‘POTENZA Adrenalin RE004’ – แม้จะเปิดตัวกันไปตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ด้วยเพราะโควิด-19 ทำให้บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังไม่สามารถที่จะทำการตลาดโปรโมตยางรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ ‘POTENZA Adrenalin RE004’ ได้เต็มที่มากนัก

‘POTENZA Adrenalin RE004’ มาในคอนเซ็ปต์ ‘ให้ทุกโค้ง โค้งให้คุณ’

เมื่อสถานการณ์เริ่ม ผ่อนคลาย บริดจสโตน จึงไม่รอช้า จัดให้ผู้สื่อข่าว สายรถยนต์ ร่วมทดสอบสมรรถนะ กันที่สนามทดสอบยางไทยบริดจสโตน (Thai Bridgestone Proving Ground) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มี ‘ชิน นาคามิชิ’ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดและกลยุทธ์ รอต้อนรับพร้อมแนะนำคุณสมบัติ รวมถึงประสิทธิภาพ และสนามทดสอบ ที่มีความทันสมัยและสมบูรณ์แบบแห่งหนึ่งของโลก

‘POTENZA Adrenalin RE004’ เป็นยางที่ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอย่าง ‘POTENZA Adrenalin RE003’ ออกแบบมาเพื่อควบคุมการตอบสนองและการเข้าโค้ง ทำให้รถยึดเกาะถนนและตอบสนองพวงมาลัยแม่นยำ ให้การขับขี่เร้าใจ คล่องตัวสำหรับผู้ที่รักในความเร็ว และใช้ชีวิตในเมือง ร่องดอกยางแบบพิเศษ(Triple & Half Grooves) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำ ป้องกันอาการเหินน้ำ รวมถึงกระจายแรงกดบริเวณหน้าสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนน ทำให้สามารถควบคุมรถอย่างมั่นใจทั้งบนถนนแห้ง และเปียก

บล็อกดอกยางด้านในขนาดใหญ่ (Wide Inside Rib) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนน เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ ส่งผลให้เข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ร่องยางรูปตัว A (“A” Shape & Aggressive Groove) เอกลักษณ์เฉพาะ DNA ของ Adrenalin นอกเหนือจากความเท่ โฉบเฉี่ยวทันสมัยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของบล็อกดอกยาง ลดการบิดตัวของยางขณะขับขี่

ทีมงานบริดจสโตน นำยางรถยนต์ ‘POTENZA Adrenalin RE004’ ใส่ในรถยอดนิยม ทั้งฮอนด้า แจ๊ซ และฮอนด้า ซีวิค ในสเป๊กและลมยางมาตรฐาน








Advertisement

แบ่งการทดสอบกันไปแต่ล่ะสถานี เริ่มจากสถานีทดสอบจิมคานา (Gymkhana) เปรียบเทียบการตอบสนองของพวงมาลัย เสถียรภาพการทรงตัวของรถ (vehicle stability) ขณะเข้าโค้ง และหักเลี้ยวในระยะกระชั้นชิด

สถานีทดสอบการหยุดรถบนถนนเปียก (Wet Brake) (ที่ความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม.) เพื่อทดสอบยึดเกาะบนถนนเปียกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

สถานีทดสอบสมรรถนะการขับขี่บนถนนเปียก (Wet Handling) ที่ความเร็วเฉลี่ย 65-70 ก.ม./ช.ม. เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการยึดเกาะของยาง และการควบคุมรถ โดยใช้ขีดจำกัดความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถรับได้ (Grip limit)

สังเกตจากความสามารถในการควบคุมรถให้อยู่ในไลน์ อาการเลี้ยวไม่เข้า (Understeer) หรือ อาการท้ายปัด (Oversteer) รวมถึงการตอบสนองของพวงมาลัย องศาการหักเลี้ยว และน้ำหนักพวงมาลัยที่ใช้

ทุกสถานีเปรียบเทียบระหว่าง ‘POTENZA Adrenalin RE004’ และ ‘POTENZA Adrenalin RE003’ ที่ใส่ไว้กับรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นเดียวกัน

บอกได้เลยว่าการควบคุมเวลาเข้าโค้ง ‘POTENZA Adrenalin RE004’ ทำได้ไหลลื่นเนียนมือกว่ามาก แค่ประคองพวงมาลัยตัวรถก็ไปในทิศทางที่ต้องการแบบไม่มีหลุดไลน์

แต่กับจิมคานา ส่วนตัวชอบอาการของ ‘POTENZA Adrenalin RE003’ มากกว่า เพราะมีความเป็นธรรมชาติ คือมีอาการให้ได้ไว้แก้ไข ทำให้เกิดความสนุก ตื่นเต้น

ขณะที่ ‘POTENZA Adrenalin RE004’ แทบไม่มีอาการเลยสักนิด

จากนั้นมาต่อกันที่การขับทำความเร็ว กับฮอนด้า ซีวิค เริ่มกันที่ สถานีทดสอบการเปลี่ยนเลน (Long Lane change) ที่ความเร็ว 110-120 ก.ม./ช.ม.

สถานีทดสอบการเข้าโค้ง (Cornering) ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม.

สถานีทดสอบการเปลี่ยนเลนกะทันหัน (Quick L/C) ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม.

สถานีทดสอบการขับขี่สลาลม (Slalom) ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ชั่วโมง สถานีทดสอบการเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง (High speed) ที่ความเร็ว 140-150 ก.ม./ช.ม.

สถานีทดสอบเสียงและแรงสั่นสะเทือน (Noise และ Noise & Comfort) เปรียบเทียบระดับของเสียง รบกวนขณะขับขี่ที่เกิดจากลายดอกยาง (Pattern noise) ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. และทดสอบแรงสั่นสะเทือนโดยใช้ความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม.

ซึ่งทุกสถานี ‘POTENZA Adrenalin RE004’ ทำได้ดีเกินจากที่คาดหวังโดยเฉพาะความนุ่มนวล

ส่วนสถานีที่น่าประทับใจคือการทดสอบเข้าโค้งบนความเร็วสูง ที่ทีมงานซึ่งนั่งไปด้วยอนุญาตให้เข้าโค้งไปได้บนความเร็วปริ่ม 140 ก.ม.ต่อช.ม.

ผลที่ออกมาคือไม่มีอาการ หรือท่าทีว่าจะหลุดโค้งให้ได้รู้สึก จะมีก็แต่เสียงล้อยางที่บดเบียดถนน เอียด เอียด เอียด รุกเร้าอารมณ์

จน ‘อะดรีนาลีน’ พลุ่งพล่านขึ้นอีกเป็นทบเท่าทวีคูณ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน