“จะเป็นการไปเยี่ยมประชาชนที่ไม่เคยลืมกันตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ตั้งใจจะไปถามสารทุกข์สุกดิบทักทายกัน”
“การปราศรัยไม่ได้ทำมานานแล้ว ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ แต่จะไม่มีการปราศรัยโจมตีใคร มีแต่เพียงการทักทายเป็นห่วงเป็นใยประชาชน ก็เท่านั้น มั่นใจว่าคนอุดรไม่เคยลืมพรรคเพื่อไทยและยังจำผมได้อยู่เป็นจำนวนมาก”
ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมลงพื้นที่ช่วย ศราวุธ เพชรพนมพร หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ระหว่าง 13-14 พ.ย.นี้
สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี จะมีขึ้นวันที่ 24 พ.ย. นายศราวุธ มีคู่แข่งคนสำคัญคือ คณิศร ขุริรัง หรือ ทนายแห้ว จากพรรคประชาชน ที่ชิงเปิดตัวไปตั้งแต่เดือนมี.ค.67 และโหมโรงปราศรัยใหญ่ครั้งแรกไปแล้วเมื่อ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่ง มีทั้ง “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ “เลขาติ่ง” ศรายุทธิ์ ใจหลัก และ “ประธานเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นเวที ส่วน “อดีตหัวหน้าทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีคิวลงพื้นที่ช่วยหาเสียง 15-17 พ.ย.
สำหรับ จ.อุดรธานี ในทางการเมืองคือเมืองหลวงภาคอีสานของเพื่อไทย
เลือกตั้งปี 62 เพื่อไทยรักษาแชมป์ ชนะยกจังหวัด 8 เขต ทิ้งห่างคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น ต่อมาเลือกตั้งปี 66 จ.อุดรฯ เพิ่มเป็น 10 เขต เพื่อไทยกวาด 7 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นไทยสร้างไทย 2 ก้าวไกล 1 ที่นั่ง เขต อ.เมือง
คะแนนรวมปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย 353,147 คะแนน ก้าวไกล 295,097 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.81 ต่อ 36.61
ขณะที่ภาพรวม สส.อีสาน เลือกตั้ง 66 แม้เพื่อไทยจะได้ สส.เขต มากอันดับหนึ่ง 73 ที่นั่ง แต่ก็หลุดมือไปเกือบ 60 เขต แบ่งเป็น ภูมิใจไทย 35 ที่นั่ง, พลังประชารัฐ 7, ก้าวไกล 7, ไทยสร้างไทย 5, เพื่อไทรวมพลัง 2, ประชาธิปัตย์ 2 และชาติไทยพัฒนา 1
ความเพลี่ยงพล้ำในพื้นที่ภาคอีสานเกือบ 60 ที่นั่ง ทำให้เพื่อไทยสูญเสียสถานะพรรคอันดับ 1 ให้กับก้าวไกล หรือพรรคประชาชนในปัจจุบัน ด้วยส่วนต่างเพียง 10 ที่นั่ง
ด้วยเหตุนี้ สนามการเมืองภาคอีสาน จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่ “เพื่อไทย” และ “ทักษิณ” ต้องรุกไล่ตามทวงส่วนที่โดนเจาะไป กลับคืนมาให้ได้
เริ่มจากสนามนายก อบจ.อุดรฯ เมืองหลวงอีสานเพื่อไทย เป็นสนามทดสอบแรก ที่แค่ชนะอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องแลนด์สไลด์
เพื่อเป็นนิมิตหมายการก้าวไปสู่เป้าหมายใหญ่ ศึกเลือกตั้งสส.ครั้งหน้า
มันฯ มือเสือ