รุก กลางกระดาน
แม้วันเลือกตั้งในประเทศจะยังไม่ถูกกำหนดชัดเจน เพราะต้องเผชิญเงื่อนไขทางกฎหมายอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการยื่นตีความพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และส.ว. ต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าใด จะกระทบกับโรดแม็ปของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ที่ตั้งไว้คร่าวๆ ในเดือนก.พ. 2562 มากน้อยขนาดไหน
แต่ก็เป็นที่รับรู้ได้ว่าคงไม่สามารถเลื่อนไปได้อีกมากน้อยเท่าไหร่
เพราะไม่เพียงแค่กระแสของประชาชนที่แสดงออกถึงการอยากเลือกตั้ง
พรรคการเมืองต่างๆ ก็แสดงบทบาท ขอเป็นทางเลือกให้กับประชาชนกันแล้ว
โดยเฉพาะการนำเสนอความเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่ฉีกออกจากกรอบเดิมๆ
ซึ่งนอกจากพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกจับตามอง พรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ ก็ได้รับความสนใจเช่นกัน
ด้วยการเดินสายแสดงทัศนะของไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ หนุ่มนักเรียนนอกหลานแท้ๆ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคในปัจจุบัน
ซึ่งแสดงจุดยืนไว้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนทหาร ไม่สนับสนุนนายกฯคนนอก
ล้วนเป็นจุดยืนฟากฝั่งประชาธิปไตย ที่ฟังรื่นหูดูไพเราะ
แต่ปัญหาก็คือจะสามารถผลักดันคำพูด ที่เลิศหรูเหล่านี้ได้มีผลเป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่
เพราะต้องเผชิญกับคนหน้าเก่าที่กุมอำนาจในพรรคอยู่
ที่สำคัญ ตัวของไอติม เองก็ยังไม่ได้เป็น แม้แต่สมาชิกพรรค หรือผู้บริหารพรรค จะใช้อะไรเป็นตัวผลักดันให้คนในพรรค เชื่อและปฏิบัติตามจุดยืนที่ว่าไว้ได้
และหากยังจำกันได้ ตัวหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันที่พูดเสมอว่าเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
แต่กลับบอยคอตเลือกตั้งมาแล้วถึง 2 ครั้ง
และปฏิเสธไม่ได้ที่ทำให้เกิดการรัฐประหารถึง 2 ครั้งในรอบ 10 ปี
ไม่นับกับท่าทีการปฏิบัติกับประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งเมื่อปี 2553
ซึ่งมีคนตายอย่างน้อย 99 ศพจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แล้วมาครั้งนี้ ด้วยฝีปากของเด็กหนุ่มที่ไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค
จะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าเปลี่ยนไปแล้ว!??
