ที่ใช้ไม่เกิน‘300หน่วย’ถึงกฤษฎีกาแล้วดิจิทัล

รมช.คลังเผยส่งคำถามเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ใช้ในโครงการแจกดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เน้นคำถามเดียวเรื่องความชอบด้วยฐานอำนาจตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 53 ได้หรือไม่ ด้าน‘ภูมิธรรม’ระบุจากนี้ไปก็ขึ้นอยู่ กับดุลพินิจว่าขัดข้องหรือต้องพิจารณา รายละเอียดมากขึ้นเพียงใด ถ้าไม่มีก็จบเร็ว ด้าน ‘พีระพันธุ์’ เตรียมชงครม.ของบกลาง 2 พันล้านบาท ตรึงค่าไฟให้กลุ่มเปราะบาง 17.7 ล้านครัวเรือน ที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยอยู่ที่ 3.99 บาท/หน่วยต่อไป เป็นของขวัญปีใหม่ เลือกหัวหน้าปชป.ยังฝุ่นตลบ 21 สส.ประชาธิปัตย์ส่งเทียบเชิญให้ ‘เฉลิมชัย’ นั่งหัวหน้าคนที่ 9 แล้ว เจ้าตัวยังอุบ ตัดสินใจบอกรอให้ถึงวันโหวตก่อน ด้าน ‘ชวน’ ยกคำพูดสส.สงขลากรีด ระบุจะ เลือกใครเป็นหัวหน้าแล้วแต่ ‘เสี่ยต่อ’ สั่ง เพราะเป็นเลขาฯ พรรคที่ดูแลมาตลอด 4 ปี

หนุนนั่งหัวหน้า – สมาชิกพรรคทั้งสส.และอดีตสส. มอบดอกไม้ให้กำลังใจและเรียกร้องให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ขณะที่เจ้าตัวขอคุย กับสส.ก่อนตัดสินใจ ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 8 ธ.ค.

เฉลิมชัยขอคุย21สส.ปชป.ก่อน

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และรักษาการหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณี สส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 21 คน ผลักดันให้เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ว่า ตนต้องคุย กับสส.ทั้ง 21 คนอีกครั้งหนึ่ง ยังไม่ได้ คุยรายละเอียดกันเลย วันนี้ตนเข้าพรรค เพื่อเตรียมการประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ขอเรียนตรงๆ เรื่องจะให้ตนเป็นหัวหน้าพรรคเป็นสิ่งที่ตนคิดมากที่สุดในชีวิต การจะตัดสินใจแต่ละเรื่อง ไม่ใช่ว่าจะตัดสินใจทันที แต่สิ่งหนึ่งที่แสดงให้ ทุกคนเห็นแล้วคือนับตั้งแต่วันเลือกตั้งจบ ตนไม่เคยแสดงความกระสันหรืออยากจะเป็นอะไรเลย แค่อยากให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้เท่านั้นเอง นี่คือจุดที่ตนแสดงออก 4-5 เดือนที่ผ่านมา

“เรื่องนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม จึงต้องคุยกับกลุ่มที่เสนอมาอีกครั้ง ไม่ได้เชิญสส.พรรคประชาธิปัตย์ไปกินข้าว ที่บ้านผมมา 2 เดือนแล้ว ผมไปทำธุรกิจ ที่จีน ลาว คนที่รู้ดีที่สุดคือมาดามเดียร์ น.ส.วทันยา บุนนาค ไปถามดูได้ เพราะผมคุยกับท่านเป็นประจำ นี่สิ่งที่อยากให้สังคมรับรู้ว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่ผมดำเนินการก็มีความรับผิดชอบในส่วนของผม บ้านหลังนี้เป็นบ้านของผม ผมก็ต้องการให้บ้านหลังนี้เดินไปข้างหน้าได้ด้วยความราบรื่น มีหลายเรื่องภายในที่คนภายนอกไม่รู้ ฉะนั้นคิดว่าเรื่องนี้ขอให้ผมได้คุยกับ สส.อีกครั้งหนึ่งก่อน” นายเฉลิมชัยกล่าว

เมื่อถามว่าหากสส.ยังยืนยันให้เป็นหัวหน้าพรรคจะทำอย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่เป็นไรขอคุยก่อน ทุกอย่างต้องมีเหตุและผล จึงต้องขอคุยก่อนดีกว่า เพราะเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ไม่ได้คุยอะไรกันมาก คุยกันประมาณ 5 นาที

ย้ำทั้งชีวิตปกป้องประชาธิปัตย์

เมื่อถามว่า 21 สส.มองว่าหากนาย เฉลิมชัยนั่งหัวหน้าพรรคจะมีเอกภาพ จะยอมเสียสละหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ แต่ก่อน จะมีผลหรือมีข่าวอะไร ตนอยากให้ใช้ความคิดกันสักนิดว่าการจะนำเสนอสิ่งต่างๆ ขอให้ทุกอย่างใช่ก่อน 2 วันที่ผ่านมาตนก็โดนด่าฟรีไปเยอะแล้ว ขอถามสั้นๆว่าตนเป็นผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในรอบ 30 ปี ทั้งคนที่เคยเลือกพรรค และ ไม่เคยเลือกพรรค คนที่ติดตามทางการเมือง มีผู้บริหารคนไหนกล้าถวายชีวิตเหมือนตนบ้าง เอาชีวิตเป็นตัววัด เอาชีวิตมาให้พรรคเลย เอาชีวิตปกป้องผู้นำพรรค ไปศึกษาประวัติมาเลย มีผู้บริหารพรรคคนไหนบ้างกล้าทำแบบตน

“ผมไม่ได้อยากดัง วันหนึ่งผมจะพูดให้ฟังเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร เพราะมีความพยายามเบี่ยงเบนไปว่าที่ผมประกาศจะเลิกเล่นการเมือง เพราะอวดดี อวดเก่ง อยากดัง ท่านไม่ได้อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ท่านไม่รู้หรอก แต่ผมยืนยันได้เลยว่าผมใช้ชีวิตทั้งชีวิตปกป้องพรรค ผมเป็นคนไม่พูดมาก เล่นการเมืองไม่เก่ง แต่มีความจริงใจให้พรรค ผมเคยถามว่าน้องๆ สส.ที่เขานับถือผม ผมผิดใช่ไหมที่ผมดีกับเขา ผมออกมาดูแลพรรค ดูแลเขาแล้วมีตรงไหนบ้างที่ผมเสียหาย ผมกล้าพูดว่าผมเป็นรัฐมนตรีที่สุจริตคนหนึ่งเหมือนกัน กล้าพูดว่าผมไม่เคยแตะเงินโสโครก ขอให้รอนิดหนึ่งคุย กับสส.อีกครั้งว่าเป็นอย่างไร ต้องมีเหตุมีผลเพราะบางเรื่องเป็นเรื่องภายในอาจพูดออกมาภายนอกไม่ได้” นายเฉลิมชัยกล่าว

เมื่อถามว่าหากทำเพื่อพรรคพร้อมกลับคำพูดที่ว่าไม่เล่นการเมืองแล้วหรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่ต้องห่วง อย่างไรท่านเจอตนอยู่แล้ว ตนไม่หนีไปไหน

21สส.เทียบเชิญ‘ต่อ’หัวหน้า

เมื่อเวลา 12.20 น.ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม มีบรรดาสมาชิกพรรค สาขาพรรค สส. อดีตสส. อดีตผู้สมัครสส. รวมทั้งนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ผู้สมัครหัวหน้าพรรคที่ประกาศถอนตัว ร่วมมอบดอกไม้ให้กำลังใจและเรียกร้องให้นายเฉลิมชัยรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนที่ 9 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และตะโกนดังกระหึ่มให้นายเฉลิมชัย สู้ๆ และรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค

นายนราพัฒน์กล่าวว่า การที่ 21 สส. ได้ลงชื่อสนับสนุนนายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อนำพาพรรคกลับมาเป็นที่ชื่นชมของพี่น้องประชาชน ตรงนี้เป็น จุดสำคัญ ที่ผ่านมาตนตั้งใจจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อลดความขัดแย้ง ใช้เวลา 1 ปีครึ่งเพื่อทำให้พรรคเรียบร้อย ให้พรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วจะถอยออก แต่วันนี้ได้เห็นพลังของสส. 21 คนรวมเป็นหนึ่ง ถือเป็นเจตนารมณ์ที่ตนต้องการ จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่สนับสนุนนายเฉลิมชัย เพื่อให้กลับมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียวเสียที จึงอยากให้รับตำแหน่งตรงนี้ พวกเราจะได้สบายใจและมีความสุขเสียที วันนี้ประชาธิปัตย์จะได้นับหนึ่งจากการเป็นเอกภาพ

ชัยชนะสวมกอดแน่นเฉลิมชัย

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรี ธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่าการตัดสินใจของสส.กลุ่ม 21 คน ที่เห็นตรงกันว่านายเฉลิมชัยเป็นบุคคลที่เหมาะสม ตลอดระยะเวลาที่นายเฉลิมชัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ทุ่มเททำงานเพื่อพรรค และเป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีข้อครหาทุจริตคอร์รัปชั่น

“ในฐานะที่ผมเป็นน้องเล็กสุด นายเฉลิมชัย เป็นพี่ชายคนโต มีนายเดชอิศม์ เป็นพี่ชายคนที่สอง เรา 3 คนพี่น้องรักกัน ไม่ว่าพายุหรืออุทกภัยแปรปรวนจะเข้ามาถึงอย่างไร แต่ไม่สามารถทำให้จิตใจ หัวใจเราทั้ง 3 คนที่มีความเป็นลูกผู้ชายแตกแยกออกจากกันได้ ถึงเวลานี้แล้ว มวลมิตรทั้งหลายของพรรคประชาธิปัตย์จะขอมาเชิญชวนให้นายเฉลิมชัย รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ด้วยความรักและจิตศรัทธาและจะนำพาพรรคกลับมายิ่งใหญ่ในอนาคตอีกครั้ง” นายชัยชนะกล่าว

หลังนายชัยชนะกล่าวเทียบเชิญให้นายเฉลิมชัย ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค นายชัยชนะสวมกอดนายเฉลิมชัย อย่างแนบแน่น

‘เดชอิศม์’ชูผู้นำ-เสียสละมากสุด

ขณะที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พวกทราบดีว่าตำบลกระสุนตกคือนายเฉลิมชัย เพราะเคยลั่นวาจาว่าจะเลิกเล่นการเมือง การตัดสินใจของนาย เฉลิมชัยวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว เด็ดขาดของความเป็นผู้นำ และถ้านายเฉลิมชัยไม่พูดอย่างนั้น วันนี้พรรคคงได้สส.ไม่ถึง 25 คน หลังจากวันนั้นจนถึงวันเลือกตั้งได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหลมาตลอด นายเฉลิมชัยทำหน้าที่เป็นแม่ทัพได้อย่าง ไม่ขาดตกบกพร่อง ตนมั่นใจว่านาย เฉลิมชัยชนะใจผู้สมัครสส.เขตทุกคน นายเฉลิมชัยเป็นคนที่เสียสละมากที่สุด เสียสละมาทั้งชีวิต จึงขอร้องให้เสียสละอีกครั้ง

“บางคนที่ไม่เข้าใจ อาจไม่เคยได้รับ จึงมาโจมตีนายเฉลิมชัย ผมอยากบอกว่าความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่น มันซื้อกันไม่ได้ มันออกมาจากใจแล้วเปล่งออกมาเป็นคำพูด ผมขอฝากไปถึงคนที่ยังไม่เข้าใจและโจมตีท่าน เพราะถือว่าท่านเป็นผู้เสียสละที่สุด มั่นใจความคิดความอ่านของนายเฉลิมชัย” นายเดชอิศม์กล่าว

นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตสส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ทรุดโทรมและตกต่ำ และคาดการณ์ว่าจะตกต่ำไปมากกว่านี้ นายเฉลิมชัยจึงเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในการฟื้นฟูพรรค ขอให้รับตำแหน่ง แล้วให้ทุกคนรอดูผลงาน เชื่อว่าพรรคจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน

ให้คำตอบวันประชุมโหวตหัวหน้า

ด้านนายเฉลิมชัยกล่าวว่า ขณะนี้ตน ยังไม่ตัดสินใจจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ วันที่ 9 ธ.ค.ต้องชัดเจนว่าตนจะเดินหน้าต่อหรือไม่ และก็ต้องรู้ข้อเท็จจริงที่เป็นความรู้สึกของสส.ในพรรคทุกคนให้หมดก่อนว่ามีเหตุผลอะไร ตนต้องมีเหตุผลเพียงพอที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่สำคัญสุดต้องมีคำตอบให้ตัวเองได้ การตัดสินใจของตนไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มีแต่ขาดทุนกับเสมอตัว แต่ตนมีสำนึก

“สิ่งที่เรียกหาจากพรรคที่ผ่านมาก็คือสำนึก จะไปคุยเหตุคุยผลบวกลบคูณหาร หากจะทำให้ประชาธิปัตย์เดินได้ก็จะพิจารณา แต่ถ้ามีเหตุการณ์ใดที่พรรค จะต้องแตก เลือดไหลไม่หยุดอีกผม ก็จะต้องพิจารณา ฉะนั้นพรุ่งนี้มีคำตอบแน่นอน” นายเฉลิมชัยกล่าว

นายเดชอิศม์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขณะนี้เชื่อมั่นนายเฉลิมชัยจะรับเป็นหัวหน้าพรรค 50:50 เพราะนายเฉลิมชัย ยังต้องวิเคราะห์และทำอย่างไรให้ตัวเองบาดเจ็บน้อยที่สุด แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วนายเฉลิมชัยจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคหากนายเฉลิมชัยรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ตนพร้อมเป็นเลขาฯ พรรคให้ เพราะถือว่าลงตัวที่สุด และสามารถทำงานกับนายเฉลิมชัยได้ แต่ตนไม่รับเป็นเลขาฯ พรรคให้กับคนอื่นแน่นอน

เดียร์ย้ำเสนอตัวชิงหัวหน้า

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรค แถลงว่าจุดยืนที่ตั้งใจเสนอตัวเองเป็นทางเลือก เพราะเชื่อมั่นและศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ หนทางเดียวที่จะทำให้พรรคกลับมาเป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของประชาชนคือการทำจุดยืนและอุดมการณ์ให้กลับมาชัดเจน ดังนั้น พรรคต้องเสนอทางออกเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง “เดียร์ตั้งใจและศรัทธาในวิถีอุดมการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดใดๆ ไม่เปลี่ยนจุดยืน แต่จะขอสู้ให้ถึงที่สุด”

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ 21 สส. สนับสนุนให้นายเฉลิมชัยทั้งที่เคยประกาศจะเลิกเล่นการเมือง น.ส.วทันยากล่าวว่า ไม่รู้สึกอย่างไร ยิ่งมีจำนวนผู้สมัครมากเท่าใดสมาชิกจะมีโอกาสที่ดี เมื่อถามว่า ยังมีความหวังหรือไม่เพราะดูแล้วผลโหวตจะเทไปในทางนายเฉลิมชัย น.ส.วทันยากล่าวว่า วันที่ตนตัดสินใจเพราะศรัทธาวิถีของพรรคเช่นนี้ จึงตัดสินใจลงมือทำ ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นจะขอทำตามความฝันและสู้ถึงที่สุด

ขอประเมินหลังทราบผลเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าหากผลการเลือกตั้งออกมาว่าแพ้ยังจะอยู่กับพรรคหรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ขอกลับมาประเมินอีกครั้งว่าทิศทางจะยังเป็นเหมือนเดิมกับวันแรกที่เดินเข้ามาสมัคร และเหมือนวันแรกที่เราศรัทธาหรือไม่ ตนศรัทธาพรรคในสิ่งที่เป็นอุดมการณ์ ประชาชนเป็นเจ้าของ สมาชิกทุกคนมีเสรีภาพทางความคิด ไม่มีเจ้าของมาชี้นิ้วสั่ง เมื่อถามว่าหากไม่เป็นไปตามที่หวังจะออกจากพรรคหรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ ต้องขอประเมินก่อน

เมื่อถามว่าก่อนเลือกหัวหน้าพรรค ที่จะถึงนี้ อยากฝากบอกไปยังเพื่อนสมาชิก น.ส.วทันยากล่าวว่า หลายคนบอกตนเป็นเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ แต่วันนี้ในฐานะคนคนหนึ่งเชื่อวิถีอุดมการณ์ ฉะนั้น การให้โอกาสครั้งนี้ไม่ใช่ให้โอกาสตนได้เลือกตั้งหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการให้โอกาสพรรคเติบโตเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่องกก.บห. ชุดใหม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ยังไม่มี และที่ทราบกันอยู่แล้วคือมาด้วยตัวเอง หาก วันนี้ต้องการฟื้นฟูต้องเลิกที่จะเลือกจากความสัมพันธ์ และจากระบบอุปถัมภ์ ต้องก้าวข้าม เลือกคนที่คุณสมบัติและความสามารถ หากเลือกเพราะความสัมพันธ์และระบบอุปถัมภ์จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งของคนในพรรค

‘ชวน’ไม่ทราบสส.ทาบเฉลิมชัย

ด้านนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลในการเลือกหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ในวันที่ 9 ธ.ค. หลัง 21 สส.พรรคมีมติให้นายเฉลิมชัย นั่งเป็นหัวหน้าพรรค ว่า คิดว่าเรียบร้อย และการที่สส.จะเสนอชื่อนายเฉลิมชัยนั่งหัวหน้าพรรคก็ไม่ทราบ ตนดูจากข่าวเท่านั้น

“ความจริงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ซึ่งพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา เขาพูดในที่ประชุมพรรคหลายครั้งว่าจะเลือกใครเป็นหัวหน้าพรรคดี ก็แล้วแต่เลขาธิการพรรคสั่ง เพราะเลขาฯ ดูแลเขามา 4 ปีแล้ว” นายชวนกล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวจะเลือกใครเป็นหัวหน้าพรรค นายชวนกล่าวว่า ยังไม่ได้ มีการประชุมกันเลยและไม่ทราบว่ามีใครเสนอตัวบ้าง ตนให้กำลังใจทุกคนที่จะลงสมัครหัวหน้าพรรค ส่วนน.ส.วทันยา ก็ให้กำลังใจที่มีความตั้งใจและน่าชื่นชม แต่จะเลือกใครก็แล้วแต่สมาชิกพรรค

วิปเผยร่างกม.2ฉบับจ่อเข้าสภา

วันเดียวกัน นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล เผยว่า วิปรัฐบาลนัดประชุม วันที่ 12 ธ.ค. พิจารณาและเตรียมความพร้อมต่อการประชุมสภาวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เบื้องต้นทราบว่าจะมีร่างพ.ร.บ.ที่ครม. เตรียมเสนอต่อสภา แน่นอน 2 ฉบับ ตามที่ครม.มีมติ คือ ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงและ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 พ.ศ. … ขณะที่ยังมีร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาล อีก 3 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ประมง, ร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด และ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่) พ.ศ. ที่ว่าด้วยสิทธิสมรสเท่าเทียม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตามกระบวนการ คาดภายในธ.ค.นี้ ครม.จะส่งมายังสภาให้พิจารณาบรรจุวาระได้ ส่วนร่างกฎหมายที่เสนอโดย สส. ที่อยู่ระหว่างหรือเสร็จสิ้นการรับฟังความเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 เช่น ร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรม หรือร่างพ.ร.บ.ยุบ กอ.รมน.นั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นในระเบียบวาระ ตน ไม่แน่ใจว่าผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นแล้วหรือไม่

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ของการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ 2567 ต่อสภา นายศรัณย์กล่าวว่า ต้องรอการประสานงานจากรัฐบาลอีกครั้ง เข้าใจว่าอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อม รวมไปถึงร่างกฎหมายที่จะใช้เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เช่น ร่างกฎหมาย เงินกู้ 5 แสน นี้ยังรอฟังความเห็นจากกฤษฎีกา ตามกระบวนการอาจต้องใช้เวลา

คลังส่งกฤษฎีกาแล้วกู้ 5แสนล.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของร่างพ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยพิจารณาหรือยังว่า ทราบว่าทางนาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ส่งไปแล้ว

เมื่อถามว่าได้กำหนดกรอบเวลาพิจารณาหรือไม่ต้องให้เสร็จโดยเร็ว นายภูมิธรรมกล่าวว่า งานทุกอย่างที่รัฐบาลทำขณะนี้อยากให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ไม่ปล่อยให้เชื่องช้า แต่ก็ต้องอยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่ามีข้อขัดข้อง หรือข้อที่ต้องพิจารณาให้ละเอียดมากขึ้นแค่ไหน ถ้าไม่มีก็จบเร็ว อยู่ในดุลพินิจอยู่แล้ว และทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาและรู้ว่าที่เราต้องทำเรื่องนี้เพื่อแก้วิกฤต ดังนั้นถ้าคิดว่าเป็นวิกฤต ก็คงต้องรีบพิจารณา

เมื่อถามว่าถึงแม้กฤษฎีกาจะมีข้อท้วงติงอย่างไรรัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ต้องดูรายละเอียด แต่เรื่องนี้เป็นนโยบายที่เราพูดกับประชาชนและแถลงต่อสภาแล้ว ดังนั้นจุดมุ่งหมายโครงการนี้เราหวังว่าจะช่วยเป็นใบเบิกทางเริ่มต้นที่จะทำให้เศรษฐกิจบูมขึ้นและเดินต่อไปได้ ข้อวิพากษ์วิจารณ์หรือข้อห่วงใย ถ้าไม่ใช่สาระสำคัญก็ไม่มีปัญหา อาจปรับปรุงและเดินหน้าต่อไป แต่ถ้าเป็น ข้อท้วงติงที่จะมีผลกระทบกับโครงการ เราก็ต้องมาดูอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร

ชี้ประชามติต้องยื่นศาลวินิจฉัย

นายภูมิธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนของอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นแล้ว สภาและสว.ตอบแบบสอบถามแล้วทั้ง 2 ส่วน ขณะนี้กำลังเปิดเวทีให้พูดคุยกันเพื่อให้ทราบทิศทาง ทั้ง 2 สภามีความเห็นอย่างไร เพราะเป็น ผู้พิจารณาเรื่องนี้ในขั้นตอนสุดท้าย เราต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ผ่านให้ได้ ส่วนการศึกษาการทำประชามติมีความเห็นแตกต่างกันว่าต้องทำกี่ครั้ง โดยเสนอให้พรรคการเมืองผ่านสส. เพื่อส่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนพรรค เพื่อไทยจะพิจารณาเรื่องนี้วันที่ 12 ธ.ค.

เมื่อถามถึงรูปแบบที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาการทำประชามติจะเป็นเช่นใด หรือเสนอเป็นญัตติเพื่อให้สภาพิจารณา นายภูมิธรรมกล่าวว่า รูปแบบอาจเป็นเช่นนั้น แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรค ประธานสภาก็ไม่ขัดข้อง ถ้าคุยกันแล้ว หากที่ประชุมหารือแล้วยังไม่ได้ ข้อสรุป ประธานสภาจะยื่นถามศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัย

เมื่อถามว่าคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ จะดำเนินการแล้วเสร็จสิ้นปีนี้ตามไทม์ไลน์เดิมหรือไม่ ก่อนเสนอ ผลการศึกษาให้ครม.ต้นปี 67 นายภูมิธรรมกล่าวว่า คิดว่าสิ้นปีนี้ก็น่าจะจบ คณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ จะมีข้อสรุปทั้งความเห็นที่ตรงกันและ ไม่ตรงกันเป็นอย่างไร และเรามีเห็นอย่างไร หลังปีใหม่ก็จะเสนอให้ ครม.พิจารณา เมื่อถามว่า กระบวนการทำประชามติจะเริ่มต้นในไตรมาสแรกของปี 2567 ยึดตาม ไทม์ไลน์เดิมใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คิดว่าต้องอยู่กับความเป็นจริง ขอยืนยันว่าเราจะทำให้เร็วที่สุด การทำประชามติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ต่างๆ ด้วย

ส่งแล้วกฤษฎีกา-คำถามกู้ 5แสน

วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า คลังได้ส่งหนังสือคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ในการถามความเห็นนี้ กระทรวงการคลังได้มุ่งถามความเห็นทางกฎหมาย ไม่ได้ถามความเห็นทางเศรษฐศาสตร์ หรือ ไม่ได้ถามว่าเศรษฐกิจวิกฤตหรือไม่ โดยมีจำนวนคำถามเพียง 1 ข้อ ความยาว 4-5 หน้ากระดาษ A4 ซึ่งหนังสือที่ออกโดยสำนักปลัดกระทรวงการคลัง ในนามเลขาฯ ของคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet

“ที่ถามไปหลักๆ เป็นเรื่องความชอบด้วยฐานอำนาจตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของมาตรการ 53 ได้หรือไม่ จะเน้นเรื่องการดำเนินการเรื่องการกู้ เพราะเป็นคำถามที่ถูกฝากไว้ในชั้นกรรมการที่ประชุมคือเรื่องนี้ ไม่ถามเรื่องอื่น เพราะเรื่องอื่นผ่านหมดแล้ว เช่น พ.ร.บ.เงินตรา”

สำหรับ ขั้นตอนหลังจากกฤษฎีกาตอบกลับมาแล้วนั้น หากไม่ขัดต่อกฎหมายกระทรวงการคลังจะยกร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยคาดว่าใช้ระยะเวลายกร่างไม่นาน เนื่องจากเนื้อหาไม่มีความซับซ้อน เพราะพ.ร.บ.กู้มีเพียง 6-7 มาตราเท่านั้น เมื่อแล้วเสร็จจากนั้นนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อด้วยสภา และมีตั้งกรรมธิการ 3 วาระ ซึ่งเป็นตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าจะเข้าสู่การพิจารณาสภาช่วงต้นปี 2567

ปปช.ยังเกาะติดแจกเงินดิจิทัล

ที่เมืองทองธานี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบเฝ้าระวังโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า มีการประชุมทุกสัปดาห์ วันเดียวกันนี้ก็ประชุม มีการขอเอกสารจากหน่วยงานราชการและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ทั้งกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง สำนักนโยบายหนี้สาธารณะ และผู้ทรงคุณวุฒิ

นายนิวัติไชยกล่าวด้วยว่าการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกรอบเวลาดำเนินการว่าประชาชนจะได้รับเงินเท่าไร หรืองบประมาณที่จะใช้จะส่งให้ประชาชนใช้ด้วยวิธีอย่างไร ดังนั้น ต้อง เฝ้าระวังติดตามต่อไป ซึ่งกรรมการของ ป.ป.ช. จะเปิดเวทีประชาพิจารณ์สาธารณะ เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไร ล่าสุด จะเสนอร่างกฎหมายกู้เงินเข้าสภา ซึ่งต้องติดตามว่าการใช้เงินเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เมื่อได้รับเงินมาแล้วจะดำเนินการลักษณะใด เป็นเงินดิจิทัลหรือไม่ หรือจะจ่ายเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังไม่มี ความชัดเจน เพราะการดำเนินการของรัฐบาลยังไม่สิ้นสุด จึงต้องรอติดตามเท่านั้น รวมกับการกำหนดประเด็นซักถาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน