ภายหลังนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคประชาชน เข้าพบนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขอให้ทบทวนการบรรจุวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ให้รัฐสภาพิจารณา โดยไม่ต้องทำประชามติก่อน
ถัดมา 2 วัน ประธานวันนอร์ ยืนยันว่า หลังเปิดสมัยประชุมสภาเดือนธ.ค. จะพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ที่บรรจุไว้ทั้งหมด 17 ฉบับ รวมถึงร่างแก้ไขมาตรา 256
วาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 กำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.ร. ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน เคยเสนอต่อรัฐสภามาแล้วเมื่อต้นปี 67
ครั้งนั้น ประธานรัฐสภาไม่บรรจุวาระ เพราะมองว่าขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 2564 ที่ว่า
หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ประชาชนออกเสียงประชามติเสียก่อน ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าผลออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วยจึงดำเนินการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป
แต่ก็มีการโต้แย้งประธานรัฐสภาว่า การแก้ไขมาตรา 256 เป็นเพียงการแก้ไขรายมาตรา ไม่ได้เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ จึงไม่จำเป็นต้องทำประชามติก่อน อันจะเป็นการเพิ่มครั้งการทำประชามติ
จนเป็นเหตุให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ลากยาวออกไปโดยไม่จำเป็น
ซึ่งรอบนี้ ประธานวันนอร์ ยอมรับว่า สมัยประชุมที่แล้วไม่ได้บรรจุวาระ เพราะไปขัดแย้งกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่การเสนอครั้งนี้ฝ่ายประสานงานกฎหมายของสภา และตนเอง เห็นว่าไม่ได้ไปขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญในเรื่องการแก้ไข สามารถนำมาพิจารณาได้
ถึงอย่างนั้นก็ตาม การได้รับบรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเข้าไปแล้วจะผ่านออกมาได้
เพราะยังมีอุปสรรคสำคัญ ทั้งจาก สส. และสว. ที่เห็นต่าง รวมถึงเกณฑ์บังคับที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องได้รับเสียงหนุนจาก สว. 1 ใน 3 ของที่มีอยู่ หรือ 67 เสียง ถ้าไม่ได้ตามเกณฑ์ การแก้ไขก็ต้องตกไป
ซึ่งหากดูจุดยืน สว.ในหลายเรื่องที่ผ่านมา โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.ประชามติ ทำให้เชื่อได้ว่าถึงอย่างไรการผ่านร่างแก้ไขมาตรา 256 ให้มีส.ส.ร.ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ไม่ใช่เรื่องจะเกิดขึ้นได้ง่ายแน่นอน
มันฯ มือเสือ