กลายเป็นอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องจากที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ทิ้งบอมบ์กลางงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ถึงบางพรรคร่วมรัฐบาลที่ประพฤติตนเหมือนพวกอีแอบ ไม่ใช่เลือดสุพรรณ

สืบเนื่องจากวันที่ 11 ธ.ค. มี พ.ร.ก.มาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมครม. แต่กลับพบมีรัฐมนตรีลาประชุมถึง 7 คน

จากภูมิใจไทย 3 รวม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย, รวมไทยสร้างชาติ 2 มีชื่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน รวมอยู่ด้วย ส่วนอีก 2 เป็นเพื่อไทย 1 กล้าธรรม 1 ซึ่งไม่น่าเกี่ยว

“วันก่อนมี พ.ร.ก.เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมครม. ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณ ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกัน วันหลังไม่อยากอยู่ ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนี ก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี”

“ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้รัฐมนตรีค่อยๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา”

เสียงคำรามทักษิณ ทำเอาพรรคร่วมรัฐบาลเลิ่กลั่กไปตามกัน

วงนอกหลายคนมองว่า ทักษิณส่งเสียงคำรามเพื่อปรามบางพรรคร่วม ที่มีพฤติกรรมหาจังหวะเตะตัดขาพรรคแกนนำมาตลอด

ไม่ว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่อง พ.ร.บ.ประชามติ หรือก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จนทำให้หลายครั้งที่พรรคแกนนำเสียรังวัด ถูกฝ่ายค้านเย้ยหยัน

กล่าวถึงกฎหมายประชามติ ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือนธ.ค. นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาขู่พรรคร่วมรัฐบาลที่เห็นไม่ตรงกันปมเกณฑ์ผ่านการทำประชามติ ว่าจะเสนอให้ยุบสภา หากพรรคดังกล่าวยังงอแง

แต่ตอนนั้นแกนนำพรรคร่วมที่ถูกพาดพิง ระบุ คนยุบสภาได้มีคนเดียวคือนายกฯ ทั้งยังสวนกลับหมอเชิดชัย “รุ่นใหญ่เขาคุยกัน ไม่ไปคุยกับรุ่นเล็กหรอก เสียเวลา”

กระทั่งมาถึงงานสัมมนาที่หัวหิน “รุ่นใหญ่” ตัวจริงจึงส่งเสียงคำราม รุ่นใหญ่ไม่พูดเรื่องยุบสภา แต่พูดแบบตรงไปตรงมา

อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน