เฟอร์รี่สมุยล่ม
ดับ1-สูญหาย4

เลยอ่วม เจอฤทธิ์พายุ ‘ซินลากู’ น้ำป่าหลาก ท่วมนับพันหลัง ‘บิ๊กตู่’สั่งเร่งช่วยเหลือ ขณะที่หลายจังหวัดต่างได้รับผลกระทบถ้วนหน้า อุตุฯเตือนกระทบทั่วประเทศ ทะเลใต้คลื่นสูง 4 เมตร ซัดเรือเฟอร์รี่ล่มหลังออกจากเกาะสมุย ช่วยได้ 9 สูญหาย 7 เจอศพแล้ว 1 เจ้าท่าสั่งสอบฝ่าฝืนคำเตือน

‘ซินลากู’ขึ้นฝั่ง

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) (SINLAKU) ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2563 ความว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (2 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว

โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองทันหวา ทางตอนใต้ของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) ในวันนี้ จากนั้นจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาว และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ (พายุระดับ 1) ในระยะ ต่อไป

อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

อุตุเตือนกระทบทั่วประเทศ

พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้ ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2563 ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ

ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

ทะเลใต้คลื่นสูง 4 เมตร

วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก: ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดออกจากฝั่ง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563

สำหรับพายุระดับ 3 (โซนร้อน ฮากูปิต) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเกาะไต้หวันและเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จม‘เลย’ – น้ำป่าจากลำน้ำลาย ไหลเอ่อล้นเข้าหมู่บ้าน บ่าท่วมนับพันหลังคาเรือน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเลย หลังเกิดฝนตกอย่างหนัก จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนซินลากู ปภ.เร่งเข้าไปช่วยเหลือแล้ว เมื่อวันที่ 2 ส.ค.

เลยอ่วมน้ำป่าท่วมหลายพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านโพนทอง ต.เชียงกลม อ.ปากชม จ.เลย เกิดน้ำป่า จากภูเขาภูเท และภูถ้ำไหลลงลำห้วยห้วยไผ่ ก่อนทะลักเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนเนื่องจากมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนถึงเช้าก็ยังมีฝนตกอยู่ชาวบ้านต้องช่วยกันขนของขึ้นที่สูงอย่างโกลาหล

นายสุข กาวน อดีตกำนัน ต.เชียงกลม กล่าวว่า ฝนได้ตกตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมา ที่อำเภอปากชมฝนตกตลอดคืน จนถึงเช้าวันนี้เมื่อช่วงเช้าได้รับข่าวว่า ได้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้านโพนทอง ต.เชียงกลม อ.ปากชม ล่าสุด มีบ้านเรือนที่น้ำเข้าบ้านและเสียหายมีจำนวน 7 หลัง น้ำได้ท่วมที่นาไร่สวนเสียหายกว่า 200 ไร่ มีผู้บาดเจ็บจากกระจกบ้านบาดที่ขา นำส่งโรงพยาบาล 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจะเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้นแต่คาดว่าสถานการณ์น้ำไปไวมาไว ช่วงสายๆ คงเข้าสู่ภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดเลยเกิดฝนตกหนักตลอดคืนทั้ง 14 อำเภอ ทำให้ในหลายอำเภอเกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ดินสไลด์ลงมาปิดเส้นทาง ร่วมทั้งต้นไม้ใหญ่ล้มปิดเส้นทางในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะ บ้านสงเปือย บ้านหวยพอด ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง เข้าท่วมบ้านประชาชนแล้วกว่า 50 เรือน และเส้นทาง บ้านธาตุ-ปากชม เกิดต้นไม้ใหญ่ล้มทับเส้นทาง ส่วนถนนเส้น นาแห้ว- ด่านซ้าย บริเวณภูเก้าง้อม ฝนตกได้มีดินสไลด์ลงปิดถนน และอำเภอปากชมบ้านนานกปีด ต.ห้วยบ่อซืน อ.ปากชม จ.เลย น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เจ้าหน้าที่ได้เร่งออกประกาศให้ประชาชน เก็บข้าวของไว้บนที่สูง

ส่วนด้านอำเภอเมืองเลย ในช่วง เวลา 05.00 น. เกิดเหตุน้ำป่าทะลักเข้าท่วมกว่า 400 หลังคาเรือนใน ต.น้ำสวย อ. เมือง จ.เลย โดยบ้านเรือนบางหลัง น้ำทะลักเข้าไปในบ้านระดับน้ำสูงประมาณ 70 เซนติเมตร นายจรูญ พานิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำสวย ได้นำเจ้าหน้าที่ อบต. และได้ประสาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าช่วยเหลือบ้านเรือน ขนของไว้บนที่สูง พร้อมกับเร่งสำรวจความเสียหาย

ล่าสุด นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย กล่าวว่า ระดับน้ำ ยังคงทรงตัว แต่มีเสาไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านหมู่ บ้านหักขาด 1 ต้น ไฟฟ้าในหมู่บ้านไม่สามารถใช้ได้กว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ระบบโทรศัพท์มือถือใช้งานไม่ได้ ตอนนี้กำลังนำชุดกู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดเลย เร่งเข้าให้การช่วยเหลือ ถนนเขาหมู่บ้านโดนตัดขาด น้ำไหลเชี่ยวมาก ต้องใช้แพ หรือเรือ จึงจะข้ามไปยัง พื้นที่ เสมือนติดเกาะต้องอ้อมเดินทาง ซึ่งเส้นทางนั้นก็มีน้ำท่วมสูงเช่นกันรถเล็กไม่สามารถผ่านได้

ลำปางท่วมแจ้ห่ม-วังเหนือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ บ้านเปียงใจ ม.4 ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง หลายหลังคาเรือน โดยระดับน้ำมีความสูง ตั้งแต่ 30 ซ.ม. ถึง 50 ซ.ม. บางจุดสูงถึง 1 เมตร ทางผู้นำชุมชนพร้อมด้วย อบต.ปงดอน เจ้าหน้าที่ ปภ.สาขา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้นแล้ว

นอกจากนั้นยังพบว่าเกิดน้ำป่าหลากพื้นที่บ้านปงถ้ำ หมู่ 3 ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบประจำ โดยน้ำป่าไหลหลากลงในลำห้วยแม่แสด น้ำเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วก่อนจะไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดกับลำห้วย ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โชคดีที่ครั้งนี้น้ำหลากมาในช่วงเช้า ทำให้ชาวบ้านเก็บของรับมือได้ทัน เพราะมีสัญญาณแจ้งเตือนมาก่อน อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ซึ่งมีอีกหลายพื้นที่ใน จ.ลำปาง

ระนองซัดบ้านจมคลอง

อิทธิพลจากพายุโซนร้อนซินลากู ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามัน มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดลมพัดกระโชกแรงและฝนตกหนักต่อเนื่อง มีรายงานบ้านเรือนถูกลมพัดหลังคาปลิวและไม้ล้มทับ จำนวนมากในหลายสิบพื้นที่ จนท.หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขององค์กรปกครองท้องถิ่น ทั้ง 5 อำเภอ คือ อ.กระบุรี, อ.ละอุ่น, อ.เมืองระนอง, อ.กะเปอร์ และ อ.สุขสำราญ พร้อมกำลังอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ แบ่งกำลังกันเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ถนนชลละอุ ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง เส้นทางเข้าสวนรุกขชาติรักษะวาริน หรือ บ่อน้ำพุร้อนระนอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด เกิดไม้ริมไหล่ทางเชิงเขาหักโค่นปิดช่องทางเดินรถเข้าออก เป็นระยะทางยาว 30 เมตร มีรถติดยาวร่วม 1 ก.ม.

นายนรูดี อับดุลราฮิม นอภ.สุขสำราญ รายงานด่วนต่อนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผวจ.ระนอง ว่า พื้นที่หมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน บ้านบางกล้วยนอก ม.3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง บ้านเรือนชาวบ้านบริเวณท่าเรือถูกลม-น้ำซัดจมลงคลองจำนวน 4 หลัง เจ้าบ้านไม่สามารถนำข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนออกมาได้ทัน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งลงพื้นที่เพื่อหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

ตราดระทึกเรือฝ่าคลื่น

ที่ท่าเรือแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด เรือโดยสารเกาะกูดเอกซ์เพรส ของนายสุทัศน์ ทศดารา สมาชิกอบจ.ตราดเขต อ.เกาะกูด ที่เดินทางมาจาก อ.เกาะกูด ในเวลา 09.00 น. ระหว่างเดินทางมีคลื่นลมแรงและฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุทำให้เรือโคลงไปมาตลอดทาง ทำให้ผู้โดยสารนับสิบคนมีอาการเมาเรือ กระทั่งในเวลา 12.15 น. เรือพยายามเข้าเทียบท่าเรือ แต่มีคลื่นลมแรงและมีฝนตกโปรยปรายลงมา พนักงานพยายามนำเชือกมาคล้องแต่เชือกที่คล้องเกิดขาดหลายเส้น ใช้เวลากว่า 1 ช.ม. จึงสามารถผูกเชือกได้ และนำสะพานลงเรือมาเทียบท่าได้ทำให้ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่ต้องรออยู่บนเรือนานและมีอาการเมาเรือจำนวนมาก

น.ส.กาญจนา หงส์ศิริกุล นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตื่นเต้นระหว่างลงเรือ เพราะคลื่นแรง แต่เมื่อเดินทางกลับมีคลื่นแรงทำให้เมาเรือและมารอที่ท่าเรือเพื่อขึ้นท่าเรือกลับมีคลื่นแรงทำให้ต้องรออยู่ในเรือ ซึ่งขามาเกาะกูดไม่มีอาการเมาเรือเพราะไม่มีคลื่นลม แต่ดีใจที่ไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น

ทั้งนี้สำหรับเรือโดยสารจากเกาะกูดจะเดินทางมาอีก 2 เที่ยวในเวลา 13.45 น.และจะเดินทางไปเกาะกูดอีกในเวลา 14.00 และเวลา 15.00 น. ซึ่งคลื่นทะเลยังมีความรุนเเรงอยู่

ชุมพรพายุพัดทุเรียนโค่น

ส่วนที่จ.ชุมพรมีลมกระโชกรุนแรง ฝนตกหนักส่งผลทำให้ต้นไม้ริมทางหลวงหมายเลข 41 หลายจุด หักโค่นล้มกีดขวางทางจราจรทั้งฝั่งขาล่องและฝั่งขาขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหลัก ก.ม.ที่ 38-39 เขตพื้นที่ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร มีต้นกระถินขนาดใหญ่หักโค่นล้มขวางถนนเจ้าเหน้าที่หมวดทางหลวงสวี กรมทางหลวง จำนวน 6 นาย นำเลื่อยยนต์เข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดช่องทางจราจรอย่างเร่งด่วน จากการสำรวจยังพบว่ามีป้ายริมถนนล้มได้รับความเสียหายหลายจุดเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีพืชผลทางการเกษตรสำคัญเช่น ผลทุเรียนร่วงหล่น ต้นหักโค่น และบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายพื้นที่โดย เฉพาะอ.สวี อ.เมืองชุมพร อ.หลังสวน และอ.พะโต๊ะ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย

สุราษฎร์ฯเรือเฟอร์รี่ล่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. คืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเรือเฟอร์รี่เช่าแบบเหมาลำ ล่มบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 5 ไมล์ทะเล หลังเกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ที่อยู่ใกล้เคียง 2 ลำ ได้เข้าช่วยเหลือ และสามารถนำผู้รอดชีวิตทั้งหมด 9 คน ส่งต่อให้เรือตำรวจน้ำเกาะสมุย นำกลับเข้าฝั่งที่เกาะสมุยได้สำเร็จ แต่ยังมีผู้สูญหาย 7 คน

จากการสอบถามผู้รอดชีวิตจากเรือเฟอร์รี่ล่ม กล่าวว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองอยู่บนดาดฟ้าของเรือ รู้สึกว่าเรือเกิดเอียงไปทางขวา ตอนนั้นคาดว่าเรืออาจจะวิ่งไปปะทะกับคลื่นลูกใหญ่ ทำให้รถบรรทุกพ่วงที่อยู่ในระวางเรือไหลไปทางขวามาก ตนเองจึงรีบนำเสื้อชูชีพมาใส่ แล้วกระโดดน้ำลอยคออยู่กลางทะเล จนมีเรือเข้ามาช่วย

นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแพทย์ พยาบาล กู้ชีพ กู้ภัย เดินทางที่สถานีเรือสมุย ทัพเรือภาค 2 ต.ลิปะน้อย เพื่อลงเรือตำรวจน้ำออกค้นหาผู้สูญหายยังจุดที่เกิดเหตุ โดยสภาพอากาศช่วงเช้าคลื่นยังแรง สูงประมาณ 2-3 เมตร มีฝนตกลงมาอยู่เป็นระยะๆ ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก และตัวเรือได้จมลงไปก้นทะเลแล้ว

นายวิชวุทย์กล่าวว่า จากผลอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหา ขณะนี้ได้ประสานไปทางราชาเฟอร์รี่เพื่อขอทราบพิกัดเส้นทางเดินเรือที่แน่ชัดเพื่อนำทุ่นไปปักไว้ เมื่อคลื่นลมสงบจะได้ส่งทีมนักประดาน้ำเข้าช่วยค้นหา ในส่วนของทางทหารจากทัพเรือภาค 2 กองทัพภาคที่ 4 และกองบิน 7 สนับสนุนเรือ และเฮลิคอปเตอร์ช่วยการออกค้นหาในครั้งนี้

พบรอดชีวิตอีก 2 ราย

ต่อมาเวลา 10.39 น. มีชาวบ้านบนเกาะแตนแจ้งว่า พบผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มแล้ว 2 ราย ทราบชื่อนายพชร ทิพย์รัตน์ ตำแหน่ง กะลาสี และนายสุวิทย์ นรเศรษฐวรชัย ตำแหน่ง ผู้จัดการบริษัทรับเหมา โดยลอยไปติดที่เกาะแตนที่อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสมุย ทั้ง 2 คนปลอดภัย แต่มีอาการอ่อนเพลีย ชาวบ้านเข้าดูแลให้ข้าวให้น้ำกิน และรอเจ้าหน้าที่นำเรือเข้าไปรับกลับไปให้แพทย์ดูอาการ ต่อไป

ขณะที่เวลา 12.20 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งพบศพชายไทย ลอยไปติดที่เกาะแตน จากการตรวจสอบและได้รับการยืนยันว่าคือ นาย เทวินทร์ สุราษฎร์ ตำแหน่ง นายเรือ ล่าสุดยังมีผู้ที่สูญหาย 4 คน ได้แก่ 1.นายศิระวุธ ทองบุญยัง ตำแหน่ง สรั่งช่างกล 2.นายทิวากรณ วัชรฤทธิ์ ตำแหน่ง กะลาสี 3.นางสาวนภัรดา จันหาญ ตำแหน่ง พนักงานขายของบนเรือ 4.นายชาญชัย เหล่าทรัพย์ ตำแหน่ง คนขับรถบรรทุกสิบล้อ

ด้านราชาเฟอร์รี่ ได้ออกหนังสือขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุฉุกเฉินที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเน้นย้ำให้เร่งช่วยเหลือลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดให้ได้ จากนั้นจะเร่งกู้เรือขึ้นมา พร้อมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น หากมีความคืบหน้าจะแจ้งประกาศเพิ่มเติมทันที

เจ้าท่าเร่งสอบฝ่าฝืนออกเรือ

ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าตามที่เมื่อคือวันที่ 1 ส.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัดที่บรรทุกสินค้า ออกจากท่าเทียบเรือของบริษัทราชาเฟอร์รี่ อ.เกาะสมุย มุ่งหน้า อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เจอคลื่นแรง จนทำให้ตัวเรือเอียง ก่อนจะอับปาง เกิดเหตุบริเวณระหว่างเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากท่าเทียบเรือฝั่ง อ.เกาะสมุย ประมาณ 5 ไมล์ทะเล

โดยเรือลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารรวม 16 ราย ขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะสมุยจำนวน 9 ราย และกำลังค้นหาอีกจำนวน 7 ราย เบื้องต้นได้สั่งการโดยด่วนให้กรมเจ้าท่าร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ ธานี ส่งเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 7 คนโดยเร็วรวมทั้งให้กรมเจ้าท่าออกประกาศแจ้งเตือนผู้ที่เดินเรือในทะเลโดยด่วน ควรงดเดินเรือในระยะนี้เนื่องจากทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูงและลมแรง นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กรม เจ้าท่าเร่งสอบสวนหาสาเหตุทำไมจึงยังฝ่าฝืนออกเรือ ทั้งที่เจ้าท่าได้เตือนแล้ว

เชียงรายน้ำซัดถนนขาด

ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก สภ.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ว่าเส้นทางเชียงใหม่ – เชียงราย ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงลงดอยนางแก้ว เกือบจะถึงน้ำพุร้อนแม่ขะจาน (ก่อนปากทางเมืองน้อย) เกิดถนนขาด รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ หลังจากฝนตกอย่างหนักในพื้นที่

เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกำลังเร่งใช้เครื่องมือหนักเข้าซ่อมแซม และมีน้ำท่วมถนนอีกหลายจุด เจ้าหน้าที่ต้องมาติดป้ายเตือน และประชาสัมพันธ์ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1150 เวียงป่าเป้า- อ.พร้าว เชียงใหม่ ชั่วคราว นอกจากนี้มีรายงานว่า ถนนสายเวียงป่าเป้า-วังเหนือ ลำปาง ทางหลวงหมายเลข 120 ก็มีน้ำป่าข้ามถนน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้เช่นกัน น้ำป่ายังไหลเข้าท่วมหมู่บ้านโฮ่ง บ้านบวกขอน ต.แม่เจดีย์ หลายหลังคาเรือน บางจุดน้ำสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยขนย้ายคนชรา และเด็กออกมาหลบภัยในที่สูง และตัดกระแสไฟบางจุดเพื่อป้องกันไฟดูด

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่ายังคงมีฝนตกตลอดทั้งวันทำให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยาก เนื่องจากยังคงมีน้ำป่าไหลลงมาจากดอยสูงอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลัง เฝ้าดูระดับน้ำตามจุดเสี่ยงตลอด 24 ช.ม.

‘บิ๊กตู่’สั่งเร่งช่วยเหลือ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นห่วงสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง อ.เชียงคาน และอ.ปากชม จ.เลย โดยสั่งการให้ผู้ว่าฯเลย หน่วยทหารในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องระดมกำลังลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า นายกฯกำชับให้ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น รวมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหาย อย่าปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อน เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสัตว์เลี้ยง พร้อมกับให้เคลื่อนย้ายชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย จัดหาอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ให้กับชาวบ้านอย่างพอเพียง ขอให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยชีวิตเป็นสำคัญ และย้ำเตือนให้ชาวบ้านติดตามข่าวสารรวมถึงการแจ้งเตือนจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด

มท.เผยจมนับพันหลัง

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จ.เลย ทำให้เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในเขต อ.เมืองเลย อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม จ.เลย ประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน ตนได้สั่งการไปยังผู้ว่าฯเลย หน่วยงานปภ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยในทันที โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่มีสภาพชั้นเดียว รวมถึง บ้านเรือนที่มีเด็กและคนชราอาศัยอยู่ ให้เร่งอพยพออกมายังที่ปลอดภัยก่อน พร้อมทั้งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้จัดเตรียมสถานที่อพยพและเครื่องอุปโภคบริโภคให้พร้อมเพรียง ในส่วนของเส้นทางคมนาคมและการติดต่อสื่อสาร ที่ถูกตัดขาด เช่น สะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถนนที่ใช้สัญจร และระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ

รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ประสานการแก้ไขร่วมกับอบจ.เลยและหน่วยทหารในพื้นที่ เพราะยังมีความจำเป็นในการลำเลียงการช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่เช่น อาหาร และดูแลผู้เจ็บป่วย หรือ บาดเจ็บ จากเหตุอุทกภัย ตลอดจนให้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเลย ในการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตราย และ สำรองการใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับพื้นที่อพยพ อีกด้วย โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือทุกคน ได้คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและตัวเจ้าหน้าที่เอง เป็นลำดับแรก เพื่อป้องการกันสูญเสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน