เมื่อวันศุกร์ที่ 21 เม.ย.2566 สมเด็จ พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทาน พระบัญชาแต่งตั้ง พระเทพวัชรเมธี (สมคิด จินฺตามโย) ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นวาระที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) ตามที่สภามหาวิทยาลัยมีมติอนุมัติแต่งตั้ง

อนึ่ง ในกระบวนการสรรหาอธิการบดี สมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี (มนตรี คณิสสโร) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานกรรมการสรรหา พิจารณาเสนอแต่งตั้ง พระเทพวัชรเมธี ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อีกวาระหนึ่ง

เป็นการสรรหาตามข้อบังคับมหาวิทยาลัย อีกทั้งได้ขอรับความเห็นจากคณะกรรมการคณะธรรมยุตด้วย ก่อนนำความกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระบัญชา

ทั้งนี้ พระเทพวัชรเมธี สิริอายุ 53 ปี พรรษา 33 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย, เลขานุการส่วนพระองค์สมเด็จพระสังฆราช และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

มีนามเดิมว่า สมคิด เนาว์ชมภู เกิดเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2513 ที่บ้านจำ หมู่ 6 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

ในวัยเยาว์ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนภาคบังคับ กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 14 พ.ค.2526 เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดจำทรายมูล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีพระพิศิษฏ์ธรรมภาณ (สมาน รามธัมโม) วัดเชตวัน อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์

ต่อมาเดินทางมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ และเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2533 ณ มหาพัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) เป็น พระอุปัชฌาย์ และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชสารสุธี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระราชมงคลสุธี (เขมฉันโท) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระปริยัติกวีเป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สำเร็จการศึกษานักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 5 ประโยคที่สำนักเรียน วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปรัชญา จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, ปริญญาโท สาขา Buddhist Studies จาก University of Delhi สาธารณรัฐอินเดีย และปริญญาเอก สาขาพุทธศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ปฏิบัติงานด้านการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนามาโดยตลอด กล่าวคือเป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามและเป็นอาจารย์ประจำคณะศาสนาและปรัชญามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ทั้งยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ด้านศาสนศึกษา ตั้งแต่ พ.ศ.2550

ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เมื่อพ.ศ.2562

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ช่วยเลขานุการ แม่กองธรรมสนามหลวง และปฏิบัติหน้าที่พระธรรมทูต ที่วัดธัมมธโร เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อปี พ.ศ.2543

สนองงานและสนองพระดำริ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาเป็นลำดับ อาทิ การจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โครงการสาธุ โขปัพพัชชา ในพระสังฆราชูปถัมภ์

รวมทั้งสนองพระดำริในการจัดตั้งทุนการศึกษาสมเด็จ พระสังฆราชเจ้า (วาสนมหาเถร) และทุนการศึกษาสมเด็จ พระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) ในนามมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เพื่อสร้างศาสนทายาทให้มีโอกาสศึกษาต่อด้านพระพุทธศาสนา ปรัชญา ภาษาบาลี-สันสกฤต และพระไตรปิฎกศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อีกทั้งยังเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ อ.เถิน จ.ลำปาง อันเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบร่มรื่น และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน อำนวยการสร้างหอพุทธปาพจนบดีอนุสรณ์ ตาม พระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2544 เป็นพระครูฐานานุกรม ที่พระครูปลัดสัมพิพัฒนวราจารย์ ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามฯ

พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอุดมธีรคุณ

พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานโปรดเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปฏิภาณโกศล

ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค.2564 ได้รับพระราชทานโปรดเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพวัชรเมธี

ผลงานอันโดดเด่นด้านการศึกษาคณะสงฆ์ ส่งผลให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหามกุฏฯ อีกวาระ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน