ชาวบางกลอยมึนอุทยานฟ้อง – กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แจ้งดำเนินคดีต่อสภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กับ 4 ชาวบ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง ข้อหายึดถือครอบครองที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า

ภายหลังศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเข้ารื้อถอนเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดี ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงมีคำสั่งให้กรมอุทยานฯจ่ายค่าเสียหายให้กับชาวบ้านแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า ชาวบ้านที่ถูกแจ้งความครั้งนี้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวที่ฟ้องกรมอุทยานฯ ที่เผาบ้าน นำโดยนายโคอิ มีมิ หรือปู่คออี้ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้จ่ายเยียวยาชาวบ้าน พร้อมให้ดำเนินการตามมติครม. 2533 ในการฟื้นฟูและคุ้มครองวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง แต่กลับไม่ปฏิบัติตามแถมยังดำเนินคดีกับชาวบ้านอีกถือว่าเป็นการขัดคำสั่งศาลสูงสุด ตนคิดว่าการแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านครั้งนี้เป็นการจองล้างจองผลาญกับชาวบ้านมากกว่า ไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่กรม อุทยานฯ ที่ไปแจ้งความได้รับมอบหมายจากอธิบดีหรือไม่ แต่การจองเวรกันเช่นนี้อาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดบอกชัดว่าชาวบ้านอยู่มาหลายร้อยปีและเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ดังนั้นการดำเนินการครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่อุทยาน อาจมีความผิดเสียเอง ซึ่งควรให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านด้วย

ขณะที่นายเพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า เรื่องนี้ควรรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายไม่ใช่ตัดสินว่าชาวบ้านบุกรุกตามข้อกล่าวหา เพราะการที่เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจสนธิกำลังขึ้นไปทำลายข้าวของของชาวบ้าน แถมยังกล่าวหาแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านอีก โดยคนที่ถูกกล่าวหาแทบไม่มีโอกาสได้ชี้แจง แถมยังออกข่าวใหญ่โตจนสังคมเข้าใจผิด ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและไม่ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่จบ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นเรื่องของการล้างแค้นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน