ระหว่างนำ ครม.สัญจรเชียงใหม่-เชียงราย ได้เกิดกระแสดราม่า นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ลูกหลานคนเหนือ ปล่อยปละละเลยไม่สนใจพื้นที่ภาคใต้ ที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยครั้งร้ายแรง
แม้นายกฯ แพทองธาร พยายามให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ข้อสั่งการต่างๆ ที่มีไปยังรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความพร้อมอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาเมื่อวิกฤตผ่านพ้น
แต่การเมืองฝ่ายตรงข้ามก็ไม่วายหยิบเอาคำพูดนายกฯ เรื่องแต่งงานกับสามีที่เป็นคนใต้ ขึ้นมาเป็นประเด็นโจมตี เรียกความสะใจให้บรรดากลุ่มคนที่ไม่ชอบ นายกฯ และรัฐบาลเพื่อไทยเป็นทุนเดิม
ทั้งที่ในความเป็นจริงรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ตั้งแต่ยุคนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องจนถึงนายกฯ คนปัจจุบัน ต่างก็ให้ความสำคัญกับภาคใต้ เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคอื่นๆ
สมัยนายกฯ เศรษฐา ใช้งบปี 67 ตั้งกองทุนผู้ประสบภัยสำนักนายกฯช่วยเหลือถุงยังชีพ 40 ล้านบาท เยียวยาน้ำท่วม 30 อำเภอภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบ 1,816 ล้านบาท
ยังมีโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ เช่น โครงการพัฒนา 7 จังหวัดภาคใต้13 โครงการ 552 ล้านบาท โครงการกลุ่ม 7 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดละ 50 ล้านบาท รวม 350 ล้านบาท
โครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชน 5 โครงการ รวม 202 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงท่าเรือ ถนนและสาธารณูปโภคพื้นฐานในทุกจังหวัดภาคใต้ ซึ่งนโยบายและโครงการเหล่านี้ก็ได้รับการสานต่อโดยรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร
ล่าสุด ครม.รับทราบตามที่มหาดไทยเสนอขอเพิ่มกรอบเงินทดรองของจังหวัด จาก 20 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท ใน 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยคือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
พร้อมเห็นชอบจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยช่วงฤดูฝนปี 67 เพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงิน โดยปรับหลักเกณฑ์ช่วยเหลือในอัตราเดียวคือ 9,000 บาททุกครัวเรือน วงเงิน 5,000 ล้านบาท ให้มหาดไทยดำเนินการเร่งด่วน
“สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำตั้งแต่น้ำท่วมภาคเหนือ อีสาน ถือว่าเป็นรัฐบาลที่จ่ายเงินได้เร็วมาก ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่จังหวัดไหนในประเทศไทย ก็ต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลแบบนี้เช่นกัน” นายกฯ แพทองธารระบุ
ตัดประเด็นดราม่าออกไป เอาสาระเนื้องานมาว่ากันล้วนๆ
มันฯ มือเสือ