ท่องเกาะ-ชายหาด ชมฝูงแกะเยอรมัน – ว่าไปแล้วสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศเยอรมนี ยังคง น่าเป็นห่วง เพราะรัฐบาลประกาศบางพื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยง แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ยังเดินทางท่องเที่ยวกันภายในประเทศ ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินทางไปฟังเสียงคลื่นทะเล รับแสงแดดอุ่นๆ ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาวในไม่ช้านี้

ฝูงแกะที่เกาะ Pellworm

ช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิของนักเรียนชั้นประถม-มัธยม จึงวางแผนไปสูดอากาศบริสุทธิ์กัน นอกเมือง โชคดีไปเจอบ้านไร่ที่อยู่ใกล้กับเมืองฮัมบวร์ก และการเดินทางจากบ้านไร่แห่งนี้ไปยังเกาะต่างๆ สะดวกมาก จึงตัดสินใจเช่าพัก แทนที่จะเช่าบ้านบนเกาะ สาเหตุแรกคือสามารถเดินทางไปสถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องรอเรือเฟอร์รี่ ที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

เพื่อความสะดวกจึงเช่ารถยนต์จากบริษัทในฮัมบวร์กเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงก็ถึงบ้านไร่ ความแตกต่างเริ่มเห็นได้ชัดเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยไร่นาสีเขียว ฝูงวัว และฝูงแกะ

ชายหาด Sankt Peter Ording

เป้าหมายแรกคือ Sankt Peter Ording ชายหาดยอดนิยม ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเยอรมนี และทางตอนใต้ของประเทศเดนมาร์ก เนื่องจากเดินทางสะดวก ไม่ต้องนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไป และขับรถจากฮัมบวร์กไปที่ชายหาด ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น มีที่จอดรถพร้อม จึงเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงสุดสัปดาห์ หรือระยะสั้นๆ ใครที่มาแล้วมักกลับมาอีกครั้ง

ชายหาด Sankt Peter Ording ยาวถึง 12 กิโลเมตร ลมทะเล ค่อนข้างแรง จึงเหมาะแก่การเล่นว่าว และกระดานโต้คลื่น

หากใครต้องการดื่มด่ำบรรยากาศแสนโรแมนติกบนชายหาด การเดินเล่น ฟังเสียงคลื่นทะเล สูดอากาศบริสุทธิ์ก็เป็นกิจกรรม ยอดฮิตอีกชนิดหนึ่ง และมีพื้นที่สีเขียวให้เดินชม หรือจะชมความสวยงามของเมืองบนหลังม้าก็ยังได้

เช้าวันที่สอง ขับรถไปท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อไปเกาะ Pellworm และ ในขณะที่โรคโควิดยังระบาด แม้อยู่บนเรือเฟอร์รี่ก็ต้องใส่แมสก์

เกาะนี้ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติ Schleswig-Holstein Wadden Sea จุดเด่นอยู่ที่ความเงียบสงบ และแสงแดด ทำให้เกาะนี้กลายเป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นสำหรับคนที่ต้องการช่วงเวลาสงบและสถานที่ พักผ่อนหย่อนใจ

ประชากรบนเกาะมีเพียง 1,200 คนเท่านั้น ผู้อาศัยอยู่บนเกาะแบบถาวร มีอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงแกะ หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว การดำเนินชีวิตของผู้คนที่นี่ถูกกำหนดด้วยกระแสน้ำทะเล เมื่อใด ที่กระแสน้ำลง จะได้เห็นผู้คนพากันออกมาเดินเล่นบนชายหาด ฝูงแกะขนหนากินหญ้าตามเนินหาด

สภาพอากาศบนเกาะเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าบนแผ่นดินใหญ่ แต่ โชคดีมากที่สภาพอากาศวันนั้นแดดจ้าตลอดวัน เนื่องจากเกาะมี ขนาดเล็ก กิจกรรมที่น่าสนใจคือเดินเล่นสำรวจเกาะ เช่าจักรยาน หรือเล่นน้ำทะเล ตัดสินใจซื้อตั๋วไปกลับ 1 วัน หลังจากที่เดินเล่นกับฝูงแกะบนเกาะก็ถึงเวลาต้องกลับขึ้นฝั่งเสียแล้ว

เช้าวันที่สาม ท้องฟ้าสีส้มอมฟ้า หมอกคละคลุ้งปกคลุมไร่นา ขับรถไปที่ท่าเรือ Dagebull จุดหมายปลายทางคือเกาะ Foehr โดยนำรถยนต์ขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะนี้ ใช้เวลา 50 นาที เมื่อเรือเทียบท่าแล้วก็มุ่งหน้าเดินเท้าไปยังชายหาด

สิ่งแรกที่ต้องทำคือต่อแถวเสียค่าเข้าชายหาด เพื่อใช้ในการบำรุงรักษาเกาะนั่นเอง พอดีเหลือบไปเห็นป้ายตรงทางเข้าหาด ป้ายนี้ระบุว่าชายหาดบริเวณไหนเป็นชายหาดสำหรับคน ชายหาดสำหรับสุนัข ชายหาดสำหรับเล่นกีฬา ทางน้ำ เป็นต้น

มาตรการการจัดการกับสิ่งแวดล้อมของประเทศเยอรมนีน่าประทับใจมาก มาตรการเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อทุกคนร่วมมือและเคารพมาตรการนั้นๆ อย่างเคร่งครัด ไม่แปลกใจเลยที่ชายหาดที่นี่สะอาดหมดจด ไม่มีขยะ หรือมูลสัตว์ให้เห็น

เกาะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทะเลตอนเหนือในเยอรมนี และได้รับขนานนามว่า “เกาะสีเขียว” ประชากรบนเกาะมี 8,600 คน นอกจากภาษาเยอรมันแล้ว ผู้คนที่นี่ยังใช้ภาษา Fering เป็นภาษาท้องถิ่นอีกด้วย ภาษานี้ยังแบ่งออกเป็น 2 สำเนียง คือสำเนียงฝั่งตะวันออกและตะวันตก

ไฮไลต์ในวันนี้คือเดินสำรวจชายหาด และขี่จักรยานชมเมือง Wyk ชายหาดที่มีความยาวถึง 12 ก.ม. และกว้างถึง 6.8 ก.ม. ได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และเห็นคนที่นี่ส่วนใหญ่เลี้ยงม้าหลากหลายสายพันธุ์

ก่อนกลับไปยังฝั่งแวะรับประทานอาหารเย็นที่เน้นอาหารทะเล จานโปรดที่ถูกปากคือแซนด์วิชปลาทอด นำปลาสดๆ จากทะเล มาทอดใหม่ๆ จึงทำให้แซนด์วิชปลาทอดของ ที่นี่อร่อยกรอบ เนื้อฉ่ำ นุ่มและละลายในปาก

ช่วงท่องเที่ยว 3 วัน เป็นทริปที่ทุกคนต่างมีความสุข เพราะนอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์กันเต็มปอดแล้ว ยังได้เก็บภาพสวยๆ ไปฝากพรรคพวกด้วย

 

กมลวรรณ สังขเสนากุล
พอล ริชเตอร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน