รัฐบาลตกเป็นเป้าโดนโจมตีว่าไม่เด็ดขาดในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งใช้พื้นที่ชายแดนไทยเป็นทางผ่านไปยังเมืองชายแดนของเมียนมา
โดยเฉพาะประเด็นไทยไม่ยอมระงับจ่ายไฟฟ้าที่ใช้หล่อเลี้ยงพื้นที่ดังกล่าว
มีการโยกโย้บ่ายเบี่ยงกันไปมาระหว่างหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือกฟภ. ภายใต้กำกับของกระทรวงมหาดไทย ว่าแท้จริงแล้วอำนาจหน้าที่ตัดไฟเป็นของใครกันแน่
กระทั่งในที่ประชุม ครม.อังคารที่ผ่านมา นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร สั่งการเด็ดขาดเรื่องนี้ว่า หากตรวจสอบพบข้อมูลการกระทำผิดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน นำไฟฟ้าที่ไทยขายให้ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ สามารถตัดกระแสไฟได้ทันที
นายกฯ ยืนยันเรื่องนี้ตนเองพูดในที่ประชุม ครม.โดยไม่มีความลังเล ถ้าดูเรื่องชายแดนชัดเจนก็ตัดได้เลย น้ำมันก็ไม่ต้องส่ง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อคนไทยมาก และมีผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ
ถ้าเรามีความเห็นใจ และเรียงลำดับไม่ถูกต้อง จะเกิดปัญหายาวนานต่อเนื่อง สิ่งที่ประเทศไทยเจอตอนนี้หนักหน่วง กับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงต้องมีมาตรการที่เข้มข้น ต้องถึงเวลาที่ต้องร่วมมือกันและจัดการได้เลย ตัดได้ทันที
ส่วนทันทีคือเมื่อไหร่?
“ตั้งแต่วันนี้เลย ถ้าตรวจสอบแล้วมีรายละเอียดชัดเจน ก็ต้องวันนี้เลย” นายกฯแพทองธารกล่าว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม สนองคำบัญชาเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งการสมช.แจ้งไปยัง กฟภ.ในทันทีเช่นกัน
“ผู้บังคับหน่วยส่วนใด หรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน ให้ปฏิบัติโดยทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าไม่ปฏิบัติตามให้เกิดผลโดยทันที และเรื่องนี้ไม่ต้องเข้า ครม. ถ้าล่าช้าและไม่จัดการภายในไม่กี่วันนี้ ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ไปพิจารณาก็แล้วกันว่าควรจะจัดการแค่ไหน” นายภูมิธรรมระบุ
หากดูจากสัญญาณเข้มๆ ทั้งจากนายกฯ แพทองธาร และรองนายกฯ ภูมิธรรม ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับขนาดของปัญหา ที่ต้องแก้ไขด้วยความเด็ดขาด เพราะปัญหานี้ไม่เพียงกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
หากโยกโย้กันไปมา ไม่เร่งจัดการก่อนที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านจะมาถึง ไฟอาจลุกลามกระทบความมั่นคงของรัฐบาลโดยตรง
มันฯ มือเสือ