อยู่4ปีเห็นความสำเร็จกระตุ้นลุยแลนด์บริดจ์ชู‘ซอฟต์พาวเวอร์’ด้วยกกต.ฟันอาญา‘สส.พท.’
‘เศรษฐา’ปลื้มคุย นักธุรกิจญี่ปุ่นกระตุ้นลงทุนแลนด์บริดจ์-ซอฟต์พาวเวอร์ ค่ายรถยนต์จ่อลงทุนไทยนับแสนล้าน เผยลาราชการบ่าย 19 ธ.ค.ถึงเที่ยง 22 ธ.ค.พักผ่อนกับครอบครัวที่ภูเก็ต ก้าวไกลชวนจับตา อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบ 67-ซักฟอกรัฐบาลต้นปีหน้า ‘พิธา’ ชำแหละผลงานรัฐบาล 100 วันแรก ให้ผ่านบ้างไม่ให้ผ่านบ้าง นายกฯ สวนกลับ รัฐบาลมีโรดแม็ปชัดเจน ตั้งใจยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น กกต.ฟันอาญา ‘พัฒนา สัพโส’ สส.สกลนคร เพื่อไทย โพสต์หาเสียงเกินเวลาช่วงเลือกตั้ง แต่ไม่ยื่นถอดถอนพ้นสส.
‘นิด’หารือรมว.METI ญี่ปุ่น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (เร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ที่โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ได้พบหารือกับนายไซโต เค็น รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI)
นายเศรษฐาเน้นย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือทางการค้าและลงทุนกับญี่ปุ่น จึงจัดสัมมนา Investment Forum นำเสนอนโยบายส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการลงทุนในไทยให้ญี่ปุ่นได้รับทราบ พร้อมกล่าวเชิญชวนมาร่วมมือในโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขนส่งให้แก่ภูมิภาค รวมถึงเชิญชวนภาคเอกชนญี่ปุ่นให้มาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย
จากนั้นสองฝ่ายหารือถึงความร่วมมือด้านยานยนต์ โดยนายกฯ จะพบปะกับ ผู้ประกอบการยานยนต์ของญี่ปุ่น 7 ราย เพื่อให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมดูแลอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปของญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการพัฒนาอีวี และยานยนต์สมัยใหม่ รวมทั้งออกมาตรการใหม่เพื่อ ส่งเสริมการลงทุนในสาขายานยนต์
ขณะที่รมว.เศรษฐกิจฯ ญี่ปุ่น ชื่นชมนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของไทย พร้อมสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
เวลา 09.30 น. นายเศรษฐากล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนา Thailand-Japan Investment Forum ในห้วงสัปดาห์การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ นายไซโต เค็น รมว.เศรษฐกิจฯ ญี่ปุ่น และนายอิชิกุโระ โนริฮิโกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าญี่ปุ่น (JETRO) เข้าร่วม จัดโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
ชวนนักธุรกิจลงทุนแลนด์บริดจ์
นายเศรษฐากล่าวว่า ไทยมีนโยบาย ส่งเสริมการลงทุนในพลังงานสะอาด เศรษฐกิจใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจ สีเขียว AI เทคโนโลยีชั้นสูง และการพัฒนาสตาร์ตอัพให้เติบโตเพื่อแข่งขันในเวทีโลกได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เน้นผลิตภัณฑ์คุณภาพ ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้านการค้าญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับต้นของไทย มีมูลค่ารวม 8.7 ล้านล้านเยน คิดเป็น 10% ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ เชื่อว่าศักยภาพของไทยจะสามารถขยายการค้าร่วมกันได้อีก ในสินค้าการเกษตร อุปโภค บริโภค ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ
ด้านการลงทุน นักลงทุนญี่ปุ่นมีบทบาทอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย ในช่วงระยะ 10 ปีหลัง พวกเราไม่ลืมและรัฐบาลไทยพร้อมดูแลและสนับสนุนบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น ให้แข่งขันและเติบโตได้ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ด้านซอฟต์พาวเวอร์ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนญี่ปุ่นเข้ามาต่อยอดการลงทุนในภาพยนตร์ เกม หรือ อนิเมะ ซึ่งไทยมีความพร้อมในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไม่เป็นสองรองใคร พิสูจน์ฝีมือคนไทย ด้วยรางวัลต่างๆ จากทั่วโลก
นายกฯ ยังกล่าวเชิญชวนให้ภาคเอกชนญี่ปุ่น เข้ามาร่วมศึกษาและลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ รัฐบาลเปิดกว้างสำหรับการลงทุนของทุกประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรายใหญ่และสำคัญของไทยในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งรายเดิมและรายใหม่ รวมถึงภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านสู่ภาคเศรษฐกิจใหม่ตอบสนองตามสถานการณ์โลก
ต่อมาเวลา 10.10 น. นายเศรษฐาพบหารือกับผู้บริหารบริษัท Mitsui & Co., Ltd. บริษัท Trading รายใหญ่ 1 ใน 5 ของญี่ปุ่น สองฝ่ายหารือถึงโอกาสร่วมมือทางธุรกิจด้านพลังงานสะอาดเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมของไทยในอนาคต นายกฯ เชิญชวนบริษัท Mitsui ให้มาเปิดสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคในไทย

ที่ระลึก – ผู้บริหาร มาสด้า มอเตอร์ มอบเสื้อฟุตบอลที่ระลึกให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างพบปะพูดคุยเรื่องการลงทุนในประเทศไทย ที่โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว ก่อนประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.
ปลื้มคุย 7 บริษัทรถยนต์-ลงทุนอื้อ
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเยือนญี่ปุ่นวันแรกว่า ในการร่วมงานสัมมนากับบีโอไอ มีนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมฟังประมาณ 500 คน ยืนยันว่าประเทศไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์กันยาวนาน และญี่ปุ่นเป็น นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ลงทุนไปหลายล้านล้านบาทแล้ว จากนั้นพบกับ บริษัท มิตซูบิชิกรุ๊ป ที่เป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น ได้พูดคุยถึงการสำรวจและขุดเจาะแหล่งก๊าชธรรมชาติ ที่เขาสนใจและชำนาญ และความเป็นไปได้ในการนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาทำเป็นน้ำมันเครื่องบิน
ทั้งวันได้พูดคุยกับ 7 บริษัทยานยนต์ของประเทศญี่ปุ่น คือ บริษัทฮอนด้าที่มีแผนลงทุนในไทย 5 หมื่นล้าน ในอีก 5 ปี ตนได้บอกไปว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานสันดาปในรถยนต์ไปเป็นอีวี เราให้ความสำคัญ เพราะอีกหลายคนทำงานในบริษัทเครือข่ายยานยนต์ของญี่ปุ่น ตนพยายามเร่งให้เขาสร้างโรงงานกรีน เอนเนอจี้และปลั๊กอิน-ไฮบริดจ์ ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ตนเคยแถลงไว้
อีกบริษัทคือนิสสัน ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ เข้ามาในรถอีวีก่อนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาคือ นิสสัน ลีฟ ยืนยันว่าจะทำต่อเนื่องในเมืองไทย ต่อมาคือมิตซูบิชิ ที่ทำรถกระบะเขาจะพัฒนารถกระบะอีวี ซึ่งรถกระบะเป็นรถที่ขายดีในไทย ฉะนั้นการจะเปลี่ยนรถกระบะเป็นอีวีในไทยเพื่อพลังงานสะอาดถือเป็นปัจจัยสำคัญ ตนได้เร่งให้เขาลงทุนให้เร็วขึ้น เพราะการเปลี่ยนจากสันดาปไปเป็นอีวีค่อนข้างรวดเร็ว เขาจะใช้เราเป็นฐานในการส่งรถกระบะไปขาย อีกไม่กี่ปีจะเริ่มแล้ว
โวรบ.อยู่ 4 ปีทุกโครงการฉลุย
ตนยังได้คุยกับบริษัทซูซูกิ แม้เป็นบริษัทเล็กแต่อยู่ในไทยมานาน เขาทำอีโค่คาร์คือซูซูกิสวิฟต์ เขาขอให้เราส่งเสริมต่อ ตนได้แนะนำให้ทำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพราะเมืองไทยขายดี และยังได้หารือกับบริษัท อีซูซุ ซึ่งพร้อมลงทุนอีกประมาณ 32,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาลงทุนไป 2 หมื่นกว่าล้านบาท ถัดมาหารือกับมาสด้า เป็นบริษัทที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งรถไปขายประเทศต่างๆ เขามั่นใจว่ารถเอสยูวีของเรามีสมรรถนะที่ดีส่งขายยังต่างประเทศได้ บริษัทเหล่านี้พยายามลงทุนเพิ่มในไทย แรงงานของไทยพึ่งบริษัทเหล่านี้เยอะ
บริษัทสุดท้ายที่เจอคือโตโยต้า คือบริษัทที่ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่เมืองไทยมา 60 ปีแล้ว ประธานของบริษัทมาพูดคุยเองและเขาเคยอยู่เมืองไทยมาก่อน ถือว่าเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี ได้พูดคุยถึงการทำรถกระบะที่เขาขายดี คือโตโยต้าไฮลักซ์ โดยภายในปี 2025 เขาจะเริ่มผลิตแล้วแม้จะช้าไปนิด แต่เขาผลิตเพียง 5,000 คัน ตนได้ถามไปว่าทำไมผลิตน้อยจัง ซึ่งสิ่งที่เขาเป็นห่วงคือสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ตนจึงได้ยืนยันไปว่าเราขยายเครือข่ายตรงนี้ไปมากไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน เขาก็จะกลับไปพิจารณาการเร่งผลิตรถกระบะอีวีให้เร็วขึ้น อีกส่วนของโตโยต้าทำเรื่องไฟแนนซ์รถยนต์ สอดคล้องกับการแก้หนี้ในระบบ หากช่วยเราได้ในส่วนนี้ไม่ว่าจะเป็นการบีบดอกเบี้ยหรือปรับเบี้ยปรับ ก็ต้องรบกวนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพอใจกับการหารือกับนักธุรกิจญี่ปุ่นตลอดทั้งวันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พอใจมากเพราะญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่สำคัญของเรา และพูดจากันด้วยท่าทีที่ดี เป็นมิตร ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง แต่เราพยายามให้เขาเร่งการลงทุนเข้ามา เพราะโลกเปลี่ยนไปมาก และบีโอไอได้เตรียมข้อมูลไว้อย่างดีมาก
เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าจะสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์ในรัฐบาลชุดนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า ถ้ารัฐบาลตนอยู่ 4 ปีทุกโครงการก็สำเร็จ เพราะเขาจะเข้ามาเร็ว บางอันก็เข้ามาปีหน้าแล้วและขณะนี้บางเรื่องเริ่มการลงทุนแล้ว แต่อาจมีเรื่องรถยนต์ไฮโดรเจน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าใช้ระยะเวลานานแค่ไหนแต่เรื่องอื่นกำลังดำเนินการอยู่

เยี่ยมคารวะ – นายไซโต เค็น รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.
ลางาน 19-22 ธ.ค.-พักผ่อนบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าสำนักเลขาธิการนายกฯ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0502/ว(ร) 543 เรื่อง นายกฯ ลาพักผ่อน ลงวันที่ 12 ธ.ค.2566 ถึงรัฐมนตรีทุกคนที่เกี่ยวข้องในครม.
หนังสือราชการดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 รับทราบกำหนดการลาราชการเพื่อพักผ่อนเป็นการส่วนตัวของนายกฯ ในระหว่าง วันที่ 19-21 ธ.ค.2566 ในเวลา 13.00 น. ถึงวันที่ 22 ธ.ค.2566 เวลา 12.00 น. ล่าสุดนายกฯ ได้เปลี่ยนแปลงกำหนดการลาพักผ่อนดังกล่าวข้างต้น เป็นระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.2566 เวลา 13.00 น. ถึงวันที่ 22 ธ.ค.2566 เวลา 12.00 น.เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 ข้อ 41
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 หมวด 3 การลาของข้าราชการการเมือง ข้อ 41 ระบุว่า “การลาทุกประเภทและการไปต่างประเทศของนายกฯ ให้อยู่ในดุลนิพิจของนายกฯและแจ้งให้ครม.ทราบ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นายเศรษฐาอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ โดยหลังเดินทางกลับในวันที่ 18 ธ.ค.จะยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติและช่วงเช้าวันที่ 19 ธ.ค. เป็นประธานการประชุมครม. จากนั้นลาราชการเพื่อพักผ่อนกับครอบครัวเป็นการส่วนตัวซึ่งมีรายงานว่าจะไปพักผ่อนที่ จ.ภูเก็ต และวันที่ 22 ธ.ค. ช่วงบ่ายจะกลับมาปฏิบัติภารกิจโดยมีกำหนดเบื้องต้นจะไปร่วมชมศึกวันแชมเปี้ยนชิพที่สนามมวยลุมพินี รามอินทรา นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นายเศรษฐาจะใช้ช่วงวันหยุดเป็นการส่วนตัว ที่บ้านพักอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ เปิดเผยว่า การลาพักผ่อนของ นายกฯ ถือเป็นเรื่องปกติ ยอมรับว่าอาจจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ได้แต่เมื่อนายกฯ ได้ทำงานหนักมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ต้องมีการพักกันบ้าง
ขอใช้เวลาอยู่กับครอบครัว
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า หลายท่านจริงๆ ทราบว่าคุณแม่ของตนอายุ 96 ปี ซึ่งท่านอายุมากแล้ว และลูกทั้งสองคนจะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งไม่ได้เจอกันมานาน จะพาไปเที่ยวเท่านั้นเองไม่มีอะไร แต่อย่างไรก็ติดต่อตนได้ตลอด เพราะถึงแม้จะพักร้อนก็ยังทำงานตลอด ขอไปพักผ่อนบ้าง ถึงตนไม่ได้มอนิเตอร์งาน ทีมงานก็ตามตนเจออยู่ดี ไม่ต้องห่วง โลกสมัยนี้หากมีมือถือก็สามารถทำงานได้ตลอด ทำงาน 24 ช.ม. ไม่มีวันหยุด ถือเป็นภาระของผู้นำประเทศที่ต้องแบกไว้ เพียงอาจต้องมีบางช่วงที่ต้องพักผ่อนบ้าง ขอให้สื่อมวลชนสบายใจ ไม่ได้หนีไปไหน หากมีประเด็นอะไรก็โทรศัพท์ติดต่อได้
ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง หลังมองว่าตนทำงานหนักมากในช่วงนี้ แต่เป็นหน้าที่ ยืนยันว่าไม่เป็นอะไร มีเวลานอน 6-7 ช.ม. ออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย มีทีมงานที่ดีเวลาทานข้าวก็หัวเราะกันได้บ้างไม่เป็นไร “เรื่องเล็กครับ ไม่มีอะไร” ผู้สื่อข่าวถามว่ามียาดีอะไรร่างกายจึงฟิตขนาดนี้ นายกฯ กล่าวว่า ว่าไม่มี แต่มาตรงนี้จึงเต็มที่ เพราะเสนอตัวเข้ามาแล้ว ต้องทำให้เต็มที่
‘ไอติม’ชวนจับตาถกงบ-ซักฟอก
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจการทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่ทำมาแล้ว 3 เดือน และ ขับเคลื่อนเดินหน้าต่ออนาคตฝ่ายค้าน 3 มิติ 1.การเสนอแก้ไขกฎหมายที่ยื่นเสนอไปแล้วกว่า 40 ฉบับ เป็นการต่อสู้ 2 สมรภูมิ คือการผลักดันให้แก้กฎหมายสำเร็จและรณรงค์ทางความคิดต่อประชาชนถึงหลักการและเหตุผล
2.การผลักดันติดตามตรวจสอบนโยบายของกลไกกรรมาธิการ (กมธ.) โดยเฉพาะคณะที่ฝ่ายค้านเป็นประธาน เช่น กมธ.การศึกษาและติดตามจัดทำงบประมาณ ไม่เพียงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท แต่จะตรวจสอบการของบของหน่วยงาน 5.8 ล้านล้านบาท ว่าการตัดสินใจอนุมัติงบสมเหตุสมผลหรือไม่
ส่วน กมธ.การเมือง ให้ความสำคัญกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยตั้งคณะอนุ กมธ.จัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เกี่ยวกับโมเดลสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเชื่อว่าข้อกังวลบางฝ่ายเรื่องผู้เชี่ยวชาญหรือพื้นที่หลากหลายทางสังคมเป็นข้อกังวลที่คลี่คลายได้ โดยยึดหลักการ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์อยู่
3.การใช้เวทีสภาตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ทั่วไปตรวจสอบการทำงานของนายกฯ และรัฐมนตรีในนโยบายที่สำคัญ ซึ่งเป็นกลไกปกติ พร้อมชวนจับตามองวาระพิเศษฝ่ายค้านคือ การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ช่วงเดือน ม.ค. และการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ หรือจะลงมติของฝ่ายค้านในช่วงต้นเดือนเม.ย. ส่วนกรณีสภาตีตกร่างข้อบังคับการประชุมสภาของพรรคก้าวไกลนั้นส่งสัญญาณการเสนอกฎหมายหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่ท้อแม้วันนี้ถูกรัฐบาลปัดตก แต่หวังประชาชนที่ติดตามเห็นด้วยในวันข้างหน้าอาจสำเร็จ
‘พิธา’ไม่ให้เกรด 100 วันรัฐบาล
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค แถลงวิเคราะห์การดำเนินงาน 100 วันแรกของรัฐบาลนายเศรษฐาว่า ยังประเมินเป็นเกรดไม่ได้ เพราะไม่มีโรดแม็ปว่ารัฐบาลจะทำอะไรที่ชัดเจน แต่หลายเรื่องทำได้ดีเช่นช่วยเหลือแรงงานไทยและตัวประกันในอิสราเอลและการดูแล sme จึงถือว่าผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง
จากการวิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐาด้วยกรอบ 5 คือ 1.คิดดีทำได้ การช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในอิสราเอลรัฐบาลทำได้ดี, จัดหาวัคซีน HPV ทำได้ดี การแก้ปัญหาหนี้ในระบบและนอกระบบรัฐบาลเข้าใจว่าปัญหาคืออะไร การอนุมัติงบเยียวยา 50,000 บาท ตัวประกัน 2.คิดไปทำไป การปรับเปลี่ยนไปมา ที่มาของเงิน เทคโนโลยีที่ใช้และผู้ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต และการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ 3.คิดสั้นไม่คิดยาว เรื่องค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าคมนาคม รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มีแต่มาตรการระยะสั้นยังไม่เห็นมาตรการแก้ปัญหาที่ต้นตอ
4 คิดใหญ่ทำเล็ก การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันซอฟต์พาวเวอร์ วีซ่าฟรี และการลดความเหลื่อมล้ำเรื่องแปลงที่ดินส.ป.ก. ค่าแรง เมื่อไม่ได้ตัวเลขที่ควรจะเป็นหรือสัญญากับประชาชน นายกฯ ก็แสดงออกถึงความไม่พอใจ 5.คิดอย่างทำอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเมือง เช่น ร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติที่มาส.ส.ร. และไม่ชัดเจนว่าจะมีส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด การปฏิรูปกองทัพ
ความคาดหวังการทำงานของรัฐบาลในปีหน้า รัฐบาลควรมี Strategic Roadmap ที่ชัดเจนที่ต้องการเห็นแผนการทำงานของรัฐบาล 1 ปี ต้องมีการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ มี KPI ที่ชัดเจน ส่วนสถานการณ์การเมืองในปีหน้า มีการวิเคราะห์ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ จากนายเศรษฐาเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายพิธากล่าวว่า การเปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ ควรให้โอกาสนายกฯ ได้ทำงานก่อน
แก้ระเบียบราชทัณฑ์ไม่เกี่ยว‘แม้ว’
นายพิธากล่าวกรณีกรมราชทัณฑ์ออกระเบียบว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 อาจเอื้อให้นายทักษิณ ชินวัตร ถูกส่งตัวออกมาคุมขังนอกเรือนจำว่า ในภาพกว้างต้องลงในรายละเอียด เข้าใจว่ากระบวนการความคิดแบบนี้มีตั้งแต่ปี 2563 และที่ฟังจากประธานกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องมีความคิดในเรื่องนี้ล่วงหน้า คงจะไม่มีใครรู้ว่า นายทักษิณจะกลับมาเมื่อไร คงต้องให้ความยุติธรรมกัน แต่มีข้อกังวลคือ สถานที่ที่จะนำมาคุมขังนอกเรือนจำ เป็นการตัดสินใจที่รวมศูนย์อยู่ที่คณะกรรมการ ผู้ต้องขังไม่สามารถร้องขอได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือต้องอยู่ในพื้นที่ที่อนุญาตเช่น บ้าน โรงงาน รวมถึงสถานที่ราชการที่กำหนดไว้ ทำให้เกิดข้อกังวลว่าจะเอื้อให้ผู้มีฐานะในระดับหนึ่งในการเข้าถึงสิทธิ์ดังกล่าว
“ผมตั้งข้อสังเกต 3 ข้อ 1.แนวคิดระเบียบนี้คิดตั้งแต่ปี 2563 ตามที่สภาเสนอมาในปี 2560 หรือไม่ 2.เรื่องของสถานที่ที่ผู้ต้องขังหรือครอบครัวไม่สามารถร้องขอได้ เนื่องจากเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เกรงจะมีการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง 3.เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำ ที่ต้องมีสถานที่เอื้ออำนวยทำให้คนที่ออกมาได้ต้องเป็นคนที่มีฐานะระดับหนึ่ง เกรงว่าจะไม่มีความเท่าเทียมกัน ผมไม่ด่วนสรุปว่าเป็นเรื่องของการใช้อภิสิทธิ์ แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตจากข่าว ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว” นายพิธากล่าว
นายกฯสวนกลับ‘ทิม’
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวตอบโต้นายพิธาว่า คิดว่าที่ผ่านมาค่อนข้างชัดเจน ทั้งเรื่องลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟ ค่าน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร การท่องเที่ยวตนก็ทำทันที ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตนได้เดินทางไปประชุมระดับโลก รวมถึงพบผู้นำอาเซียนไปมาเกือบหมดแล้ว อะไรที่ค้างคาใจได้คุยกัน ดิจิทัลวอลเล็ตก็ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เรื่องเอฟทีเอเราก็เดินหน้าต่อเนื่อง มั่นใจว่าหลายเรื่องเราชัดเจน กฎหมายเราก็ขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.อากาศสะอาด พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แม้จะมีการบิดคำพูดว่าจะไม่เข้าสภาวันที่ 12 ธ.ค. แต่ความหมายคือการเปิดสภาสมัยปัจจุบัน ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์คงเข้า “หากในสายตาท่าน อาจจะช้า ก็แค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น”
ส่วนตัวเชื่อว่าเรามีโรดแม็ปที่ชัดเจน และครม.รวมถึงคณะทำงานในที่นี้ ตั้งใจยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ตนพร้อมรับฟัง อะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่ยังไม่ได้ทำ หรือเป็นที่ไม่พอใจฝ่ายค้านเรารับฟัง เพราะฝ่ายค้านคือตัวแทนประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์แล้วทำได้ หรืออะไรที่ยังไม่ได้ทำตนจะทำให้
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินการทำงานของรัฐบาลช่วง 3 เดือนนี้อย่างไร นายกฯ ยืนยันว่า เราทำงานตลอด เรื่องนี้ให้ประชาชนตัดสินดีกว่า
ต่อข้อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ ที่คนออกมาติติงการทำงาน นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ เป็นหน้าที่รัฐบาล แบกความหวังประชาชนไว้เกือบ 70 ล้านคนเป็นธรรมดา เพราะช่วงที่ประชาชนลำบากเป็นหน้าที่ของตนในฐานะนายกฯ ที่ต้องชี้แจง ส่วนที่นายพิธาระบุว่าหากรัฐบาลชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ชัดเจน จะยื่นอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมตินั้น นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นหน้าที่และ สิทธิของสส.ทุกคนในการตรวจสอบรัฐบาล ฝ่ายบริหารก็ทำหน้าที่ให้กระจ่างในทุกข้อสงสัย เรื่องนี้เราให้ความสำคัญ
กกต.ฟันอาญาสส.เพื่อไทย
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.สั่งดำเนินคดีอาญาแก่นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.พ.ศ.2561 มาตรา 70 และมาตรา 79 ประกอบมาตรา 156 (1) สืบเนื่องจากก่อนประกาศผลการเลือกตั้งกกต.ได้รับคำร้องนายพัฒนา ผู้สมัครสส.สกลนคร เขต 4 พรรคเพื่อไทย ฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. หาเสียงโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการใดเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง นับตั้งแต่เวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้ง 1 วันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
ข้อเท็จจริงการไต่สวนฟังได้ว่าที่นายพัฒนาให้ถ้อยคำว่าการเผยแพร่ข้อความและวิดีโอคลิปอาจเกิดจากความพลั้งเผลอและมิทราบว่ามีการเผยแพร่ได้อย่างไร เป็นการปฏิเสธที่ง่ายต่อการกล่าวอ้างและไม่มีพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้น่าเชื่อว่าเกิดจากความพลั้งเผลอ ข้อกล่าวอ้างไม่อาจรับฟังได้ กรณีนี้จึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องกระทำการฝ่าฝืนพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.2561 มาตรา 70 และมาตรา 79 ตามคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงาน กกต.จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อผู้ถูกร้องต่อไป แต่กรณีนี้ไม่ต้องยื่นคำร้องเพื่อเพิกถอนสิทธิหรือเลือกตั้งใหม่ต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญาเพียงอย่างเดียว จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
‘พัฒนา’โวเรื่องเล็ก-แค่มือลั่น
นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีการตัดสินเกี่ยวกับใบเหลือง ใบแดงอะไร แต่มีการดำเนินคดีอาญาฐานทำผิดกฎหมาย โทษสูงสุดจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท จริงๆ มีหลักฐานที่ควรจะยก เบื้องต้นจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการเพราะมั่นใจว่าไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่จะมีผลต่อสถานะ สส. นายพัฒนากล่าวว่า “ไม่มี เรามั่นใจ เพราะไม่ได้มีเจตนาอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังไม่ได้มีการโพสต์หาเสียง ไม่ได้โพสต์ชื่อหรือเบอร์ตัวเองด้วย เป็นการโพสต์เกี่ยวกับพรรค เพราะมือมันไปโดน ไม่มีอะไร” ต่อข้อถามว่าได้มีการพูดคุยกับทางพรรคบ้างแล้วหรือไม่ นายพัฒนากล่าวว่า เขารู้นานแล้ว เพราะเรื่องนี้มีมติออกมา 2-3 เดือนแล้ว เพียงแค่เพิ่งมีการปล่อยออกมาวันนี้เท่านั้น “เป็นไปตามกระบวนการ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก และมั่นใจว่าจะไม่มีผลต่อสถานะของสส.ด้วย”