน่ง ที่แบ่งรับแบ่งสู้ เช่น นันทนา นันทวโรภาส, นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์, อังคณา นีละไพจิตร เป็นต้น

สำหรับสเป๊กคนจะมาเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา โดยหลักไม่ถึงกับต้องเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ก็ต้องมีความเข้าใจพอสมควร

กับอีกอย่างต้องวัดกันคือจุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตราที่ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาสดๆ ร้อนๆ ว่ามีข้อกังขามากมายหลายประเด็นตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ต้องเป็นที่ยอมรับของบรรดาสมาชิกซึ่งมีที่มาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ และยังต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมด้วย

เพราะถึง สว.ชุดนี้จะมาจากการเลือกกันเอง แต่ตามรัฐธรรมนูญก็ถือเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกับ สส.

ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน