พท.สัมมนาสส.-รมต.เร่งตีปี๊บผลงานรัฐบาล

‘เพื่อไทย’ จัดสัมมนา รมต.-สส.-สมาชิกพรรค ที่นครราชสีมา ระดมสมอง-ติวเข้ม ก่อนเปิดสภา เร่งผลักดันนโยบายของพรรค เผย ‘เศรษฐา’ ไปร่วมรับฟังด้วย ‘อิ๊ง’ นัดแถลงเคลียร์ปมงบซอฟต์พาวเวอร์หลังนายกฯ ให้กลับไปคิดใหม่ ปัดตอบอาการป่วย ‘ทักษิณ’ด้านนายกฯ เรียก ผบ.ทหารสูงสุด หารือแก้ปัญหาชายแดนใต้ ลุยปราบยาเสพติด ลดปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ย้ำต้องลดช่องว่างทหารกับประชาชน กำชับกระทรวงยุติธรรม ขยายผลหมูเถื่อน ต้องให้ถึงตัวการใหญ่ เตรียมลุยต่อลงพื้นที่กาญจนบุรีวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ยอด ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ 5 วัน ทะลุ 6.2 หมื่นราย หนี้รวม 2.7 พันล้าน ปลัด มท. ย้ำผู้ว่าฯ เตรียมแผนเชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้ไกล่เกลี่ยหนี้

นายกฯลั่นสาวตัวการใหญ่หมูเถื่อน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีนัดพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และขอบเขตที่กองทัพจะมาช่วย รวมถึงเรื่องฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และเรื่องยาเสพติด ต้องคุยกัน ซึ่งเรื่องฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เป็นเรื่องสำคัญ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลเรื่องการเผาต่างๆ รวมถึงการเผาป่าด้วย

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาหมูเถื่อน นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องสอบถามกระทรวงยุติธรรม ตนได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า เรื่องนี้ต้องสาวไปถึงรายใหญ่ให้ได้

เรียกผบ.ทสส.ถกแก้ยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ จะไปร่วมงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่จ.นครราชสีมา วันที่ 6-7 ธ.ค. จะต้องมีการชี้แจงหรือสรุปผลงานกับที่ประชุมอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบ ตนจะเดินทางไปตอนบ่ายวันที่ 6 ธ.ค. หลังเสร็จภารกิจในช่วงเช้า

จากนั้นเวลา 08.15 น. นายเศรษฐาเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล และได้เรียก ผบ.ทสส. เข้าหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า ปกติตนจะพบกับผบ.ทสส.เป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้รับทราบข้อมูลแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ แนวทางการทำงานกับรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซีย รวมถึงปัญหายาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาจากเมียนมา ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง โดยทหารจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อปราบปรามยาเสพติดและสกัดการนำเข้าอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งต้องพึ่งฝ่ายความมั่นคงค่อนข้างมาก

ย้ำลดช่องว่างทหาร-ประชาชน
“อีกเรื่องที่คุยกันในภาพรวมคือ ผมอยากให้ทหารมาช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด ปัญหาสิ่งแวดล้อม เรื่องที่ดินทำกิน ช่วยดูแลปัญหาน้ำไม่ให้ท่วม ไม่ให้แล้ง รวมทั้งดูแลทุกข์สุขของประชาชน นอกเหนือจากเรื่องความมั่นคงที่ดูแลอยู่แล้ว จะช่วยลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย” นายเศรษฐากล่าว








Advertisement

เตรียมเปิดวิ่ง – ทางหลวงมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราช สีมา ช่วงเลียบเขื่อนลำตะคอง ที่เตรียมเปิดใช้ในวันหยุดปีใหม่ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ไปตรวจความพร้อม ที่จุดอุโมงค์คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในวันที่ 6 ธ.ค.

เศรษฐาฟิต-9 ธ.ค.ลุยกาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 10.00 น. นายเศรษฐาจะลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ติดตามความคืบหน้าเส้นทางโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ที่ทางแยกต่างระดับท่ามะกา (ทางหลวงหมายเลข 3394) /ทางแยกต่างระดับท่าม่วง (ทางหลวงหมายเลข 3081)

จากนั้นนายกฯ เดินทางไปยังบ้านพักของนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย ก่อนเดินทางไปสำนักงานเทศบาลปากแพรก อ.เมือง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก บริเวณถนนชุมชนเมืองกาญจน์ และเวลา 14.00 น. นายกฯ เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมกาญจนบุรี ที่อบจ.กาญจนบุรี และเวลา 15.00 น. นายกฯ เยี่ยมชม “สัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควประจำปี 2566” ที่ลานการแสดงแสง เสียง สะพานข้ามแม่น้ำแคว อ.เมือง

จากนั้นเวลา 16.30 น. นายกฯ จะเดินทางไปยังท่าอากาศยานกำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อขึ้นเครื่องไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นประธานเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่หอศิลป ร่วมสมัยเมืองเชียงราย และร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ชมริ้วขบวน และเยี่ยมชมผลงานศิลปะที่จัดแสดงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในบริเวณงาน ก่อนเดินทางกลับ กทม.

อิ๊งปัดตอบงบซอฟต์พาวเวอร์
ที่สนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐาให้พิจารณางบประมาณกว่า 5,100 ล้านบาทของโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ใหม่ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นงบที่มากเกินไป โดยน.ส.แพทองธารกล่าวสั้นๆ ว่า จะให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาพรรควันที่ 6-7 ธ.ค.

เมื่อถามถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชิณวัตร อดีตนายกฯ น.ส.แพทองธารยิ้มและส่ายหน้า พร้อมกระดิกนิ้วชี้ไปมาเชิงปฏิเสธการตอบคำถาม

พท.จัดระดมสมองกำหนดอนาคต
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการสัมมนาพรรค ที่จ.นครราชสีมา วันที่ 6-7 ธ.ค.ว่า เพื่อให้สมาชิกภายในพรรคได้พบปะกัน เพราะเราทิ้งช่วงห่างการสัมมนาพรรคมานานพอสมควร และพรรคเพิ่งมีกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่เข้ามา คงมีกิจกรรมระดมความคิด สิ่งที่สมาชิกพรรคแสดงออกว่า อยากเห็นอนาคตของพรรคเป็นอย่างไร ขณะนี้พรรคมีสมาชิกแบ่งเป็นกลุ่มได้ 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ สส. รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรค และข้าราชการการเมือง ซึ่งจะได้ร่วมพูดคุยกันเพื่อกำหนดอนาคตของพรรค แต่คงไม่ลงรายละเอียดอะไรมากเป็นพิเศษ

ชี้กม.นิรโทษควรถกในชั้นกมธ.
เมื่อถามถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ระบุว่าพรรคเตรียมเสนอประกบกับร่างของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง นายสรวงศ์กล่าวว่า ตอนนี้คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคกำลังร่างอยู่ ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่เมื่อ เราเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขึ้นมา เพื่อพิจารณารายละเอียดของกฎหมาย ดังกล่าว อยากให้รายละเอียดอยู่ในการพิจารณาของกมธ. มากกว่าการถกกันในห้องประชุมใหญ่ เพราะกลัวประเด็นจะแตกเกินไป อยากให้ตกผลึกในชั้น กมธ.วิสามัญก่อน และหากใครมีข้อเสนอแนะก็ให้เป็นข้อเสนอแนะในกมธ.ไป

ส่วนที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ระบุยังไม่มีการพูดคุยกันภายในพรรค นายสรวงศ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว พรรคศึกษากันอยู่ ส่วนที่นพ.ชลน่านระบุนั้น อาจหมายถึงการหารือของรัฐบาล หรือไม่ แต่สุดท้ายเราต้องหารือร่วมกันอย่างแน่นอน

เผยยังไม่หารือในวงสัมมนาพรรค
เมื่อถามว่าบางพรรคไม่เห็นด้วย หากการนิรโทษจะมีคดีทุจริตรวมอยู่ด้วย นายสรวงศ์กล่าวว่า จริงๆ อยู่ในรัฐธรรมนูญ อยู่แล้ว ซึ่งการร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ อะไรที่เป็นคดีทางการเมืองที่เป็นเรื่องของความคิด เราเห็นด้วยแน่นอน แต่หากเป็นเรื่องของการทำผิดกฎหมายอื่นๆ นั้น ต้องดูในรายละเอียด
เมื่อถามว่าจะนำเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าพูดคุยในวันสัมมนาพรรคหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้อาจจะเป็นการประชุมของทีมผู้บริหารพรรค จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมพรรคต่อไป

ติวเข้มสส.-ปั่นงานให้ตรงใจปชช.
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาพรรคเพื่อไทย วันที่ 6-7 ธ.ค.ว่า รัฐบาลเดินหน้าทำงานมา 2 เดือนกว่าแล้ว ระหว่างนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา พรรคจึงจัดสัมมนาขึ้นเพื่อให้ฝ่ายบริหารที่มาจากพรรคเพื่อไทย ทั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรัฐมนตรีของพรรค ได้พบปะพูดคุยกับ สส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนในฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อบอกกล่าวสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ทั้งการลดราคาค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน การพักหนี้เกษตรกร การเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรีที่ประกาศจะเพิ่มเป็น 25,000 บาทในปี 2570 ตอนนี้เราก็ปรับฐานให้เป็น 18,000 บาท

การปราบปรามยาเสพติด ราคายางพาราก็เพิ่มขึ้น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อให้ สส.ไปบอกต่อยังประชาชนและรับฟังเสียงสะท้อนกลับมา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังเตรียมความพร้อมของ สส.ก่อนเปิดสมัยประชุมสภา ในวันที่ 12 ธ.ค. เพราะจะมีการผลักดันกฎหมายเข้าสภาหลายเรื่อง อาทิ พ.ร.บ.ประมง พ.ร.บ.ราง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ที่จะใช้ขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงการผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลจะเสนอต่อสภาในการเปิดประชุมสมัยหน้า โดยการสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของสมาชิกพรรค ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ให้การดำเนินงานของพรรคเพื่อไทยตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด

ลงทะเบียนแก้หนี้ทะลุ 6.2 หมื่นราย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (5 ธ.ค.) เป็น วันที่ 5 ของการเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จากข้อมูลเมื่อเวลา 15.30 น. มีประชาชนลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งสิ้น 62,030 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 58,447 ราย และการลงทะเบียน ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 3,583 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 34,924 ราย มูลหนี้ 2,793.289 ล้านบาท

โดยมีพื้นที่/จังหวัด 5 ลำดับแรกคือ 1.กรุงเทพฯ มีผู้ลงทะเบียน 4,030 ราย เจ้าหนี้ 2,718 ราย มูลหนี้ 239.605 ล้านบาท 2.นครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 2,597 ราย เจ้าหนี้ 1,536 ราย มูลหนี้ 105.121 ล้านบาท 3.สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 2,592 ราย เจ้าหนี้ 1,514 ราย มูลหนี้ 134.078 ล้านบาท 4.นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 2,452 ราย เจ้าหนี้ 1,197 ราย มูลหนี้ 115.300 ล้านบาท 5.ชลบุรี มีผู้ลงทะเบียน 1,557 ราย เจ้าหนี้ 851 ราย มูลหนี้ 78.604 ล้านบาท

มท.ย้ำผู้ว่าฯเตรียมแผนไกล่เกลี่ย
สำหรับจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.แม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 78 ราย เจ้าหนี้ 41 ราย มูลหนี้ 2.942 ล้านบาท 2.ระนอง มีผู้ลงทะเบียน 124 ราย เจ้าหนี้ 65 ราย มูลหนี้ 3.984 ล้านบาท 3.สมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 176 ราย เจ้าหนี้ 111 ราย มูลหนี้ 5.493 ล้านบาท 4.ตราด มีผู้ลงทะเบียน 188 ราย เจ้าหนี้ 75 ราย มูลหนี้ 3.760 ล้านบาท 5.สิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 215 ราย เจ้าหนี้ 119 ราย มูลหนี้ 9.035 ล้านบาท

นายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ในวันนี้ตน ได้สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศกำชับให้ทีมฝ่ายปกครอง ทั้งจังหวัดและอำเภอ ได้ บูรณาการร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สถานีตำรวจภูธร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ รวมถึงทีมแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของอำเภอ/จังหวัด เตรียมการและซักซ้อมแนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ พร้อมทั้งประมวลข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อจะได้มีหนังสือเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพบ เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยยังคงเปิด รับลงทะเบียนประชาชนผู้ได้รับความ เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร.1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน