เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส. ศิวพร รังสิยานนท์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 ในประเทศเริ่มเกินค่ามาตรฐานในหลายจังหวัด ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบค่าระหว่าง 34-60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

น.ส.ศิวพรกล่าวอีกว่า โดยพบเกินมาตรฐานส่วนใหญ่ในพื้นที่ริมถนนที่มีการจราจรหนาแน่น เกินมาตรฐาน 18 พื้นที่ อาทิ ริมถนนเขตบางขุนเทียน, วังทองหลาง, ดินแดง, ปทุมวัน, ยานนาวา, สายไหม, บางกะปิ, มีนบุรี และหนองจอก เป็นต้น รวมทั้งจังหวัดปริมณฑล คือ จ.สมุทรปราการ และจ.สมุทรสาคร ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 26-66 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานใน จ.ลำปาง จ.พิษณุโลก และจ.เชียงใหม่ ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 16-57 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานใน จ.สระบุรี และจ.สุพรรณบุรี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 17-54 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานใน จ.หนองคาย

ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ปัจจัยหนึ่งมาจากปริมาณการจราจรที่หนาแน่น และติดขัดจากการเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ ของประชาชน จากการคาดหมายสภาวะอากาศ และผลกระทบต่อฝุ่นละอองระหว่างวันที่ 3-9 ม.ค. คาดว่าความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ลมที่พัดปกคลุมเริ่มอ่อนกำลังลงด้วย อาจส่งผลให้มีการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน