‘เชียงใหม่’รอพายุช่วย
ฉะรัฐบาลไม่เหลียวแล

เหนือยังอ่วมฝุ่นควันพิษ เชียงใหม่ยังปกคลุมหนัก ขณะที่จุดความร้อนจากการเผาลดลงเหลือ 18 จุด จากวันก่อนมากถึง 204 จุด ส่วนที่แม่สาย เชียงรายก็หนักค่าฝุ่นทะลุ 385 มคก./ลบ.ม. ส่วนในตัวเมืองพุ่ง 205 มคก./ลบ.ม. เผยชาวบ้านแห่เข้ารักษาในร.พ.จากอากาศพิษมากขึ้น ผู้ว่าฯ ยอมรับแก้ไม่ได้ ต้องรอฝนฤดูร้อนมาช่วย ‘เพื่อไทย’ เล็งผลักดันปัญหาฝุ่นพิษเหนือสู่เวทีโลก อัดรัฐบาลบิ๊กตู่เมินคนนับล้าน ปล่อยให้เผชิญฝุ่นพิษ ไม่เหลียวแลช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อนจากการเผาเพียง 18 จุดในพื้นที่ 6 อำเภอของจ.เชียงใหม่ ซึ่งลดลงมาจากเมื่อวานที่มีมากถึง 204 จุด อย่างไรก็ตามสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันค่อนข้างหนาทึบ

ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษในต.ช้างเผือก, ต.ศรีภูมิ และต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 อยู่ที่ 99, 117 และ 106 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ สูงเกินค่ามาตรฐาน และกระทบต่อสุขภาพ ได้แจ้งเตือนประชาชน ให้งดการออกทำกิจกรรมนอกอาคารและหากจำเป็นให้สวมหน้ากากป้องกัน

สภาพฝุ่นควันที่ปกคลุมหนาทึบนั้น ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก จ.เชียงใหม่ระบุว่าเป็นผลมาจากมีกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้ามาในจ.เชียงใหม่ และพัดฝุ่นควันจากพื้นที่ข้างเคียง รวมทั้งมีหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีจุดความร้อนสูงเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นแบบนี้มานานกว่าหนึ่งเดือน ทำให้ฝุ่นควันลอยแน่นสะสมตัว

จากการรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพยาการณ์ว่าจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในประเทศไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 6 เม.ย. ซึ่งอาจจะช่วยให้สถานการณ์ฝุ่นควันบรรเทาเบาบางลงได้

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศตามพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงมีฝุ่นละออง และหมอกควันหนาแน่น ทำให้สภาพทั่วไปขมุกขมัวอย่างเห็นได้ชัดและส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะไกล

ขณะที่กรมควบคุมมลพิษตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ในช่วงเช้ามีปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 385 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนที่โรงพยาบาลแม่สาย พบว่ามีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจากโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจมากขึ้น ขณะที่ในเขตอ.เมืองเชียงราย วัดได้ 205 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าช่วงเดียวของวันก่อนในทุกพื้นที่

ขณะที่โรงพยาบาลแม่สายประกาศแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงผลกระทบที่จะมีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยให้ประชาชนงดกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง แนะนำให้ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด และหากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 2.5 ส่วนกลุ่มเสี่ยงควรพกยาติดตัวหากออกจากบ้านด้วยทุกครั้งหรือหากมีปัญหาสุขภาพที่รุนแรงควรรีบพบแพทย์โดยทันที

ก่อนหน้านี้สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย จัดโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เคาะประตูบ้านเตือนภัยพีเอ็ม 2.5 อ.แม่สาย โดยให้อสม.ออกตรวจเยี่ยมประชาชนตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.จนถึงสิ้นเดือนมี.ค. พบมีผู้ป่วยจากโรคผิวหนังอักเสบ 73 คน ผู้ป่วยโรคตาอักเสบ 82 คน ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอกเลือดสมองอุดตัน 59 คน ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง 50 คน ผู้ป่วยโรคหอบหืด 55 คน ผู้ป่วยอื่นที่ไม่มีโรคประจำตัว 1,129 คน และยังพบกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผล กระทบเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองอุดตัน 3 คน โรคทางเดินหายใจ 9 คน ผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง 1 คน

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันทางจังหวัดใช้วิธีการฉีดพ่นน้ำในทุกอำเภอและท้องถิ่น โดยใช้แหล่งน้ำที่มีอยู่แล้วและไม่กระทบกับปัญหาภัยแล้ง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศและทำความสะอาดไปพร้อมกัน

“ส่วนสาเหตุของฝุ่นละอองนั้นยืนยันว่ามาจากการเผาที่ทำให้เกิดควันแต่ไม่ได้มาจากพื้นที่จ.เชียงรายเพียงอย่างเดียว แต่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศที่อยู่ติดกันและอยู่นอกเหนือการดูแลควบคุม ส่วนพื้นที่ภายในจังหวัดได้ดำเนินคดีอย่างเข้มงวดตามกฎหมายที่มีอยู่ เช่นพ.ร.บ.ป่าไม้ฯ พ.ร.บ.การจราจร ฯลฯ โดยเฉพาะป่าเขาที่มีการลักลอบเผา ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 1,000 นายเข้าไปดูแล ซึ่งการปฏิบัติเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะสูงชัน และตั้งแต่ 3 ม.ย.เป็นต้นไป กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีพายุฝน ทำให้ปัญหาจะเบาบางลง ก่อนหน้านี้ผมหารือเพื่อจะทำฝนหลวง แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีความชื้นสัมพัทธ์เพียง 30% จึงไม่สามารถใช้ได้ ต้องมีความชื้นถึง 60% จึงจะทำได้ ดังนั้นเราจึงใช้การฉีดพ่นน้ำไปก่อนเพื่อให้เกิดการระเหย นอกจากนี้จังหวัดยังประกาศเตือนประชาชนให้ดูแลรักษาตัวเอง เช่นไม่ควรออกไปที่โล่งแจ้ง ให้โรงพยาบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดพื้นที่ปลอดภัยหรือเซฟโซนให้ผู้สูงอายุได้ใช้ดูแลตัวเองแล้ว”

ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ติดอันดับของสภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอันดับหนึ่งของโลก คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM2.5 ไปอย่างมาก ส่งผลกระทบกับสุขภาพของพี่น้องประชาชนหลายล้านคน รัฐบาลไทยมีโอกาสนำเรื่องดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมอาเซียน แต่เลือกที่จะเพิกเฉย ไม่มีการนำเสนอปัญหาฝุ่นควันพิษเข้าสู่ที่ประชุมอาเซียน หรือรัฐบาลมองว่าปัญหาดังกล่าวไม่สำคัญ จึงปล่อยให้คนนับล้านคนต้องเผชิญกับปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นเอง นอกจากไม่ให้ความสำคัญ รัฐบาลยังตัดงบประมาณที่จะเอื้อให้มีการพัฒนาการดับไฟป่า ชุดดับเพลิง ทั้งๆ ที่ต้องเพิ่มศักยภาพและความห่วงใยให้กับเจ้าหน้าที่ แต่รัฐบาลนี้กลับไม่ให้ความสำคัญตัดงบประมาณดังกล่าว

นายจักรพลกล่าวต่อว่า น่าเสียดายที่พ.ร.บ. อากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ. … ที่มีการนำเสนอต่อที่ประชุมสภา ถูกตีตก เพราะถูกมองว่าเป็นพ.ร.บ.การเงิน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ให้คำรับรอง ทั้งที่หากมีพระราชบัญญัตินี้ก็อาจจะช่วยให้การแก้ปัญหาง่ายขึ้น เพียงแค่นี้ก็ชัดเจนว่ารัฐบาลไม่มองปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาระดับชาติ ในนามส.ส.ของพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะเสนอ พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ. ต่อสภาแน่นอน และในการประชุมระดับชาติที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมรัฐสภาโลก ประชุมอาเซียน ในฐานะโฆษกคณะกรรมา ธิการต่างประเทศ สภาก็จะนำเสนอประเด็นการแก้ปัญหาฝุ่นพิษในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศให้เป็นวาระเร่งด่วน เพื่อหารือหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันในระดับภูมิภาค เมื่อรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญทางคณะ กรรมาธิการจะใช้ทุกโอกาสที่มีหามาตรการร่วมกัน เพื่อต่อลมหายใจและอากาศที่สะอาดให้กับคนนับล้านคนที่ทนทุกข์ทรมานโดยรัฐไม่เหลียวแล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน