นักกีฬาเอเชียนเกมส์ทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทอง-เหรียญเงิน-เหรียญทองแดง หางโจวเกมส์ เชิญชวนชาวไทยร่วมโหวตโพลมติชนx เดลินิวส์ สาวนักเทควันโด ‘เทนนิส-พาณิภัค’ อยากให้ช่วยกันส่งเสียงถึงรัฐบาลให้มากๆ ขณะที่ ‘หยู-บัลลังก์’ เจ้าของเหรียญทองเทควันโดอยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่วน ‘น้ำน่าน- ศุภานิช’ ลั่นเสียงเข้มให้แก้ปัญหาปากท้อง ด้าน ‘มาดามเดียร์-วทันยา’ ยืนยันปัญหาการเมืองกับปากท้องเศรษฐกิจต้องแก้ไขไปพร้อมกัน

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานการโหวตโพลมติชนXเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ที่เปิดให้โหวตตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. และจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่สนใจอย่างมาก ทางกองบรรณาธิการในเครือมติชนและเดลินิวส์ ประมวลชุดคำถาม รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? แล้วนำมาเปิดให้ประชาชนโหวต ผ่านทางคิวอาร์โค้ดที่อยู่ในสื่อทั้ง2 เครือทั้งหนังสือพิมพ์ 4 เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, เอ็กซ์ (ทวิตตอร์), ยูทูบ, อินสตาแกรม และติ๊กต็อก

คำถามมี 2 หัวข้อใหญ่ คือ 1.เร่งแก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม ประกอบด้วย 1.1 แก้รัฐธรรมนูญ, 1.2 ปฏิรูปกองทัพ, 1.3กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น, 1.4 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, 1.5 รัฐสวัสดิการ และ 1.6 ปัญหาอื่นๆ และ 2.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ประกอบด้วย 2.1 แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, 2.2 “แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ, 2.3 แก้ปัญหาการเกษตร, 2.4 เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี, 2.5 ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน และ 2.6 ปัญหาอื่นๆ ทั้งนี้ หลังโหวตโพลครบกำหนดถึงวันที่ 31 ตุลาคมแล้ว จะมีกิจกรรมเจาะลึกเรื่องโพลของมติชน-เดลินิวส์ ในเดือนพฤศจิกายน และเชิญนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญการเมืองมาร่วมวิเคราะห์ผล

วันเดียวกัน ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวสด ถ.เทศบาลนิมิตใต้ เขตจตุจักร กทม. ระหว่างการจับสลากแจกรางวัลผู้โชคดีจากการทายผลกีฬาเอเชียนเกมส์ 2003 ซึ่งเครือมติชนจัดขึ้น เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทค วันโด เหรียญทอง รุ่น 49 ก.ก.เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 เปิดเผยว่า อยากเชิญชวนให้แฟนๆข่าวสดทั้งทางออนไลน์ และหนังสือพิมพ์ข่าวสด มาร่วมกันโหวตโพล ออนไลน์ เรื่อง รัฐบาลเศรษฐา ควรแก้ปัญหาอะไร ระหว่าง เร่งแก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม หรือ เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง เพื่อเป็นเสียงถึงภาครัฐว่าประชาชนต้องการให้แก้ไขปัญหาเรื่องไหนผ่านช่องทางต่างๆจากสื่อออนไลน์ของเครือมติชนและเดลินิวส์

ขณะที่ หยู – บัลลังก์ ทับทิมแดง เจ้าของเหรียญทองเทควันโด รุ่น 63 กิโลกรัม ชาย ศึกเอเชียนเกมส์ 2023 หางโจว ประเทศจีน กล่าวว่า “คิดว่า เป็นข้อที่สองครับ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ต้องเร่งมากก็ได้ครับ อยากให้ค่อยๆ ทำไป เพราะผมรู้สึกว่าถ้าเร่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหา มีข้อบกพร่อง หรือช่องโหว่ได้ อยากให้ทุกคนมาแสดงความคิดเห็นกันได้ เพราะว่าประชาชนก็มีหลายมุมมองหลายความคิดเห็น อยากให้ทุกคนมาร่วมกิจกรรมกันเยอะๆ ผมก็อยากรู้ด้วยว่าทุกคนคิดอย่างไรกันบ้าง”

ด้าน “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อดีตโค้ช ช้างศึก กล่าวว่า การเปิดสำรวจความคิดเห็น ที่เดลินิวส์ร่วมกับมติชน ถือเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนคนไทยได้แสดงความเห็นไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ อยากชวนคนไทยร่วมกันตอบโพล เป็นส่วนหนึ่งในการส่งความเห็นไปยังรัฐบาล

ปรัชญา อิสโร นักเทนนิสชายทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดงประเภทชายคู่ เอเชียนเกมส์ ครั้ง 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ได้ร่วมโหวตกิจกรรมของมติชน X เดลินิวส์ ด้วยเช่นกัน โดยนักหวดลูกสักหลาดหนุ่มทีมชาติไทย เลือกโหวตหัวข้อ 2.เศรษฐกิจ ปากท้อง

นักเทนนิสหนุ่มไทย เผยถึงเหตุผลที่เลือกโหวตเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง เนื่องจากต้องการให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนไทย และหากเป็นไปได้ให้เน้นไปที่เรื่องการท่องเที่ยว เพราะหากมีการท่องเที่ยวในไทยจะเกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน

ขณะที่ “น้ำน่าน” ศุภานิช พูลเกิด นักกรีฑาหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญเงิน วิ่ง 4×100 เมตร เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 เลือกโหวตข้อ 2.เศรษฐกิจ ปากท้อง

นักกรีฑาสาวไทยกล่าวถึงเหตุผลว่า “เลือกโหวตเรื่องปากท้องของประชาชน การที่เลือกโหวตเรื่องนี้เพราะหนูเป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำการเกษตร รายได้อาจจะเป็นแบบวันต่อวัน หรือผลผลิตทางการเกษตรต้องใช้เวลานาน เช่นการทำนาต้องรอกว่าจะได้ขายข้าว ซึ่ง 1 ปี จะขายได้เพียง 1 ครั้ง ถ้ารัฐบาลแก้เรื่องปัญหาปากท้องได้ อาจมีส่วนทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นได้”

ที่รัฐสภา น.ส.วทันยา บุญนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ร่วมทำโพล มติชน x เดลินิวส์ สอบถามประชาชนว่าอยากให้รัฐบาลเศรษฐา แก้ปัญหาอะไรก่อนระหว่างเศรษฐกิจและการเมือง ว่า คำตอบจริงๆ ไม่อยากเลือกอันใดอันหนึ่ง เพราะส่วนตัวอย่างไรก็ยังยืนยันว่า ปัญหาการเมืองกับปากท้องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขพร้อมกันมมมม ไม่สามารถแยกเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ เพราะทั้ง 2 เรื่อง ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ถ้าต้องเลือกจริงๆ ว่า รัฐบาลควรแก้ปัญหาอะไรก่อนก็ควรจะต้องเลือกความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวตั้งก่อน ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่กระทบต่อคนจำนวนมากในวงกว้างที่อาจรู้สึกได้ถึงความเดือดร้อนที่ถึงตัวที่มากกว่าปัญหาด้านการเมือง

น.ส.วทันยากล่าวต่อว่า จริงๆ ส่วนตัว อย่างไรก็ยังยืนยันว่าปัญหาการเมืองและปัญหาปากท้องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องแก้ควบคู่กันไป รัฐบาลไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ เพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แม้จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ไม่แก้ปัญหาการเมืองสุดท้ายปัญหาเศรษฐกิจก็จะวนกลับมา และเป็นปัญหาซ้ำๆ และสิ่งหนึ่งวันนี้ปัญหาของประเทศไทย เรื่องรายได้ของประชาชนก็ส่วนหนึ่ง แต่ปัญหาอีกส่วนของประเทศคือเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดจากการกระจุกตัวของรายได้ของคนในประเทศ จึงคิดว่าวันนี้ที่ประชาชนส่วนใหญ่คาดหวังอยากจะเห็นรัฐบาลแก้ปัญหา คงไม่ใช่แก้ปัญหาเพียงแค่การเติมเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียว แต่อยากเห็นรัฐบาลที่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับโครงสร้างว่าจะแก้อย่างไร ทั้งความเหลื่อมล้ำ ทุนผูกขาดในการที่กระจายเม็ดเงินเศรษฐกิจออกไปให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่มีการจ้างงานจำนวนมาก แต่สัดส่วน GDP ในประเทศไทยน้อยมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างกำลังบิดเบี้ยว ปลาใหญ่กำลังไล่กินปลาเล็กอยู่

น.ส.วทันยาได้กล่าวเชิญชวนประชาชนให้ร่วมทำโพลว่า ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วมกันทำโพลของกลุ่มมติชนว่า พี่น้องทุกคนอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องอะไรก่อน เพื่อที่ทางเครือมติชนจะได้นำเอาปัญหาและเสียงของประชาชนทุกคนสะท้อนไปยังรัฐบาลของนายเศรษฐา

ด้านนายสมเกียรติ คำโสม นายกสมาคมคนพิการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงปัญหาที่รัฐบาลชุดนี้ควรแก้ ว่า ควรมุ่งแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้องก่อน เพราะเป็นพื้นฐานของประชาชน หากคนไทยมีเศรษฐกิจที่ดี ความเป็นอยู่ที่ดี สังคมที่ดีก็จะเกิดขึ้นตามมา ส่วนเรื่องเกษตรกรรม เพราะประเทศไทยเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรมและยกเป็นครัวของโลก แต่เป็นเรื่องน่าแปลกว่าฝ่ายประชาชนเป็นผู้ที่ผลิตแต่ไม่ได้รับประโยชน์โดยเฉพาะผลกำไรจากผลผลิตเท่าที่ควร ขาดการสนับสนุนของภาครัฐ ไม่สามารถควบคุม ราคาต้นทุนการผลิตต่างๆ ได้

“ส่วนประเด็นการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผมไม่เห็นด้วยพราะมองเห็นประโยชน์จะได้มาไม่เท่าที่ควร ควรจะต้องแก้คือเรื่องหนี้สินครัวเรือน ให้คนไทยมีงานทำ การจ้างงานที่เหมาะสม ฐานะของสังคมในปัจจุบันที่เราเห็นกันคือ ค่าครองชีพค่อนข้างสูงแต่รายได้ไม่บาลานซ์กับค่าครองชีพ รัฐบาลจึงควรมองการแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจครัวเรือน” นายสมเกียรติกล่าว

“สำหรับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ผมไม่เห็นด้วย เราจะเอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัด อย่างเช่น กลุ่มวัยรุ่นให้ไปแล้วจะไม่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือไปซื้อของนอกรายการ ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้วคงมีปัญหา อาทิ การนำเงินส่วนนี้ไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์แล้วลงบัญชีว่าซื้อสบู่ ยาสีฟัน ถ้ารัฐบาลต้องการจะช่วยให้สถานะความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้นจริงๆ เปลี่ยนจากให้คนละ 10,000 บาท มาเป็นครอบครัวละ 50,000 บาท เพื่อที่ครัวเรือนนั้นๆ จะได้เอาไปลงทุนทำมาหากิน ค้าขายหรือทำการเกษตรต่างๆ จะเป็นการช่วยแบ่งเบาหรือลดภาระกันได้ นอกจากการปลดภาระหนี้สิน” นายสมเกียรติระบุ

นายสมเกียรติกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประมาณราว 2 ล้านครัวเรือน ถ้าแจกให้ครัวเรือนละ 50,000 บาท ก็แสนกว่าล้านบาท การแจกน่าจะเห็นผลมากกว่า เพราะผู้นำในครอบครัวเอาไปลงทุน ซื้อวัวซื้อควายมาเลี้ยงได้ หรือเอาไปลงทุนทำการเกษตรหรือค้าขายก็ได้

“ในอดีตสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็แจกเงินแต่พอแจกปุ๊บ ก็นำเงินไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์กินกัน ถามว่าได้ประโยชน์ไหม ในมุมมองของผมเชื่อว่าเป็นการปลูกฝังความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ถ้ารัฐบาลนี้แจกเงินให้ เชื่อหรือไม่สมัยหน้าก็ต้องแจกอีก เป็นการสร้างนิสัยให้คนไทย เป็นผู้รอรับอย่างเดียว พอไม่ได้ก็เรียกร้องเพื่อที่จะได้มา ทำให้คนไทย ไม่คิดจะดิ้นรน หรือสร้างความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น ฉะนั้นผมจึงเชื่อว่า จะเป็นผลกระทบค่อนข้างมาก” นายกสมาคมคนพิการกล่าว

นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาคนพิการ มองในภาพรวมทั้งประเทศ การประกอบอาชีพของคนพิการนอกจากจะขาดโอกาสแล้วยังมีโอกาสที่น้อยกว่าคนปกติ อาชีพของคนพิการบางกลุ่มจำเป็นต้องมีอยู่ อาทิ การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล คนพิการถนัดและทำมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2517 แต่ปัจจุบันการจำหน่ายสลากไม่มีการควบคุม เหมือนคนพิการถูกรังแก ถูกทอดทิ้ง คือส่วนหนึ่งอย่างที่ทราบทำลอตเตอรี่ดิจิทัล และอีกส่วนหนึ่งมีการกระจายไปตามกลุ่มที่มีอำนาจ

นายสมเกียรติกล่าวว่า อาชีพของคนพิการค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว มองว่าควรจำกัดให้คนพิการเป็นหลัก อาทิ จำหน่ายสลาก นวดแผนไทย อาชีพของคนพิการค่อนข้างมีน้อย จะไปทำอาชีพอื่นๆ อย่างคนปกติก็คงลำบาก อยากให้รัฐบาลมองถึงปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้คนพิการยืนอยู่ได้ เลี้ยงครอบครัวได้ไม่เป็นภาระต่อสังคม จึงอยากให้หันมาเหลียวแลคนพิการ

นายสมเกียรติ กล่าวว่าประเด็นสวัสดิการของคนพิการค่อนข้างน้อย อาทิ ด้านการศึกษา คนพิการมีโอกาสเข้าถึงทุนการศึกษาค่อนข้างน้อย รัฐบาลควรสอนให้เรารู้จักหาปลากินเอง ให้โอกาสไม่ใช่สงสารคนพิการ แค่หยิบยื่นโอกาสให้ โดยเฉพาะอาชีพการงาน ส่งเสริมด้านการศึกษาให้เข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถต่อยอดไปทำมาหากินเองได้ ไม่ต้องเป็นภาระสังคม ที่สำคัญที่สุดหน่วยงานของภาครัฐ ต้องเป็นตัวนำร่องก่อน ไม่ใช่ออกพ.ร.บ. คนพิการมาแล้วบังคับให้บริษัทห้างร้านที่มีคนตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป จะต้องจ้างคนพิการเข้าไปทำงาน 1 คน

นายกสมาคมคนพิการกล่าวว่า องค์กรภาครัฐมีตั้งแต่ ฝ่ายการปกครอง องค์กรปกครอง ท้องถิ่น(อปท.) ต่างๆ หากให้โอกาสคนพิการเอาแค่ 1 คนเข้าไปทำงานจะได้หรือไม่ อปท.ทั้งประเทศมีเท่าไหร่ ก็จะลดภาระต่อสังคมและยังเป็นการช่วยเหลือดูแลครอบครัวได้อีกด้วย

ด้านนายคมกฤษณ์ ลิ้มปัญญาเลิศ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ประชาชนตั้งตารอว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาที่เร่งด่วนอะไรก่อน จากที่ได้สัมผัสกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หลากหลายอาชีพ ทั้งนักธุรกิจ ประชาชน และเกษตรกร ส่วนความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ เช่น การปลดล็อกท้องถิ่น ให้ ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารจัดการบุคลากรได้เอง กฎหมายในปัจจุบัน บุคลากร ตำแหน่งต่างๆ ต้องมาจากส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา แล้วส่งตัวไปตามท้องถิ่นต่างๆ ยากต่อการบริหารจัดการด้านบุคลากรมาก ต่อมาเป็นเรื่องการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกท้องถิ่น มีอายุต่ำลงจากกฎหมายปัจจุบันที่ระบุต้องอายุ 35 ปี ขึ้นไป

“นอกจากนี้อยากให้ปฏิรูปโครงสร้างสังคม นับวันสังคมไทยเริ่มเสื่อมโทรมลง ทุกวัน รวมถึงแก้ปัญหาหนีสินครัวเรือน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน แบบยั่งยืน การแก้ปัญหายาเสพติด ที่กำลังขยายแทรกซึมเข้าไปในสถานศึกษา และสถาบันครอบครัวอย่างจริงจัง ต่อมาเป็นเรื่องการดูแลและให้สิทธิกับผู้สูงอายุ เช่น การรักษาพยาบาลทุกโรค รวมทั้งมีรายได้พอเลี้ยงชีพได้ นอกจากนั้นอยากให้รัฐบาลร่วมการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อรักษาทรัพยากรผืนป่าให้ยั่งยืน และสุดท้ายสิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ ส่งเสริมการศึกษา นำหลักสูตรการศึกษาประวัติศาสตร์ ของชาติไทยกลับมาบรรจุอีกครั้งเพื่อให้เยาวชนคน รุ่นหลังได้เรียน” นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากช่องกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน