วันที่ 4 ส.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. สั่งการ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จับนายสมบัติ หรือโจ จุใจ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้อาวุธ, โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือดูแล เพื่อการอนาจาร และทำร้ายร่างกายผู้อื่น บริเวณหน้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ปทุมธานี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา

ไม่รอด – ตำรวจ บช.น.แกะรอยจับนายสมบัติ จุใจ สวมรอยเป็นคนเร่ร่อนหลบหนีคดีขืนใจด.ญ.วัย 13 ปี ในท้องที่สน.สายไหม เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริเวณหน้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดปทุมธานี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งอายุเพียง 13 ปี โดยใช้วิธีการหลอกล่อชักจูงให้มาเก็บเสื้อผ้าภายในบ้านแลกกับเงินจำนวน 100 บาท โดยเมื่อเด็กหลงกลอุบายของผู้ต้องหา และได้เข้าไปเก็บเสื้อผ้าให้แล้ว ได้ทำการชักมีดมาข่มขู่ เพื่อให้เด็กหญิงยินยอม พร้อมทำการข่มขืนเหยื่อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2566 โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.สายไหม

เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามเพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวมาให้ได้ แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นบุคคลเร่ร่อน และมีประสบการณ์การถูกจับกุมในคดียาเสพติดฯ จำนวนมาก ทำให้ยากแก่การติดตามจับกุม และได้สืบสวนติดตามมากว่า 6 เดือน จนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่านายสมบัติได้มาทำบัตรประชาชนใหม่ บริเวณพื้นที่ จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนเพิ่มเติมจนพบว่านายสมบัติได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเข้าจับกุม สอบสวนนายสมบัติให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวให้พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน