สะท้อนผ่านโพลมติชนองค์กรท้องถิ่นก็ขอร่วม
2 สว.คนดัง ‘เสรี-วันชัย’ ร่วมโหวตโพล มติชนxเดลินิวส์ สะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาลเศรษฐา สว.เสรีเห็นควรแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ยั่งยืนเป็นอันดับแรก ตามด้วยปัญหาสังคม ขณะที่สว.วันชัยแนะให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชนเป็นอันดับแรก ด้านผู้บริหาร ‘มาสด้า’ อยากให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมั่นใจเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโต
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคึกคักของการทำกิจกรรมระหว่างสื่อในเครือมติชนและเดลินิวส์ ทำโพล มติชนxเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร เริ่มเปิดโหวตเมื่อวันที่ 1-31 ต.ค. โดยกองบรรณาธิการเครือมติชนและเดลินิวส์ ได้ประมวลชุดคำถาม รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? แล้วนำมาเปิดให้ประชาชนโหวต ผ่านทางคิวอาร์โค้ดที่อยู่ในสื่อทั้ง 2 เครือทั้งหนังสือพิมพ์ 4 เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, เอ็กซ์ (ทวิตตอร์), ยูทูบ, อินสตาแกรม และติ๊กต็อก
คำถามมี 2 หัวข้อใหญ่ คือ 1.เร่งแก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม ประกอบด้วย 1.1 แก้รัฐธรรมนูญ, 1.2 ปฏิรูปกองทัพ, 1.3 กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น, 1.4 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, 1.5 รัฐสวัสดิการ และ 1.6 ปัญหาอื่นๆ และ 2.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ประกอบด้วย 2.1 แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, 2.2 “แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ, 2.3 แก้ปัญหาการเกษตร, 2.4 เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี, 2.5 ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน และ 2.6 ปัญหาอื่นๆ
วันเดียวกัน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงโพลมติชนx เดลินิวส์ ที่ออกมาสอบถามความคิดเห็นของประชาชนว่ารัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไรก่อนว่า สิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำเป็นลำดับแรกและให้ความสำคัญ คือ 1.แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ยั่งยืน 2.แก้ปัญหาสังคม เพราะเป็นปัญหาที่จะต้องวางระบบใหม่ ให้ความสำคัญไปที่ความรู้สึก นึกคิด และความเข้าใจของประชาชนในสังคม และต้องมีช่องทางและหาทางออกให้ เช่น ต้องให้ความสำคัญกับนักจิตวิทยาสังคม ให้ความรู้ความเข้าใจกับเด็ก เยาวชน ประชาชน ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนต้องมีที่ปรึกษา ไม่ใช่ปล่อยให้ถูกกดดัน แล้วมีความคิดไปในทางที่รุนแรง หากมีปัญหา หาทางออกทางชีวิตไม่ได้ ก็ต้องมีที่ปรึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ 3.แก้ปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินให้ประชาชนได้รับการบริการที่ไม่ถูกสร้างเงื่อนไขแล้วต้องมาจ่ายเงินใต้โต๊ะกันตลอดเวลา 4.เรื่องการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวเป็น บ่อเกิดของรายได้ ไม่ว่าภาครัฐหรือภาคเอกชน และ 5.แก้ปัญหาการเมือง ซึ่งถือเป็นอันดับสุดท้าย โดยต้องแก้ที่คน แก้ที่นักการเมือง ไม่ใช่อะไรก็แก้รัฐธรรมนูญ นี่คือ 5 ประการที่อยากให้รัฐบาลทำก่อนหลัง
นายเสรีกล่าวต่อว่า อยากให้ประชาชนให้ความสำคัญและเข้าใจเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ในเรื่องการสร้างงานสร้างอาชีพ ไม่ใช่เรื่องแจกเงินดิจิทัล เพราะคือการสร้างปัญหา เพราะฉะนั้นปากท้องของประชาชนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ว่าได้เงิน 1 หมื่นบาทแล้วทำให้ชีวิตดีขึ้น เพราะเงิน 1 หมื่นบาทใช้แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หมด แต่ปัญหาหนี้สินของประเทศโดยรวมกว่าจะแก้หมดใช้เวลาหลายปี ก็จะทำให้กระทบกับการเงิน การคลัง จึงอยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและเข้าใจปัญหาที่แท้จริง
ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงโพล มติชนxเดลินิวส์ ที่ออกมาสอบถามความคิดเห็นของประชาชนว่ารัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไรก่อนว่า สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำเป็นอันดับแรกคือ เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ ที่รัฐบาลจะต้องรีบพลิกฟื้นคืนมาให้ได้ เพราะประชาชนประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 จนขณะนี้ยังไม่ฟื้น ต้องรีบดำเนินการและฟื้นให้ได้โดยเร็วทั้งประเทศ ประการที่สองคือเรื่องการเมือง การสร้างความรักความสามัคคี การปรองดองสมานฉันท์ แม้ว่าจะเริ่มเข้ารูปเข้ารอยอยู่แล้ว อะไรที่คั่งค้างอยู่ ทำให้เหตุของการปรองดองสมานฉันท์ยังไม่ลงตัว เต็มที่ ให้รีบทำและดำเนินการโดยด่วน และประการที่สาม เรื่องการปราบปรามการทุจริต โกงกิน คอร์รัปชั่น ยังเป็นเนื้อร้ายที่ฝังอยู่ในสังคมไทย รัฐบาลต้องรีบขจัด และดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทันทีทันใด
นายวันชัยกล่าวอีกว่า เสียงของพี่น้องประชาชนสำคัญต้องรีบโหวตใน “ข่าวสด” ด่วน ว่าเราต้องการอย่างไร กระแสเสียง พลังเสียงของพี่น้องประชาชนจะสะท้อนไปยังรัฐบาลให้รีบดำเนินการในเรื่องต่างๆ ตามความต้องการของประชาชน เสียงของประชาชนไม่ใช่เสียงสวรรค์อย่างเดียว แต่เป็นเสียงบอกความต้องการว่าเราต้องการให้รัฐบาลทำอะไร 1, 2, 3 โดยด่วน
ด้านนายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้อำนวยการส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาด และรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่าย และทำการตลาด รถยนต์ “มาสด้า” กล่าวว่า อยากให้รัฐเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเกิดความมั่นใจว่าจะบริหารประเทศให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโต ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ดึงนักลงทุนจากต่างชาติ การันตีราคาพืชผลทางการเกษตร ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน
“ทั้งนี้ ขอเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศมาช่วยกันเป็นเสียงสะท้อนเพื่อให้เสียงเล็กๆ ขอเราไปถึงผู้ใหญ่ในรัฐบาลกันนะครับ” นายอุทัยกล่าว
ทางด้านนายอุทัย ดำรงธรรม ประธานหอการค้า จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า การจัดทำโพลเปิดกว้างให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้แสดงความคิดเห็นเพื่อสะท้อนปัญหาและความต้องการไปยังรัฐบาล ถือเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้มีช่องทางสื่อสารปัญหาและความต้องการในพื้นที่ไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเป็นลำดับแรก เพราะเมื่อปัญหาปากท้องดีขึ้น การเมืองและเรื่องอื่นๆ ก็จะดีตาม เช่น การลดค่าน้ำ ค่าไฟ และราคาน้ำมัน เพื่อช่วยลดภาระเสมือนเพิ่มเงินให้กับประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพราะจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
“ทุกวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ค่าแรงขั้นต่ำมากกว่าวันละ 400 บาทอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเพิ่มค่าแรง แต่ให้ไปลดค่าใช้จ่ายโครงสร้างอื่นๆ เพราะการลดค่าครองชีพให้ต่ำลงจะทำให้ประชาชนอยู่ง่ายขึ้นนี่คือหัวใจสําคัญของการบริหาร จ.สมุทรสงคราม เป็น 1 ใน 22 จังหวัดชายทะเลที่ประชาชนไม่น้อยประกอบอาชีพประมงทะเล และยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงควรรีบแก้ปัญหา เช่น ขณะนี้ จ.สมุทรสงคราม มีแรงงานต่างด้าวที่ยังลงเรือประมงไม่ได้อีกไม่น้อยกว่า 400 คน ทั้งที่นายจ้างนำเข้ามาจดทะเบียนถูกต้องแล้ว มีงานรอให้ทำแต่ทำไม่ได้ และนายจ้าง ต้องจ่ายเงินให้มานั่งกินนอนกินมาหลายเดือนแล้ว จะเปลี่ยนนายจ้างก็ไม่ได้ เพราะติดกระบวนการของ PIPO ติดกระบวนการของภาครัฐ เป็นปัญหาที่ซ้ำซ้อน จึงควรมีคณะทํางานเป็นศูนย์กลางในแต่ละจังหวัด เพื่อรับข้อมูลจากประชาชนโดยตรง แล้วสะท้อนไปยังรัฐบาล เช่นเกียวกับเดลินิวส์และมติชน กำลังทำอยู่ตอนนี้” นายอุทัยกล่าว
ส่วนนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ หรือปัญหาปากท้องของประชาชน ต่างมีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรแก้ไขปัญหาหรือเดินควบคู่กันไป การเมืองต้องทำปากท้องก็ต้องเร่งทำเช่นกัน สำหรับหัวหินเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูง อยากให้รัฐบาลได้เสริมเรื่องเส้นทางการจราจรทั้งในพื้นที่และเส้นทางระหว่างจังหวัด เพื่อรองรับจำนวนท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
“อยากให้ท่านนายกฯ เศรษฐาผลักดันเรื่องถนนคู่ขนานทางรถไฟ ทั้งฝั่งซ้ายและขวาข้างละ 10 เมตร เพื่อเป็นถนนโลคัลโรด สำหรับประชาชนทุกคนที่มาใช้ชีวิตอยู่ใน อ.หัวหิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อให้ทุกคนได้รับความประทับใจ น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีความสะดวก ปลอดภัย และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมกัน โหวตมติชนxเดลินิวส์ มาร่วมกันส่งเสียงของคุณไปถึงรัฐบาล เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ตรงกับความต้องการของประชาชน” นายนพพรกล่าว
ขณะที่นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า สิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลเข้ามาแก้ไขคือปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องก็ต้องมาก่อน ในนามขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนใหญ่ทุกคนก็จะพูดถึงการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ก็อยากให้รัฐบาลแก้ไขแผนขั้นตอนการกระจายอำนาจว่า จะกระจายอำนาจท้องถิ่นให้มีอำนาจในการบริหารและบริการประชาชนมากขึ้น ต้องให้อำนาจในการตัดสินใจ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการให้งบประมาณกับท้องถิ่นเพื่อมาดำเนินการพัฒนา
“เทศบาลนครพิษณุโลกอยากให้ทางรัฐบาลพัฒนาสนามบินพิษณุโลก ให้มีเที่ยวบินมากกว่านี้ ให้พิษณุโลกเป็นเมืองที่ต้องแวะ จ.พิษณุโลกแม้ว่าจะเป็นเมืองรอง อยากเห็นพิษณุโลกเป็นเมืองที่มีความสำคัญในเรื่องของประชาชนนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดให้เยอะๆ แม้ว่าเราจะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวก็ขอให้มาพักมากินอาหาร มานอนสักคืนก่อนไปยังจังหวัดข้างเคียง อยากให้เป็นแบบนั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก” นางเปรมฤดีกล่าว
