อาการยังน่าเป็นห่วง พ่อค้าคอหมูย่างเหยื่อปืนโคม่า ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ร่างกายไม่ตอบสนอง หลังพ่อค้าขายข้าวแกงฉุนทวงหนี้ที่ติดค้าง 2 แสน ชักปืนยิงโหนกแก้มคว่ำคาตลาดเย็นทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนเข้ามอบตัว ตร.แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ เมียเผยนาทีสามีถูกยิงขณะตักแกงบรรจุถุง
ความคืบหน้านายวรรณา ชายผา อายุ 63 ปี ชาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ก่อเหตุยิงนายสะอาด ศรีฤทธิ์ อายุ 51 ปี พ่อค้าขายคอหมูย่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านน้องแชมป์คอหมูย่าง และหมูปิ้ง ตลาดเย็นทุ่งศรีเมือง ถ.อภัย ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ส.ค. ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด .32 ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากมีปากเสียงกันในเรื่องการทวงหนี้ที่ยืมไปกว่า 2 แสนบาท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรรณา ชายผา อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยังคงอยู่ในห้องขังสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อรอการสอบปากคำจากพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง โดย พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามามอบตัว พร้อมอาวุธปืนขนาด .32 ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการสอบปากคำอย่างละเอียด และสอบพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
พ.ต.ท.สุเทพกล่าวอีกว่า แต่เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุยิงนายสะอาดจริง สาเหตุเกิดจากไปทวงหนี้จากคนเจ็บที่ยืมไปนานแล้วยังไม่คืนแล้วเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงไป 1 นัด กระสุนเข้าที่บริเวณโหนกแก้มด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม สำหรับอาการผู้บาดเจ็บล่าสุดยังคงโคม่า และยังไม่พ้นขีดอันตราย ร่างกายยังไม่ตอบสนอง และยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ซึ่งนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ หรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหลังจากสอบปากคำเสร็จก็จะนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นางนวลจันทร์ ชัยผา อายุ 63 ปี แม่ค้าขายข้างแกงอยู่ตรงข้ามกันซึ่งเป็นภรรยา ผู้ก่อเหตุเล่าว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุนั้นตนยังเห็นสามีบรรจุอาหาร ข้าวแกง ใส่ถุงเตรียมขายให้ลูกค้าตามปกติ ก่อนที่ต่อมาจะได้ยินดังเหมือนเสียงยางรถจักรยานยนต์ระเบิดทางด้านฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นร้านน้องแชมป์ จากนั้นก็เห็นสามีวิ่งข้ามถนนมาขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างร้านออกไป พร้อมที่ได้ยินเสียงพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่กำลังมาเดินเลือกซื้ออาหารร้องตะโกนว่านายแมวถูกยิง และนอนล้มฟุบกับพื้นแล้ว
นางนวลจันทร์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยรู้ว่านายวรรณาสามีมีอาวุธปืน แต่ ระยะหลังๆ นี้จะได้ยินนายวรรณาสามีร้องขึ้นอย่างอารมณ์เสียบ่อยๆ ว่า “อยากฆ่าคนโว้ย” ซึ่งพอถามว่าอยากจะฆ่าใครก็ไม่บอก อีกอย่างที่ผ่านมาสามีค่อนข้างจะเป็นคนอารมณ์ร้อน บางครั้งก็จะตบตีตน แต่ก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงและบาดเจ็บ
สำหรับสาเหตุที่สามีลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายแมวในครั้งนี้เชื่อว่าคงเป็นเรื่องของการทวงคืนเงินที่นายสะอาดกู้ยืมไปเมื่อ 7-8 เดือนก่อนจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการเก็บหอมรอมริบค้าขายข้าวแกงที่ตลาดแห่งนี้มากว่า 20 ปี เท่าที่ตนทราบสามีคิดดอกเบี้ยกับ นายสะอาดร้อยละ 5 โดยนายสะอาดจะนำไปปล่อยกู้กินดอกเบี้ยอีกต่อหนึ่ง และที่ผ่านมานายสะอาดไม่ยอมผ่อนชำระ ซึ่งสามีตนไปทวงถามหลายครั้งก็ไม่ยอมให้ จึงน่าจะเป็นเหตุจูงใจให้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงในครั้งนี้ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกช็อกและเสียใจมาก ในส่วนของคดีความก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และไม่มีหลักทรัพย์ที่จะไปประกันตัวสามีอย่างแน่นอน
ด้านนางประคอง ศุภเมืองแสน อายุ 67 ปี แม่ค้าขายกับข้าวฝั่งตรงข้ามที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนและพ่อค้า แม่ค้า ต่างพากันขายของตามปกติ และช่วงที่ลูกค้ากำลังพลุกพล่าน ผู้คนกำลังมาหาซื้ออาหารเย็น ก่อนเกิดเหตุเห็นนายวรรณาเดินไปหานายสะอาดก่อนจะมีปากเสียงกัน สักพักก็ได้เสียงปืน 1 นัด และเห็นนายวรรณาวิ่งออกมาขี่รถจักรยานยนต์ออกไป แต่ช่วงที่ยิงนั้นตนไม่เห็นเพราะกำลังขายของ
