ซิฟิลิส-หนองใน
คืนชีพมาระบาด

กรมควบคุมโรคเผยตัวเลขสุดตะลึงวัยรุ่นไทยอายุ 15-24 ปี ติดเชื้อหนองในและซิฟิลิสเพิ่มมากขึ้นโดยมีสถิติสูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ ถึง 4 เท่า เตือน‘วาเลนไทน์’ถูกตีความในเชิงความรักหนุ่มสาวและเพศสัมพันธ์ แต่ในช่วงเวลาไม่ปกตินี้ควรเป็นแบบนิวนอร์มัลและเซฟเซ็กซ์ มีเซ็กซ์แบบปลอดภัย หากไม่พร้อมไม่ควร มีเซ็กซ์ ใช้ถุงยางอนามัย หากมีโรคทางเพศสัมพันธ์ควรพาคู่นอนไปตรวจด้วย

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า วันที่ 14 ก.พ. เป็นวันวาเลนไทน์ ความหมายเดิมบ่งบอกถึงความรักของชาวโลกต่อนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ แต่ระยะหลังถูกตีความในเชิงความรักหนุ่มสาว จึงมีความเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ แม้เป็นเรื่องปกติของมนุษย์แต่ต้องคำนึงถึงวัฒนธรรมของประเทศ ทั้งนี้ด้านการควบคุมโรคที่มาจากเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์ โดยเฉพาะโรคหนองใน ซิฟิลิส มีแนวโน้มสูงขึ้นชัดเจน ฉะนั้นการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยเป็นสิ่งที่ดี

นพ.โอภาสกล่าวอีกว่าจากการรายงานพบว่ากลุ่มวัยรุ่นช่วงอายุ 15-24 ปี เป็นโรคหนองในเพิ่มขึ้นกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ ประมาณ 4 เท่า หรือ 69.7 ต่อแสนประชากร ส่วนซิฟิลิส เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 41 ต่อแสนประชากร สร้างความกังวลใจ ต่อการควบคุมโรค อย่างไรก็ตามโอกาส วันวาเลนไทน์ หากเป็นไปได้ในแบบนิวนอร์มัลนิวเซฟเซ็กซ์ (New normal New safe sex) คือ 1.การรักเดียวใจเดียว มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย 2.หากยังไม่พร้อม ก็ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ 3.การใช้ถุงยางอนามัย และ 4.หาก ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สิ่งสำคัญคือการพาคู่นอนไปตรวจหาเชื้อด้วย เพราะหากรักษาหายแล้ว 1 คน แต่จะเกิดการติดเชื้อสู่อีกคนได้ และเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ความห่วงใยซึ่งกันและกัน

“การที่เราจะควบคุมโรคเหล่านี้ได้ ต้องตัดวงจรการกระจายเชื้อ และพาคู่ของเราไปตรวจหาเชื้อด้วย และย้ำว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยเป็นการแสดงความรักที่ดี ทั้งนี้มีการสำรวจว่าท่านรักใครมากที่สุด ก็พบว่ามากที่สุดคือครอบครัว พ่อแม่และลูกที่บ้าน อยากให้ทุกคนส่งความรักให้กับทุกคน” นพ.โอภาส กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน