มส.ยัน 5 อดีตพระเถระวัดสระเกศพ้นพระแล้ว ขู่ดำเนินคดีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ อ้างถูกดำเนินการให้พ้นจากสมณเพศ ตามพ.ร.บ. คณะสงฆ์ต้องจำคุก กักขังหรือขังพระภิกษุรูปใดตามคำพิพากษาหรือ คำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลมีอำนาจดำเนินการให้ พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ พร้อมเล็งเชือดรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ขณะเดียวกันก็ฮึ่มเจ้าคุณประสารโพสต์แสดงความคิดเห็นกระทบรัฐบาลเข้าข่ายการเมือง

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม โดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงลาการประชุม ทั้งนี้ภายหลังการประชุม นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษกสำนักพุทธฯ แถลงว่า สำนักพุทธฯ นำกรณีคณะสงฆ์วัดสระเกศ ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสพระภิกษุอธิษฐานครองผ้าไตรจีวรรับเข้าหมู่สงฆ์ ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตพระราชกิจจาภรณ์ อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ และอดีตพระครู สิริวิหารการ เข้าหารือมส. ซึ่งทั้ง 5 รูปอยู่ในช่วงที่ศาลพิพากษาให้รอลงอาญา ประกอบกับในช่วงการดำเนินคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561 อดีตพระเถระทั้ง 5 รูป ได้ถูกดำเนินการให้พ้นจากสมณเพศ ตามมาตรา 30 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2535 ที่ระบุว่า เมื่อจะต้องจำคุก กักขัง หรือขังพระภิกษุรูปใดตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลมีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ และให้รายงานให้ศาลทราบถึงการสละสมณเพศแล้ว

นายสิปป์บวรกล่าวต่อว่า สำนักพุทธฯ จึงนำเข้าหารือมหาเถรฯ เพราะเห็นว่าการที่อดีตพระเถระทั้ง 5 รูป ทำพิธีกลับมาห่มจีวรอีกครั้ง อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 208 ประมวลกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ-สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังปรากฏภาพพระเทพรัตนมุนี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศ นั่งเป็นประธานสงฆ์ในพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งเหมือนเป็นการส่งเสริมสนับสนุน จึงอาจเข้าข่ายความผิดละเมิดจริยาพระสังฆาธิการด้วย มหาเถรฯ พิจารณาตามข้อหารือของสำนักพุทธฯ อย่างถี่ถ้วนและเห็นว่า คณะสงฆ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์ ดังนั้นอดีตพระเถระทั้ง 5 รูปจึงถือว่าพ้นจากความเป็นสงฆ์แล้ว และมอบให้สำนักพุทธฯ ไปหารือ พิจารณาแนวทางในการดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีของอดีต 5 พระเถระวัดสระเกศฯ ที่อยู่ระหว่างรอลงอาญา คือ

1.คดีร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ปราบปรามการฟอกเงิน งบประมาณ พ.ศ.2542 จากงบฯ อุดหนุนในโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนาตามแผนงานอนุรักษ์ส่งเสริมและพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรม ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ โทษจำคุก 4 ปี 16 เดือน ปรับ 112,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี อดีตพระศรีคุณาภรณ์ อดีตพระครูสิริวิหารการ และอดีตพระราชกิจจาภรณ์ โทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 56,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

2.คดีร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จากงบฯ เงินอุดหนุนในโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนาในปีงบฯ 2558 ประกอบด้วย อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ และอดีตพระราชกิจจาภรณ์ โทษจำคุก 6 ปี 24 เดือน ปรับคนละ 168,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี

3.ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่พศ.ทุจริตเงินงบฯอุดหนุนโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชน และข้าราชการ เพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบฯ 2559 โดยอดีตพระพรหมสิทธิโดนโทษจำคุก 48 เดือน ปรับ 36,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

นอกจากนี้ นายสิปป์บวร ว่า หลังพศ.ได้นำกรณีการแสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กของพระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ประเทศไทยเรายังมีรัฐบาลอยู่ไหม” พร้อมทั้งยังตั้งคำถามถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของทางรัฐบาล เปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ด้วยนั้น เข้าหารือมส. ว่ากรณีดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เข้าข่ายขัดคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538 หรือไม่

นายสิปป์บวรกล่าวต่อไปว่า มส.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การแสดงความเห็นดังกล่าวของพระเมธีธรรมาจารย์เกี่ยวข้องกับการเมือง และขัดคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538 จึงให้พศ.ประสานงานกับพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว และไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน