ชี้ดีเอ็นเอฆาตกร
ไม่เกี่ยวคนไทย

ปิดคดีฆ่าสาวยุ่นอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อปี 50 รมว.ยุติธรรม ร่วมหัวหน้านายตำรวจญี่ปุ่น ดีเอสไอ แถลงผลสอบสวนกว่า 10 ปี สุดท้ายสรุปคนร้ายไม่ใช่คนไทย พิสูจน์จากผลตรวจดีเอ็นเอคนร้ายที่พบในกางเกงผู้ตาย ผลชัดเป็นชาวเอเชียตะวันออก มุ่งไปที่ชาวญี่ปุ่นหรือเกาหลี ช่วงเกิดเหตุมีเพื่อนผู้ตายกลับประเทศโดยไม่ให้ความร่วมมืออะไรกับตำรวจไทย ประสานส่งหลักฐานให้ตำรวจสากลช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม

คดีญี่ปุ่นดับ – นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แถลงคดีนักท่องเที่ยวสาวญี่ปุ่นเสียชีวิตที่ จ.สุโขทัย เมื่อ 13 ปีก่อน ผลตรวจสกัดดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยระบุไม่ใช่คนไทย แต่เป็นกลุ่มคนภูมิภาคเอเชียตะวันออก จึงประสานตำรวจสากลและญี่ปุ่นเร่งติดตามตัวคนใกล้ชิด ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 23 ก.ค.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมนายโทโมยูกิ ฟูจิยามะ หัวหน้านายตำรวจญี่ปุ่น และเลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศ ไทย และนายฮิโรยูกิ มูระมัตสึ เลขานุการโท และกงสุล รวมทั้ง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวความคืบหน้าคดีฆาตกรรม น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2550
นายสมศักดิ์กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ดำเนินการออกเป็น 4 ช่วง หลังเกิดเหตุผ่านมา 14 ปี ตรวจดีเอ็นเอบุคคลที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับคนร้ายซึ่งตรวจพบจากขอบกางเกงด้านหลังของผู้เสียชีวิต ประกอบกับขวดน้ำช้างศึกเป็นขวดน้ำที่ผลิตขึ้นในพื้นที่ของตชด. ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจตชด.และชาวบ้านละแวกดังกล่าวรวม 200 ราย จนมาถึงวันที่ 24 ก.ค. 2552 ตำรวจงดการสืบสวนสอบสวนหลังไม่พบความจริง
การสืบสวนต่อในช่วงที่ 2 คือในปี 2556 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอให้ ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางไปเที่ยวที่ จ.สุโขทัย จึงตรวจดีเอ็นเอผู้เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอีก 146 ราย รวมเป็น 336 ราย แต่ยังไม่พบเบาะแส และงดการสอบสวนชั่วคราวเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2559 แต่การสืบสวนยังดำเนินการต่อ จนถึงช่วงที่ 3 เมื่อปี 2560 มีผู้แจ้งเบาะแสผ่านเว็บไซต์ดีเอสไอจึงดำเนินการสอบสวน โดยตรวจดีเอ็นเอพ่อค้าในพื้นที่เพิ่มอีก 2 ราย
“ต่อมาในช่วงที่ 4 คือในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมมารับตำแหน่งรมว.ยุติธรรม และเป็นชาวสุโขทัย คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้ข้อมูลว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะเป็นคนงานของฟาร์มหมูในละแวกนั้น โดยเก็บดีเอ็นเอของญาติคนงานฟาร์มหมู เนื่องจากคนงานฟาร์มหมูคน ดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว จึงเก็บดีเอ็นเอจากพี่ชายและพี่สาว รวมทั้งลูก ซึ่งครอบครัวดังกล่าวอยู่ที่ไต้หวัน โดยดีเอ็นเอเพิ่มขึ้นอีก 14 ราย รวมตลอด 4 ช่วงของการสืบสวนคดีดังกล่าว มีการเก็บดีเอ็นเอ 379 ราย เมื่อได้ตรวจสอบกลับปรากฏว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่ขอบกางเกงของน.ส.โทโมโกะ จึงเปลี่ยนการสืบสวนสอบสวนใหม่ โดยนำดีเอ็นเอไปปรึกษากับนักพันธุศาสตร์” รมว.ยุติธรรมกล่าว
พ.ต.ท.วรรณพงษ์เปิดเผยว่า ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 ได้สกัดโครโมโซมจากดีเอ็นเอที่ขอบกางเกงพบเป็นโครโมโซมวาย จำนวน 16 จุด แล้วนำไปพิสูจน์ทางวิชาการ วิเคราะห์แล้วพบว่าเป็นชาติพันธุ์กลุ่มประชากรในเอเชียตะวันออก ซึ่งมี 7 กลุ่มประเทศ แต่ที่ยืนยันได้คือใน 7 กลุ่มไม่มีประเทศไทย
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย เป็นความรับผิดชอบของทางการไทย เมื่อไม่ปรากฏว่าผลตรวจดีเอ็นเอเป็นของคนไทยก็จะประสานไปยังตำรวจสากลและตำรวจญี่ปุ่น เพื่อมอบให้ดำเนินการต่อ เพราะว่ากฎหมายและต่างชาติแตกต่างกัน
นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานนิติวิทยาศาสตร์และผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม กล่าวว่า น้ำยาใหม่ที่ใช้ตรวจสอบสกัดหารูปแบบสารพันธุกรรม คือ น้ำยา Yfiler Plus นั้น มีระดับผลความแม่นยำ 99.99% ผลจากการสกัดดีเอ็นเอขอบกางเกงด้านหลังข้างขวาของน.ส.โทโมโกะ พบว่าเข้ากับลักษณะพันธุกรรมที่มีเอกลักษณ์ดีเอ็นเอของคนชาติพันธุ์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน อย่างไรก็ดี มีลักษณะคล้ายคลึงกับชาวญี่ปุ่น และเกาหลีใต้มากกว่า
นายโทโมยูกิกล่าวว่า ขอขอบคุณที่ทางการไทยให้ความสำคัญกับการสืบสวนคดี แต่น่าเสียดายที่ผลการตรวจดีเอ็นเอไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่ยังเป็นผลดีของการสืบสวนต่อ ซึ่งทางการญี่ปุ่นยินดีที่จะประสานเรื่องการไขคดีกับดีเอสไอต่อไป ผลการวิเคราะห์ฐานข้อมูลดีเอ็นเอของไทย ทำให้ทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็นเชื้อชาติพันธุ์เอเชียตะวันออก และมีความเป็นไปได้ว่าไม่ใช่คนไทย แต่ก็ไม่ได้ตัดสินว่าคนร้ายจะเป็นคนชาติไหน ซึ่งทางการญี่ปุ่นยินดีที่จะสืบสวนต่อ แต่คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน การจะให้ระบุว่าจะบังคับให้ชายญี่ปุ่นคนดังกล่าวมาตรวจดีเอ็นเอได้หรือไม่นั้นไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
เมื่อถามว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุมีผู้ต้องสงสัยใกล้ชิดกับน.ส.โทโมโกะ เดินทางออกนอกประเทศกี่คน พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่ามีผู้ใกล้ชิดกับเหตุการณ์เป็นชาวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศ 1 ราย ชายคนดังกล่าวเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต แต่ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจดีเอ็นเอในครั้งนั้น โดยบุคคลดังกล่าวอยู่ที่ญี่ปุ่น และยังมีชีวิตอยู่เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวมาตรวจดีเอ็นเอได้ ส่วนที่มีการระบุว่าพบชาวเกาหลีใต้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ดีเอสไอจะตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ในการสืบสวนคดียืนยันว่าดีเอ็นเอที่ตรวจไม่มีคนไทยเกี่ยวข้องแน่นอน มั่นใจว่าจะปิดคดี ซึ่งจ.สุโขทัย เป็นบ้านเกิดของตน การดำเนินการในเรื่องการสืบสวนคดีนี้ และผลที่ออกมาถือว่าเป็นศักดิ์ศรีความเป็นคนสุโขทัย ไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ทำความชัดเจนให้ปรากฏ ซึ่งการสอบสวนในเมืองไทยสมบูรณ์ คนไทย รอดตัวแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน