การเมืองไทยส่งสัญญาณร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี หลังจากเปิดประเด็นโหมโรงกันมาตั้งแต่ปลายปีก่อน
ล่าสุดแกนนำฝ่ายค้านพรรคประชาชน ยืนยันชัดเจนจะยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน
กรอบเวลากำหนดไว้คร่าวๆ คือจะยื่นญัตติต่อประธานสภา ภายในเดือนก.พ. จากนั้นคาดว่าจะระเบิดศึกอภิปรายได้ราวปลายเดือน หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมี.ค.
ส่วนวันเวลาที่แน่นอนจะเมื่อไหร่นั้น วิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านจะเจรจาหารือร่วมกัน เพื่อหาจังหวะล็อกวันที่เหมาะสมให้คณะรัฐมนตรี หรือผู้ถูกยื่นอภิปรายได้มีเวลาเตรียมตัว
สำหรับรัฐมนตรีที่มีชื่อติดโผถูกอภิปราย นอกจากนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็น “เป้าหลัก” ในส่วน “เป้ารอง” จะกระจายไปยังรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลเกือบทุกพรรค
รวมแล้วถึง 10 คนหรือไม่ ไม่แน่ใจ ต้องไปลุ้นกันอีกทีช่วงโค้งท้ายเพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบ 1 เดือนก่อนฝ่ายค้านยื่นญัตติ
ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวข้อมูลความผิดพลาดบกพร่องในการบริหารงานของรัฐบาล เพื่อมาประมวลเป็นข้อสรุปอีกทีว่าข้อมูลที่มี แตกแขนงโยงใยไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง
เบื้องต้นที่ฝ่ายค้านแย้มให้ฟังจะเป็นประเด็นกว้างๆ หลายเรื่องทั้งระดับนโยบาย การบริหารราชการที่ล้มเหลว กรณีทุจริตคอร์รัปชั่น เอื้อกลุ่มทุนผูกขาด บิดเบือนกระบวนการยุติธรรมเอื้อตัวบุคคล นโยบายที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่คนในสังคมคอการเมืองเคยรับฟังและติดตามจากข่าวมาบ้างแล้ว
แต่ที่ต้องจับตาคือพรรคประชาชนคุยว่า มี “ข้อมูลเด็ด” ระดับ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ที่ได้รับมา และอยู่ระหว่างตรวจเช็กความถูกต้องของข้อมูล ถ้าพบเป็นเรื่องจริงหรือมั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง ก็จะได้เห็นในการอภิปรายรอบนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองรู้กันทั่วไปว่ากลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ว่าด้วยข้อมูลหมัดเด็ดแค่ไหนก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะ “น็อก” รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายได้ ยกเว้นจะมีความขัดแย้งรุนแรงในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลกันเอง
แต่ไม่ว่าอย่างไร ข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาเปิดเผยต่อสภาผ่านไปยังสาธารณชน จะทำให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจและร่วมตรวจสอบรัฐบาลด้วยอีกทางหนึ่ง
รวบรวมเป็นข้อมูลไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจเมื่อเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึง
มันฯ มือเสือ
