เมื่อวันที่ 24 ม.ค. กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วน (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) รายงาน ค่าคุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพหลายจังหวัด เนื่องจาก สภาพอากาศปิด ลมสงบนิ่งทำให้การระบายอากาศยังไม่ดี (ระบายอย่างช้าๆ ) โดยเฉพาะช่วงเช้าอากาศยกตัวได้ไม่ดี และการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มเติม จากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร/การเผาในที่โล่งและไฟป่าจากในพื้นที่และจากจังหวัดข้างเคียง

ขณะนี้หน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่ได้เร่งตรวจสอบจุด Hotspot ควบคุมเพลิงและรายงานผลการปฏิบัติงาน และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อำเภอ ผู้นำชุมขน ประชาชน ดำเนินการมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิดขณะเดียวกันมอบหมายให้สถานีวิทยุกองทัพภาคที่ 3 ในแต่จังหวัดเร่งการประชาสัมพันธ์/รณรงค์/ ให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่

ที่จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดพะเยา เริ่มสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้น หลังชาวบ้านยังคงมีการเผาเศษวัชพืชทางการเกษตร ก่อนที่จะมีมาตรการห้ามเผาโดยเด็ดขาด ซึ่งทำให้สถานการณ์หมอกควันเริ่มเกิดขึ้นและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และเริ่มเกินค่ามาตรฐาน โดย PM 2.5 อยู่ที่ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบม.) เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ PM 10 อยู่ที่ 103 มคก./ลบม. และ AQI อยู่ที่ 170 มคก./ลบม. โดยในวันนี้ถือเป็นวันแรกที่มีค่าหมอกควันเกินค่ามาตรฐาน และสามารถมองเห็นหมอกควันปกคลุมอย่างชัดเจน และส่งผลต่อทัศนวิสัย และสุขภาพ ขณะที่จ.พะเยา สั่งห้ามเผาโดยเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้

ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เริ่มมีมลพิษเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่หนาวและแห้ง ประกอบกับมีการลักลอบเผาหญ้า เผาอ้อย และตอซังข้าวในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือฝุ่นพิษ PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยบริเวณ ต.ในเมือง อ.เมือง มีปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 สูงถึง 58 มคก./ลบม. โดยแสดงผลเป็นพื้นที่สีส้มทั้งเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน