ประชุมวุฒิสภาใหม่นัดแรก เพื่อให้สมาชิก 200 คนโหวตลงคะแนนลับเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา อีก 2 คน
ผลปรากฏว่าเรียบร้อยโรงเรียน “สว.สีน้ำเงิน” ทุกอย่างเป็นไปตามโผ ที่ได้ปิดห้องประชุมหารือตกลงกันไว้ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ ล่วงหน้า 2 วันก่อนถึงวันโหวตจริง
นายมงคล สุระสัจจะ ได้รับเลือกเป็นประมุขสภาสูงคนใหม่ แบบแลนด์สไลด์ 159 คะแนน จากคะแนนเต็ม 200 หรือคิดเป็นร้อยละ 80 จากจำนวน สว.ทั้งหมด
ส่วนที่เหลือ 41 คะแนน แบ่งเป็นของ 2 ผู้ท้าชิงจากกลุ่มอิสระ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ กลุ่ม สว.สีขาว 13 คะแนน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ 19 คะแนน งดออกเสียง 4 บัตรเสีย 5
จากนั้นก็ตอกย้ำซ้ำสองถึงความเป็นน้ำเงินเข้ม ด้วยผลโหวตรองประธานวุฒิ คนที่ 1
“บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เอาชนะผู้ได้รับเสนอชื่อจากกลุ่มอื่นอีก 3 คน ทั้งนายนพดล อินนา นายปฏิมา จิระแพทย์ และนายแล ดิลกวิทยรัตน์ ไปแบบขาดลอย
บิ๊กเกรียง กวาดไปถึง 150 คะแนน คิดร้อยละ 75 จากจำนวน สว.ทั้งหมด
ย้อนกลับไปยังการประชุมโรงแรมพูลแมน เมื่อวันที่ 21 ก.ค. สื่อรายงานว่า มีสว.สายสีน้ำเงินไปร่วมประชุมทั้งสิ้น 150 คน จากเดิมที่มีผู้ประเมินเอาไว้ว่า สว.สีน้ำเงินน่าจะมีอยู่ราว 120-140 คน
ในกรณีนายมงคล ว่าที่ประธานวุฒิสภาคนใหม่ จำนวน 159 คะแนนที่ได้มา จึงถือว่าเกินเป้า ขณะที่บิ๊กเกรียง 150 เสียง พอดิบพอดีกับจำนวน สว.ที่ไปประชุมวางแนวทางการโหวตกันในวันนั้น
ส่วนกรณี นายบุญส่ง น้อยโสภณ การได้รับเลือกเป็นรองประธานคนที่ 2 ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือเป็นเพราะกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ยินยอมปล่อยมือ ยกให้เป็นโควตาของ สว.กลุ่มอิสระ เพื่อจะได้บรรเทาเสียงข้อครหา “กินรวบ” สภาสูง
เนื่องจาก สว.สีน้ำเงิน ได้เก้าอี้ประธานวุฒิสภา กับรองประธาน คนที่ 1 ตรงตามความพอใจแล้ว ทุกอย่างจึงค่อยไปว่ากันต่อในสมรภูมิช่วงชิงตำแหน่งประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ ของวุฒิสภา
ปริมาณเสียง สว. 75-80% ที่มีอยู่ในมือ การยึดครองตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ “เกรดเอ” หรือคณะกรรมาธิการที่เนื้องานสอดประสานกับกระทรวงที่ “พรรคสีน้ำเงิน” กำกับดูแลอยู่
เป็นเป้าหมายที่น่าจะบรรลุผลตามต้องการไม่ยาก
มันฯ มือเสือ