ต้องจับตาการเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา ในการประชุมวุฒิสภานัดแรก 23 ก.ค. จะเป็นไปตามโผหรือไม่
ก่อนหน้ามีบรรดา สว. แบ่งกันเป็นกลุ่มๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง นัดพบปะประชุมกันคึกคัก เตรียมผลักดันสมาชิกในกลุ่มเข้ามายึดครองบัลลังก์ประมุข และรองประมุขสภาสูง
แต่ขณะเดียวกันก็มี สว.บางคนที่ไม่ได้สังกัดกลุ่มก๊วน ไม่สังกัดสี ไม่สังกัดพันธุ์ แสดงความเห็นคัดค้านการเคลื่อนไหวดังกล่าว
ในมุมความคิดที่ว่า สว.ยุคนี้ ไม่ควรมีการรวมกลุ่มเพื่อต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าประธาน รองประธาน หรือกรรมาธิการคณะต่างๆ
สว.ชุดใหม่ถึงจะมาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ หลากหลายความรู้ความสามารถ แต่เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนก็มีศักดิ์และสิทธิ์เท่าเทียมกัน
ดังนั้น ในการเลือกประธาน-รองประธานวุฒิสภาที่กำลังจะมีขึ้น ควรให้ผู้มีความมั่นใจและประสงค์จะเป็นประธานวุฒิสภา หรือรองประธาน ได้แสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุม
ใครแสดงวิสัยทัศน์ได้เข้าตา สมาชิกก็ลงคะแนนเลือกในวันนั้น
และเนื่องจากเป็นการลงคะแนนลับ สว.แต่ละคน จึงมีอิสระเต็มเปี่ยมที่จะเลือกคนที่ตัวเองพิจารณาเห็นว่าเหมาะสม โดยไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูก
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่เรียกตัวเองเป็น สว.สีขาว เรียกร้องให้เพื่อน สว.ทุกคน อย่าไปกังวลเรื่องใบสั่ง
มีใบสั่งเดียวที่ สว.ต้องกังวลคือ ใบสั่งจากประชาชน ที่อยากเห็นวุฒิสภาที่โปร่งใส
ที่สำคัญ ข้อครหาที่ สว.ชุดนี้ถูกกดดันจากภายนอก ว่าสังกัดมุ้งนั้นมุ้งนี้ สีนั้นสีนี้ แก้ไขได้ด้วยการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา อย่างโปร่งใส
การประชุมวุฒิสภาวันที่ 23 ก.ค. มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ จึงอยากให้ สว.ใช้ดุลพินิจ ไม่ต้องกลัวเรื่องถูกกล่าวหาว่าเป็นคนของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้หรือไม่
เพราะถ้าโหวตเลือกด้วยเหตุด้วยผล ประชาชนก็จะเห็นเอง การลงคะแนนด้วยความเป็นอิสระแท้จริง จะช่วยขจัดข้อกล่าวหาว่า ได้เข้ามาเป็น สว.ด้วยวิธีบล็อกโหวต หรือจัดตั้งเข้ามา
ในทางกลับกัน ถ้าการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภายังมีบล็อกโหวต มีใบสั่ง ก็เป็นเรื่องน่าเศร้า
วุฒิสภาต้องปลอดจากพรรคการเมือง หากยังยอมถึงขนาดให้พรรคการเมืองเป็นผู้กำหนดตัวประธาน-รองประธาน
ประชาชนคงหมดหวังกับ สว.ชุดนี้ในการทำหน้าที่ตั้งแต่วันแรก
มันฯ มือเสือ