ไกล่เกลี่ยทั้งต้น-ดอกลงทะเบียนพุ่ง9.4หมื่น

เจ้าหนี้เหิมเกริมต่อหน้านายอำเภอ โทรศัพท์ข่มขู่ลูกหนี้ขณะลงทะเบียนหนี้นอกระบบ อาฆาตระบุจะบุกเข้าไปทำร้ายทุบตี พร้อมยึดทรัพย์สินสิ่งของภายในบ้านทั้งหมด ส่วนนอภ.สุดทนให้ไปแจ้งความตำรวจล่าตัวมาดำเนินคดีด่วน ปลัดมท.เผยครบ 2 สัปดาห์มีประชาชนแห่งลงทะเบียนหนี้นอกระบบแล้ว 9.4 หมื่นราย มูลหนี้ทะลุ 5,458 ล้านบาท ด้านธนาคารออมสินเด้งรับลุยยกเลิกเก็บดอกเบี้ยลูกหนี้เน่า ยกให้ฟรีหมด หวังดึงเข้าปรับโครงสร้าง จ่ายแค่เงินต้นก็ตัดหนี้ได้ตร.ชลบุรีโชว์ ไกล่เกลี่ยหนี้สำเร็จแล้ว 17 ราย

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ว่าการอำเภอเมืองเลย จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้าวันเดียวกันนี้ ยังคงมีประชาชนที่เดือดร้อนจากหนี้นอกระบบพากันทยอยเดินทางลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลการลงทะเบียนของวันที่ 13 ธ.ค. มีประชาชนมาลงทะเบียนยอดรวมจำนวนทั้งสิ้น 768 คน จำนวนหนี้รวม 59,167,676 บาท

เจรจาหนี้ – ตำรวจภาค 2 และฝ่ายปกครอง เชิญนายทุนเงินกู้นอกระบบและ ลูกหนี้มาเจรจาประนอมหนี้ โดยไกล่เกลี่ยสำเร็จ 17 ราย ยินยอมยกหนี้ เนื่องจากชำระดอกเบี้ยเกินเงินต้นแล้ว ที่สภ. หนองขาม จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.

ล่าสุดได้มีผู้หญิงกลางคนได้มาขอลงทะเบียน พร้อมขอการคุ้มครองกับ เจ้าหน้าที่อำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกเจ้าหนี้ข่มขู่และจะเข้ายึดทรัพย์สิน โดยได้เผยว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายของในเขตอำเภอเมืองเลย ได้ไปยืมหนี้นอกระบบโดยไปยืมเจ้าหนี้ทั้งหมด 5 ราย รวมยอดหนี้ประมาณ 70,000 บาท ส่งดอกแต่ละวัน 1,800 บาท ส่วนใหญ่เป็นดอกลอย มีเจ้าหนี้รายเดียวที่หักทั้งต้นและดอก นอกนั้นส่งแต่ดอกเบี้ยไม่มีหักต้น แต่มีปัญหาเจ้าหนี้ 2 ราย มีการข่มขู่และโทรศัพท์จะมายึดอุปกรณ์ขายของภายในร้าน และทรัพย์สินภายในบ้าน โดยจะเข้ายึดทรัพย์ภายในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ จึงมาลงทะเบียนและขอความคุ้มครองกับเจ้าหน้าที่

หญิงคนดังกล่าว ระบุว่าตนก็มาคิดว่าหากมาแจ้งเจ้าหน้าที่แบบนี้ จะมีผลเสียตามหลังกับเราหรือเปล่า หรือเจ้าหนี้เหล่านี้จะไม่พอใจหรือเปล่า เพราะกลัวเหมือนกันเวลาเราไม่อยู่ร้าน กลัวเขาจะมาเอาทรัพย์สินเราไป และตลอดเวลาตนก็ส่งดอกไม่เคยขาด แต่มาช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ร้านของตนได้มีรถยนต์พุ่งชนร้านพังเกือบหมด จึงไม่ได้ขายของจึงขาดส่งมา 1 อาทิตย์ เจ้าอื่นๆ อีก 3 ราย ไม่มีปัญหาเขายังให้เราหยุดส่งดอกไปก่อน แต่มี 2 รายไม่ยอม ยังให้ส่งดอกตามปกติ แต่มีเจ้าหนี้อีกรายข่มขู่ให้ส่งดอกและจะยึดทรัพย์ โดยเจ้าหนี้รายนี้มียอดกู้ 20,000 บาท แต่ให้ส่งดอกซึ่งรวมดอกที่ไม่ส่งมา 1 อาทิตย์ มียอดทั้งค้างดอกหมื่นกว่าบาท บังคับให้ส่งก้อนเดียว ไม่อย่างนั้นภายในวันที่ 17 ธ.ค.จะเข้ามายึดของในร้านและบ้าน ในขณะที่ตนก็ไม่รู้ว่านายทุนเจ้าของเงินกู้เป็นใคร รู้จักแต่คนมาเก็บเงินกับเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเจ้าหนี้รายนี้จ่ายดอกเบี้ยเกินเงินที่กู้ 20,000 บาทมาแล้ว จึงอยากขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ

ขู่ลูกหนี้ – นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย เปิดรับลงทะเบียนช่วยเหลือ แก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ขณะสอบถามข้อมูลมีเจ้าหนี้โทรศัพท์มาข่มขู่ลูกหนี้ จึงประสานตำรวจเข้าคุ้มครอง และสืบสวนสอบสวนหาตัวเจ้าหนี้มาดำเนินคดี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.

นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย เปิดเผยว่า จากการสอบถามรายดังกล่าวพบว่า มีมูลหนี้อยู่ 5 ราย มี 3 รายแรกส่งดอกเบี้ยรายละ 600 บาท และรายที่ข่มขู่ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ก็มีเจ้าหนี้โทรศัพท์เข้าข่มขู่ซึ่งต่อหน้าตนเลย โดยจะเข้ายึดภายในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ และข่มขู่จะทำร้ายร่างกายด้วย หลังจากมีการข่มขู่กรณีนี้ ตนจึงให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองเลยไว้ก่อน เพื่อนำสู่ขบวนการสอบสวนและจับกุมเจ้าหนี้รายนี้ต่อไป พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งอส.เข้าคุ้มครองลูกหนี้รายนี้ทันที พร้อมหาข่าวและสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดี เจ้าหนี้รายนี้ให้ได้ต่อไป

ที่สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม, นายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา และเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ร่วมช่วยเหลือไกล่เกลี่ยประนอมหนี้

พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนกรณีนายวิชัย บุญศรี ขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย เนื่องจากถูก เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบข่มขู่ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งตนมีเจ้าหนี้ทั้งหมด 37 ราย ยอด 965,000 บาท ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กรณีนายวิชัยขณะนี้ ศปน.ภ.จว.ชลบุรี และ ศปน.สภ.หนองขาม สามารถนำเจ้าหนี้เข้ามาสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเชิงบูรณาการได้จำนวน 17 ราย โดยมีเจ้าหนี้ 15 ราย ได้รับชำระดอกเบี้ยเกินเงินต้นแล้ว จึงตกลงยกหนี้ทั้งหมดให้กับลูกหนี้และไม่ประสงค์ที่จะเรียกร้องหนี้ใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเจ้าหนี้อีก 2 ราย ประสงค์ขอรับชำระหนี้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น และเจ้าหนี้ที่เหลืออีกจำนวน 20 ราย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่า มีเจ้าหนี้ จำนวน 11 ราย ที่ได้รับชำระหนี้หมดแล้ว จะได้ติดตามตัวมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยในโอกาสต่อไป

เมื่อเวลา 10.40 น. วันเดียวกัน ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา ผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม มีการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เรื่องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ผลการลงทะเบียนช่วงแก้หนี้นอกระบบ ช่วงวันที่ 1-12 ธ.ค.พบว่า 5 จังหวัดมีประชาชนมาลงทะเบียนมากสุด ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้ที่มาลงทะเบียน แสดงให้เห็นว่า ลูกหนี้ไม่กล้ามาลงทะเบียนแก้ปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ อยากทราบว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาลูกหนี้ที่ไม่กล้ามาลงทะเบียนอย่างไร เพราะทุกวันนี้เจ้าหนี้ยังส่งคนไปตามเก็บดอกเบี้ยลูกหนี้อยู่ และจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ในการแก้ปัญหา

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า หลังจากที่ลูกหนี้มาลงทะเบียนแก้ปัญหาแล้ว จะใช้กลไกฝ่ายปกครอง และตำรวจเรียกเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเจรจาไกล่เกลี่ยหากตรวจสอบพบว่ามีการชำระหนี้เกินยอดเงินต้นที่ยืมมาแล้ว จะเจรจายุติยอดหนี้ทั้งหมดอย่างละมุนละม่อม ยอมรับว่าที่ประชาชนยังไม่กล้ามาลงทะเบียนแก้ปัญหา เพราะยังลังเลรอดูความจริงใจของรัฐบาลว่าจะเอาจริงเอาจังกับการแก้หนี้นอกระบบอย่างเป็น รูปธรรมแค่ไหน และรอดูฝ่ายปกครอง ตำรวจ จะดูแลความปลอดภัยได้แค่ไหน เชื่อว่าหลังจากนี้ประชาชนจะทยอยมาลงทะเบียนแก้ปัญหาเพิ่มขึ้น

นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า ตัวเลขหนี้นอกระบบที่มาลงทะเบียนขณะนี้จำนวนหลายพันล้านบาท แต่เชื่อว่า ยังต่ำกว่าตัวเลขจริงจำนวนมาก การที่เจ้าหนี้บางส่วนลองของ ใช้กำลังข่มขู่ คุกคามลูกหนี้ที่มาขึ้นทะเบียน ไม่ยอมรับกระบวนการเจรจานั้น ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายเอาผิดการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย และ เชื่อว่าจะแก้ปัญหานี้นอกระบบได้เป็น รูปธรรม เบื้องต้นคือ ให้หยุดการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ทั้งนี้รัฐบาลมีทางเลือกแก้ปัญหาโครงสร้างหนี้นอกระบบ ผ่านกลไกพิโค่ไฟแนนซ์ที่เป็นสถาบันให้กู้ขนาดเล็ก มีกระทรวงการคลังกำกับ ผ่านกระบวนการลงทะเบียน มีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 5 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ย 33% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หากไม่มีหลักประกันจะมีอัตราดอกเบี้ย 36% เป็นแนวทางสร้างเครื่องมือกลไกการเงินขนาดเล็ก รองรับปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งนี้ เจ้าหนี้นอกระบบสามารถผันตัวเข้าขอ ใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง เพื่อทำธุรกิจถูกกฎหมาย มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารพาณิชย์

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลผลักดันแก้ไขปัญหาหนี้ประชาชน โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กำหนดนโยบายให้เรื่องดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ ธนาคารออมสินจึงได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง จัดทำมาตรการแก้หนี้และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดธนาคารออมสิน ออกมาตรการ “แก้ไขหนี้ลูกหนี้ NPLs” ของสินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยจะยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระ ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นให้ทั้งหมดในวันที่ลูกหนี้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนยอดหนี้ที่เหลือธนาคารจะปรับลดเงินงวดผ่อนชำระเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการลดอัตราดอกเบี้ยในปีแรกลงเหลือ 0% ต่อปี แล้วนำเงินงวดที่ลูกหนี้จ่ายชำระไปตัดยอดเงินต้นทั้งจำนวน

จากนั้นในปีที่ 2 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คาดว่าจะช่วยให้ลูกหนี้มีเงินคงเหลือเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ และยังคงสถานะหนี้ชั้นปกติ ไม่เสียประวัติเครดิต ทำให้ในอนาคตยังสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้

ทั้งนี้ ธนาคารจะจัดส่ง Notification ผ่าน MyMo/SMS และจดหมายเชิญลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการ โดยลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.gsb.or.th และที่แอพฯ MyMo ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2566 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2567 และทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567

นอกจากนั้น ธนาคารจะชะลอกระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายกับลูกหนี้สถานะ NPLs ด้วยมาตรการ “4 ไม่” คือ ไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย แล้วแต่กรณีว่าสถานะคดีของลูกหนี้แต่ละรายอยู่ใน ขั้นตอนใด โดยในการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษตามเงื่อนไข และให้ผ่อนชำระได้สูงสุด 10 ปี กำหนดทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567 เช่นกัน

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวันที่ 14 ซึ่งจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครองเมื่อเวลา 15.30 น. มีมูลหนี้รวม 5,458.426 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 94,415 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 84,184 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 10,231 ราย จำนวนเจ้าหนี้ 64,961 ราย

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าครบ 2 สัปดาห์ของการเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ พบว่ายังคงมีพี่น้องประชาชนลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ และเดินทางมาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยยังคงเปิดรับลงทะเบียน โดยได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาการเป็นหนี้นอกระบบ ได้แสดงตัวด้วยการลงทะเบียนตามช่องทางดังกล่าว ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำให้ที่ทำการปกครองอำเภอ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ สรรพากร ดำเนินมาตรการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ตามแนวทางที่ได้มอบนโยบายไว้

นายสุทธิพงษ์กล่าวด้วยว่าอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญซึ่งกระทรวงมหาดไทยยังคง บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด การใช้ความรุนแรง การข่มขู่คุกคามประชาชนผู้เดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ ที่นอกจากเป็นการซ้ำเติมผู้ที่เดือดร้อนแล้ว ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างยิ่ง จึงได้มีการจัดตั้งโต๊ะข่าวในทุกพื้นที่อำเภอ และออกตรวจติดตามข่าวของฝ่ายปกครองอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำความผิดดังเช่นที่มีเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ หรือการทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ผู้ที่กระทำความผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ขอเชิญพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอล์กอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน