กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ดูแล รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งความดำเนินคดีนักศึกษาและผู้เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมกำหนดชะตาตนเอง ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.ปัตตานี
โดยกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการแบ่งแยกดินแดน ถือเป็นความผิดด้านความมั่นคงของประเทศ ในเบื้องต้น มีผู้ถูกกล่าวหา 5 ราย และมีสมาชิกพรรคการเมืองด้วย
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันยึดมั่นในหลักกฎหมาย ดำเนินการตามพยานหลักฐาน จะทำอย่างระมัดระวัง รอบคอบ พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
แม้หลายฝ่ายทักท้วง เนื่องจากเป็นสิทธิ และเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่กอ.รมน.กลับมองว่ามีเจตนาแอบแฝง หรือเจตนาพิเศษ และไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
ต่อกรณีดังกล่าว คณะทำงานย่อย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ด้านการแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ ไม่เห็นด้วย พร้อมเรียกร้องให้ หน่วยงานความมั่นคงกลับไปทบทวน
เนื่องจากไม่เป็นผลดีต่อการสร้างความสงบ และสันติภาพในพื้นที่ ทางที่ดีควรเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นประชาชน หรือเยาวชนนักศึกษา เพื่อรับมือ กับความเห็นที่แตกต่างได้อย่างสันติวิธี
จึงเห็นว่าควรพูดคุยถกเถียงกันอย่างมีวุฒิภาวะ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันขนาดไหน แต่ถ้าสังคมไทยไม่มีพื้นที่ให้กับคนเห็นต่าง แล้วอนาคตของประเทศจะอยู่กันอย่างไร
ยิ่งการฟ้องร้องคดีลักษณะนี้ในช่วงสุญญากาศทางการเมือง ยิ่งสร้างความเคลือบแคลงใจต่อสังคม มีเจตนาแอบแฝง หรือไม่
เช่นเดียวกับภาคประชาสังคมในพื้นที่ มองว่า การพูดคุยเรื่องรูปแบบการเมืองการปกครอง ควรกระทำได้ เป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ทางความคิดเห็น
ที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงมาตลอด 18-19 ปี และเป็นคดีความ นับพันคดี โดยเฉพาะในขณะนี้ยังมีความกังวลและเป็นห่วง เนื่องจากยังมีความรุนแรงในพื้นที่
หวังว่าข้อทักท้วงจากคณะทำงานย่อย 8 พรรคร่วมที่กำลังเข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่บริหารประเทศ และภาคประชาสังคม ฝั่งกอ.รมน. และหน่วยงานความมั่นคงจะนำไปพิจารณาทบทวน
การใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต้องระมัด ระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่อ่อนไหวชายแดนภาคใต้ จะยิ่งสร้างปมขัดแย้งใหม่ เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสันติภาพ