เที่ยว‘เกาะเต่า’คลื่นซัด-จนจมปลอดภัยทุกคน

ระทึกกลางทะเลเกาะเต่า เรือนอนถูกคลื่น 3 เมตรซัดจมอ่าวไทย ขณะขนผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติพร้อมลูกเรือ 102 คนจากท่าเทียบเรือสุราษฎร์ฯ ฝ่าคลื่นสูงไปเกาะเต่า เครื่องสูบน้ำเรือเกิดเสีย น้ำทะลักเข้าเรือ ทหารเรือระดมผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ตช่วยนำขึ้นฝั่งได้ปลอดภัยทุกคน ส่วนเรือ จมกลางทะเล ด้านเจ้าท่าพะงันสั่งเจ้าของห้ามใช้เรือ และต้องกู้เรือให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่รับแจ้งได้เกิดเหตุเรือโดยสาร ชื่อ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 หมายเลขทะเบียน 308400045 ขนาด 114.93 ตันกรอส ใบอนุญาตสิ้นอายุวันที่ 6 มี.ค. 2567 เส้นทางสุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า จำนวน ผู้โดยสาร 102 คน มุ่งหน้าไปยังเกาะเต่า ประสบเหตุน้ำเข้าเรือ ใกล้จะจมกลาง ทะเล ห่างจากเกาะเต่า ประมาณ 15 ไมล์ทะเล เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษา ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) สุราษฎร์ธานี นำเรือ ต.112 พร้อมเรือกู้ภัยรุดไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวบนเรือ ดังกล่าว

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณ 959’20.1”N 99*44’58.8”E พบเรือลำดังกล่าวยังประคองตัวเองได้ และกำลังจะจมลงทะเล เจ้าหน้าที่นำเรือเข้าช่วยเหลือ 2 ลำนำ เครื่องสูบน้ำให้ พร้อมนำผู้โดยสารขึ้นเรือช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือ นักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่มากับเรือได้อย่างปลอดภัยทุกราย

เรือจม – นาทีช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและลูกเรือ 102 ชีวิต จากเรือ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 เรือนอนโดยสารสุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า ถูกคลื่นซัดจนจมทะเลก่อนถึงเกาะเต่า 5.5 ไมล์ทะเล เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.

สำหรับเรือลำดังกล่าววิ่งออกจากท่าเทียบเรือเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. มีกำหนดการถึงท่าเทียบเรือเกาะเต่าเวลา 05.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. โดยมีนายไพฑูรย์ คงจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 39/350 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าของ บรรทุกสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว บนเกาะและผู้โดยสารทั้งนักท่องเที่ยว ชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวน 102 คน ขณะแล่นมา เกิดคลื่นลมแรง ไม่สามารถเข้าจอดท่าเทียบเรือได้ จึงลอยลำอยู่หน้าหมู่เกาะอ่างทอง ทำให้ลมที่กระโชกแรงและมีคลื่นสูงน้ำไหลเข้าทางท้ายเรือ ทำให้เรือลำดังกล่าวจมอยู่ห่าง จากฝั่ง 5.5 ไมล์ทะเล

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เกาะเต่ากำลังตรวจสอบถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

น.อ.ณัฐพล สินพูลผล รองผอ.ศรชล. จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เหตุเกิดเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุเรือโดยสาร ชื่อ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 ขนาด 114.93 ตันกรอส เส้นทางสุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า จำนวนผู้โดยสาร 102 คน มุ่งหน้าไปยังเกาะเต่าเกิดเหตุน้ำเข้า ตัวเรือ ในระหว่างเรือเดินทางห่างจากเกาะเต่า ประมาณ 15 ไมล์ทะเล เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง โดยมีเรือเข้าช่วยเหลือและเอา เครื่องสูบน้ำไปช่วยเหลือ เบื้องต้นมีเรือ 2 ลำเข้าช่วยเหลือนำผู้โดยสารขึ้นเรือ และศรชล.จว.สุราษฎร์ธานีขอรับการสนับสนุนเรือในอัตราบัญชีกำลัง 1 ลำ พร้อมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน








Advertisement

เมื่อเวลา 09.10 น. เรือเร็วลมพระยาจำนวน 3 ลำ และเรือนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่จำนวน 3 ลำ เข้าช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดขึ้นเรือที่มาช่วยเหลือ จำนวน 102 คน เป็นผู้โดยสาร 92 คน และลูกเรืออีก 10 คน และขึ้นฝั่งที่เกาะเต่าเรียบร้อยและปลอดภัยทุกราย

หลังจากเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเรือโดยสารลำดังกล่าว ได้จมลงสู่ทะเลเมื่อเวลา 10.10 น.

จากนั้นเวลา 12.20 น. ศรชล. จ.สุราษฎร์ธานี โดยทัพเรือภาคที่ 2 นำเรือ ต.112 ถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บกู้แพช่วยชีวิต กระเป๋าสัมภาระของนักท่องเที่ยว

ด้านนายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า สั่งการให้นายนพพฤช ชำนาญฤทธิ์ ปลัดอำเภอเกาะพะงัน (ส่วนหน้า) ตั้งศูนย์ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกกับผู้โดยสาร บนเรือทั้งหมด โดยมีผู้ประกอบการ และชาวบ้านได้นำอาหาร น้ำดื่ม มาให้กับผู้ประสบเหตุ และจัดรถยนต์บริการรับส่งนักท่องเที่ยวไปตามโรงแรมที่พักที่จองไว้ พร้อมกำชับให้เรือทุกลำปฏิบัติตามประกาศเตือนของผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ ห้ามเรือเล็ก ทุกชนิดงดออกจากฝั่งระหว่างวันที่ 20-25 ธ.ค. 2566

ขณะเดียวกัน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะพะงัน ออกประกาศแจ้งเตือน ให้นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ หรือผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เรื่องให้ระมัดระวังในการเดินเรือ ด้วยเรือฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 อับปางกลางทะเลอ่าวไทย ระยะ 5.5 ไมล์ทะเลจากเกาะเต่า ละติจูด 9.9930 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 99.7502 ลิปดาตะวันออก และออกหนังสือห้าม ใช้เรือ โดยมีหนังสือถึงเจ้าของเรือชื่อ นายไพฑูรย์ คงจันทร์ แจ้งการห้ามใช้เรือ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 จนกว่าจะดำเนินการเพื่อให้มีสภาพที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานต่อไป และออกหนังสือคำสั่งให้ กู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จมลง โดยให้จัดทำเครื่องหมาย ที่แสดงอันตรายให้เป็นที่สังเกตในการ เดินเรือผ่านทั้งในเวลากลางวันและ กลางคืน และเร่งให้ดำเนินการกู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จมลง ออกไปให้พ้นจากบริเวณจุดที่เรือ จมดังกล่าว ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับคำสั่งนี้

สำหรับเรือนอนลำที่เกิดเหตุ ชื่อเรือ ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ 111 หมายเลขทะเบียน 308400045 วัสดุตัวเรือ ไม้ ขนาด 114.93 ตันกรอส เขตการเดินเรือ ลำน้ำ และทะเลระหว่างจ.ตราดกับจ.นราธิวาส ห่างจากฝั่งหรือเกาะไม่เกิน 24 ไมล์ทะเล ในเวลาคลื่นสงบ ประเภทเรือ เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ บรรทุกคนโดยสารและสินค้า อนุญาตให้ใช้เรือได้จนถึงวันที่ 6 มี.ค. 2567

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีอุตุนิยมวิทยาสุราษฎร์ธานี รายงานว่าพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 22 ธ.ค. ว่า มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็วลม 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน