ถ้ารับ‘กล้อนผม’ไม่ได้
ศธ.เต้นจ่อเรียกเตือน

‘กล้อนผม’ ยังเดือด ครูโพสต์ ‘ใครรับไม่ได้ ก็ฆ่าตัวตายไป’ศธ.เต้น ปลัดชี้ต้องตักเตือน ขณะเลขาฯกพฐ.เตือน ครูใช้โซเชี่ยล ต้องมีสติเพราะครูมีจรรยาบรรณกำกับ อีกรายครูที่พิจิตรโพสต์เหน็บ ‘เด็ก

เห่อผม’ สพม.ทันควัน สั่งต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบ เจ้าตัวยอมรับผิด ขอโทษสังคมและผู้ปกครองแล้ว ร้านตัดผมเมืองแพร่ติดป้ายไม่รับตัดผมทรงนักเรียน เจ้าของร้านยันไม่เห็นด้วย เพราะละเมิดเด็ก
จากกรณีนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด เรื่องซักซ้อมความเข้าใจแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 เมื่อ

วันที่ 8 กรกฎาคม และส่งไปยังหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ศธ.เพื่อให้ปฏิบัติ และแจ้งไปยังสถานศึกษาให้ยกเลิกการบังคับใช้ระเบียบสถานศึกษาเดิม เกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2518 โดยให้ยึดหลักความ เหมาะสม การมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น พร้อมต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการ

บริหารโรงเรียน ก่อนประกาศใช้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์ครูลงโทษตัดผมนักเรียนที่ไว้ผมยาวนั้น
ต่อมาทวิตเตอร์ชื่อ นักเรียนเลว @bad student_ รีทวีตข้อความของครูคนหนึ่ง ในโรงเรียนที่จ.พิจิตร ว่า “ใครรับไม่ได้ ก็ฆ่าตัวตายไป” พร้อมโพสต์ข้อความว่า “ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งตอบกลับประเด็นการเรียกร้องเรื่องทรงผม” ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ ครูในอุดมคติ : ให้เหตุผลที่ทำให้

นักเรียนเข้าใจถึงสิ่งที่ทำ ครูในโลกความเป็นจริง : ไล่ไปตาย, ครูไล่นักเรียนไปตายได้ด้วยเหรอครับ, นี่ครู หรือขยะสังคมหรอ?, ถ้าครูรับไม่ได้ที่เด็กอยากไว้ผมยาว ครูก็ไปตายเองสิคะ เป็นต้น

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดศธ. กล่าวถึงกรณีครูโพสต์ไล่เด็กว่า กรณีนี้ทางต้นสังกัดอย่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องเรียกครูคนดังกล่าวมาตักเตือน สิ่งที่

ครูโพสต์โต้ตอบ กับนักเรียน ถือว่าไม่เป็นไปตามระเบียบการลงโทษนักเรียน เข้าใจว่าเป็นการใช้อารมณ์ส่วนบุคคล ซึ่งต้นสังกัดคงต้องตักเตือน ดูความเหมาะสม ส่วนภาพการกล้อนผมนักเรียนที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้ ยอมรับว่าโรงเรียนทำไม่ถูกต้อง เพราะการลงโทษนักเรียนไม่ว่าจะกระทำความผิดใดๆ ก็ตาม จะต้องยึดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาพ.ศ.2548

มี 4 ข้อดังนี้ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ และ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งรวมไปถึงการทำโทษนักเรียนในกรณีอื่นๆ ด้วย ต้องยึดหลักการลงโทษ 4 ข้อนี้เท่านั้น

นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า หากครูโพสต์ข้อความดังกล่าวจริง ถือว่าไม่เหมาะสม โรงเรียนต้นสังกัดต้องเรียกมาตักเตือน ขอกำชับครูทุกคนให้ระมัดระวังในการใช้โซเชี่ยลอย่างมีสติ เพราะคนเป็นครู ถูกกำกับด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ จะทำหรือจะโพสต์ข้อความอะไรต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะหากเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมแล้วจะเกิดผลกระ

ทบในวงกว้าง

วันเดียวกันนายจักรภฤต บรรเจิดกิจ อดีตประธานนักเรียน โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม และเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนพิจิตรพิทยาคม กล่าวว่า กรณีที่มีครูโรงเรียนพิจิตรพิทยาคม คนหนึ่งได้โพสต์ข้อความ ที่ไม่เหมาะสม “เปิดเทอมต้องปรับตัวนิดนึง เพราะนอกจากต้องเจอเด็กเห่อ X มอย แล้วต้องเจอเด็กเห่อ

ผมอีก ขอเวลานิดเดี๋ยวก็ชิน” ตนมองว่าการที่จะโพสต์อะไรต้องมีความคิดความอ่านที่ดี ต้องมีจรรยาบรรณในการเป็นครู เพราะต้องเป็นตัวอย่าง อีกทั้งได้รับความยกย่อง ดังนั้นไม่ควรออกมาโพสต์แบบนี้

นายศักดิ์ชัย เพชรแกมทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41

(สพม.41) กล่าวว่า กรณีที่ทวิตเตอร์ชื่อ นักเรียนเลว ได้รีทวีตข้อความของครูคนหนึ่งในโรงเรียนในพิจิตร ว่าใครรับไม่ได้ ก็ฆ่าตัวตายไปซะเรื่องทรงผม เรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าครูคนดังกล่าวที่ทวิตเตอร์ข้อความดังกล่าวนั้นเป็นครูโรงเรียนพิจิตรหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ครูพิจิตรแน่นอน ส่วนข้อความที่โพสต์ถือเป็นการละเมิด โทษจะถูกไล่ออกทันที

ส่วนที่นายรักชาติ นาครัตน์ ครูชำนาญการโรงเรียนพิจิตรพิทยาคม โพสต์ข้อความ “เปิดเทอมต้องปรับตัวนิดนึง เพราะนอกจากต้องเจอเด็กเห่อ X มอยแล้ว ต้องเจอเด็กเห่อผมอีก ขอเวลานิดเดี๋ยวก็ชิน” สั่งให้ผอ.โรงเรียนพิจิตรพิทยาคมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว และขอชี้แจงว่า เป็นครูคนละคนกับ คนที่โพสต์ ว่าใครรับไม่ได้ก็ฆ่าตัวตายซะ อย่างไรก็ดีต้องเอาจริงกับครูที่ชอบโพสต์ข้อความไม่

สุภาพ กระทรวงศึกษาฯ มีนโยบายเรื่องนี้ชัดเจน

นายบุญธรรม อ่อนจันทร์ ผอ.โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม กล่าวว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบราชการทันที เพื่อเอาผิดและบทลงโทษ เพราะมีหลักฐานชัดเจน ส่วนผลการสอบสวนจะเป็นเช่นไรนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสอบ ข้อความดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงโรงเรียนและ

วงการครูเสื่อมเสีย นอกจากนี้ได้บันทึกรายงานเบื้องต้นแจ้งสพม.41 แล้ว อีกทั้งได้เรียกอาจารย์คนดังกล่าวมาสอบสวนเบื้องต้นด้วยตนเอง โดยเจ้าตัวยอมรับว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง นอกจากนี้ยังกำชับไปยังครู-อาจารย์ รวมถึงนักเรียนหน้าเสาธง ทุกคน ให้ระมัดระวังในการโพสต์สื่อโซเชี่ยลต่างๆ เพราะอาจจะไปเข้าข่ายความผิดต่างๆ หรือละเมิดสิทธิผู้อื่นได้

ขณะที่นายรักชาติ นาครัตน์ ครูชำนาญการโรงเรียนพิจิตรพิทยาคม กล่าวว่า เริ่มแรกได้โพสต์ทวิตเตอร์สนุกๆในกลุ่มครูนักเรียนหมวดดนตรีเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องบานปลายแพร่กระจายออกไปมากขนาดนี้ อย่างไรก็ตามขอยอมรับผิดถึงความไม่เหมาะสม ในคำโพสต์ และขอโทษต่อสังคมขอโทษ ผู้ปกครอง

ที่จ.แพร่ ร้านตัดผม under cut barber shop ขึ้นป้ายหน้าร้านว่า “ร้านนี้ไม่ตัดผมทรงนักเรียน ต่อต้านการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ละเมิดกฎกระทรวง นักเรียนไม่ได้โง่ เพราะผมยาว คุณครูครับ โตได้แล้ว” กลายเป็น กระแสดังในโซเชี่ยล ประกอบกับเรื่องนี้ กำลังเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชี่ยล และเป็นข่าวในขณะนี้

เจ้าของร้านกล่าวว่า การตัดผมนักเรียนนั้นตนเองไม่เห็นด้วยมานาน แต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้มากเท่าที่ควร กระทั่งกระทรวงศึกษาธิการออกกฎให้นักเรียนสามารถเลือกตัดผมได้เองโดยถึงบริเวณตีนผม ซึ่งนั่นคือผมรองทรง เป็นทรงผมดูแล้วเรียบร้อย ตนเห็นว่าผู้ที่มีสิทธิจะเลือกตัดผม คือตัวนักเรียนเองและผู้ปกครอง หากว่าทั้ง 2 ฝ่าย เห็นว่าจะให้ตัดผมทรงไหนก็ได้ ตนก็จะตัดให้ แต่

หากว่าเป็นการบังคับให้มาตัดโดยครู ตนจะไม่ตัดให้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของนักเรียน

“เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีนักเรียนจากสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ถูกอาจารย์ใช้กรรไกรตัดผมแหว่งมา 2-3 รอย เด็กคนนั้นมาขอให้ช่วยตัดแก้ไขให้ หลังจากตัดเสร็จได้เขียนจดหมายฝากนักเรียนไปให้อาจารย์

โดยได้เขียนติเตียนเรื่องการละเมิดสิทธิของเด็กฝากไปให้อาจารย์คนนั้นได้อ่าน ผมเห็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ครูไม่ควรละเมิดสิทธิของนักเรียน จึงขึ้นป้ายดังกล่าว เพื่อเป็นการแสดงถึงการไม่เห็นด้วยกับการละเมิดสิทธิเด็กนักเรียน โดยเฉพาะการตัดผมของนักเรียน” เจ้าของร้านตัดผมกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน