‘ วิชา’ชี้สังคมสบายใจได้
อัยการส่งตร.สอบใหม่
ปมโคเคน-ความเร็วซิ่ง

ยังไม่ถอนหมายจับ ‘บอส’ รื้อคดีโคเคน ซิ่งรถชน ‘วิชา’ ประธานกก.ตรวจสอบฯ ชี้สบายใจได้ คดียัง ไม่ยุติ เรียกอัยการมาให้ข้อมูล ลุยสอบปมความเร็วรถ การใช้สารเสพติด ขณะที่กมธ.กฎหมาย กมธ.กิจการศาล ถกเครียด อัยการชี้แจงย้ำเหตุสั่งไม่ฟ้องเป็นไปตามพยานหลักฐานในสำนวน อีกทั้งพยานยืนยันสอดคล้องความเร็วรถไม่ถึง 80 ก.ม./ช.ม. เตรียมส่งต่อให้ตร.สอบใหม่ ส่วนอาจารย์ผู้คำนวณความเร็ว ยืนกรานวัดได้ 76 ก.ม. ทำตามหลักวิศวะ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ร่วมกับ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการรัฐ วิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร โดยเชิญนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำคดีของฝ่ายอัยการ นำโดย นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม นายประยุทธ เพชรคุณ และนายฤชา ไกรฤกษ์ อธิบดีอัยการ เจ้าของสำนวน พร้อมเชิญนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ที่ตรวจวัดความเร็วรถของนายวรยุทธ ได้ 76 ก.ม./ช.ม. มาชี้แจงข้อเท็จจริงการทำคดี แต่นายเนตรไม่มาชี้แจง

นายประยุทธ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่าการสั่งไม่ฟ้องของนายเนตร รองอัยการสูงสุด มีอำนาจตามกฎหมาย เหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องเป็นไปตามพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งนายวรยุทธร้องขอความเป็นธรรมอยู่หลายครั้ง รวมถึงการร้องต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำให้มีพยานยืนยันสอดคล้องตรงกันว่าความเร็วรถของนายวรยุทธไม่ถึง 80 ก.ม./ช.ม. โดยเฉพาะผลการคำนวณนายสายประสิทธิ์ อาจารย์ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ

อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากล่าวต่อว่า ประกอบกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่ตรวจวัดความเร็วครั้งแรกว่า 177 ก.ม./ช.ม. มายอมรับในการสอบสวนเพิ่มเติมว่าตรวจวัดความเร็วคลาดเคลื่อน และยืนยันว่าความเห็นของนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ไปร่วมคำนวณความเร็วในที่เกิดเหตุ และระบุความเร็วที่ 177 ก.ม./ช.ม. ไม่มีอยู่ในสำนวนอย่างแน่นอน เพราะหากอยู่ อัยการไม่มีเหตุผลที่จะไม่สั่งฟ้อง

ส่วนนายปรเมศวร์ อธิบดีอัยการ กล่าวว่าจากการตรวจสำนวนทั้งหมดตามข้อเท็จจริงอัยการเชื่อว่าที่ว่าชนลากศพไป 200 เมตรนั้นไม่เป็นความจริง แต่ศพกระเด็นบนรถ แล้วรถยังไปต่อก่อนรถจะล้มลง ส่วนข้อมูลความเร็ว 177 ก.ม./ช.ม. แต่แรกนั้นไม่มีผลการคำนวณยืนยัน เป็นเพียงเอกสารแผ่นเดียว ส่วนข้อเสนอจากการพิจารณาของกมธ. สนช.นั้น ยอมรับว่าอัยการต้องรับฟัง เพราะถือเป็น ผู้แทนของประชาชน และสัปดาห์หน้าจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ส่วนระยะเวลาจะช้าหรือเร็วอย่างไรให้ขึ้นอยู่กับตำรวจ

ขณะที่นายสายประสิทธิ์ อาจารย์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ยืนยันว่าเป็นการคำนวณตามหลักการทางวิชาการ โดยวิเคราะห์จากภาพที่เกิดขึ้น ตรวจสอบความเร็วจากหน้าปัดนาฬิกาที่โชว์บนคลิป และใช้สูตรปกติคือระยะทางหาด้วยเวลา แต่ภาพที่ได้มาเป็นลักษณะมุมเฉียง และเกิดขึ้นหลายปี ที่สำคัญการคำนวณความเร็วจากภาพก็ไม่ได้ยืนยันความเร็วที่เกิดขึ้นจริง อยู่บนสมมติฐานและความเร็วในการถ่ายภาพเฟรม 25 เฟรม ก็ไม่ได้ยืนยันความเร็วของรถที่แท้จริง ซึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ เวลาคำนวณการใช้ถุงลมนิรภัยจะใช้กล้องความเร็วสูงประมาณ 500 เฟรมต่อวินาที ดังนั้นสมมติฐานที่เกิดขึ้นเป็นการทำตามหลักการ

ส่วนนายฤชา อธิบดีอัยการ ชี้แจงว่าการสั่งคดีนั้น สั่งดำเนินการในฐานะพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน โดยสั่งฟ้อง 4 ข้อหา ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ข้อหานี้พบการตรวจความเร็วจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณที่เกิดเหตุ และในความเห็นส่วนตัวของตน นอกจากการคำนวณความเร็วจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นพยานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์ผู้ช่วยจะสอนเสมอว่าบางครั้งพยานนิติวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราวินิจฉัยได้จากพยานวัตถุที่โกหกไม่ได้ หรือบิดเพี้ยนไม่ได้

อัยการเจ้าของสำนวนกล่าวว่า กรณีนี้ดูกระจกหน้ารถยนต์ของผู้ต้องหาว่าแตกเป็นใยแมงมุมละเอียด ดูความเสียหายของรถและสภาพศพของผู้ตายหลังเกิดเหตุว่าน่าเชื่อว่าขณะเกิดเหตุนายวรยุทธขับรถด้วยความเร็วสูงมาก ในฐานะส่วนตัวความจริงพยานนิติวิทยาศาสตร์กรณีนี้บางครั้งอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องนำมาใช้ในกรณีนี้เลย เพราะจับรถด้วยความเร็วสูงก็เป็นการประมาทแล้ว

นายฤชากล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นข้อหายาเสพติด ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหามาและเมื่อฟังคำชี้แจงพบว่า ผลการตรวจร่างกายไม่ได้พบสารโคเคนโดยตรง แต่พบสาร 2 ตัว ที่สามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 กรณีคือ การเสพโคเคนร่วมกับดื่มสุรา และอีกเหตุผลที่มีความเป็นไปได้ผลดังกล่าวเป็นผลลวง จากการกินยาแก้อักเสบ เพราะตามข้อเท็จจริงพบว่านายวรยุทธ ได้เข้ารักษาอาการครอบฟันเลื่อนก่อนเกิดเหตุ และแพทย์ได้ยืนยันว่าจ่ายยาแก้อักเสบให้นายวรยุทธจริง เมื่อประมวลแล้วไม่กล้าแนะนำให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีโคเคน เพราะหลักฐานไม่แน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมกมธ.มีมติร่วมกันว่าจะส่งหนังสือเชิญบุคคลเข้าชี้แจงต่อกมธ.อีกครั้ง อาทิ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นการเชิญครั้งที่ 3 พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผบ.ตร. นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. และอดีตเลขานุการกมธ.การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สนช. และนายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นต้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ว่าได้ข้อมูลมากขึ้น โดยประสานไปยังอธิบดี ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เกี่ยวกับเรื่องหมายจับที่ตำรวจบอกว่าขอถอนหมายจับนายวรยุทธ เพื่อให้คดียุติไปนั้น ทราบว่าวันนั้นตำรวจไปขอถอนหมายจับจริง แต่มีกลุ่มมวลชนไปยื่นคำร้องขอศาลอย่าเพิ่งถอน หมายจับ ศาลเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จำเป็นต้องไต่สวนก่อน และขณะนี้พนักงานสอบสวนจึงถอนคำร้องไปแล้ว

นายวิชากล่าวยืนยันว่าขณะนี้หมายจับ ยังอยู่ และเหตุที่หมายจับยังอยู่ เนื่องจากคดียังไม่ยุติ ยังเป็นปัญหาอยู่ อัยการก็เพิ่งแถลงไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่าจะนำข้อมูลเข้าใหม่และสั่งคดีใหม่ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ถอนหมายจับยังไม่ได้ ขอแจ้งให้ประชาชนสบายใจว่าคดีนายวรยุทธยังไม่จบ ส่วนเรื่องหมายจับของตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล เรื่องยังไม่ชัดเจน และเราไม่สามารถไปแทรกแซงได้ เพราะอยู่นอกอำนาจ แต่ในส่วนของประเทศไทยแน่ใจว่ายังไม่ถอนหมายจับ

ประธานคณะกรรมการตรวจสอบฯ กล่าวต่อว่าหลังจากนี้จะเรียกพยานมาสอบ เช่น อัยการ ในวันที่ 6 ส.ค. โดยนายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด จะนำสำนวนที่อัยการตรวจสอบมาให้ถ้อยคำกับคณะทำงานตรวจสอบอัยการ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คงจะมาเล่ารายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง ส่วนสำนวนจากทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ อัยการ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวว่ามีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง เราจะทำหนังสือขอมาทั้งหมด พร้อมเรียกอัยการที่รวบรวมสำนวนและมีข้อโต้แย้งต่างๆ มาให้ข้อมูลในวันที่ 9 ส.ค.

นายวิชากล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะเชิญผู้ที่ตรวจสอบเรื่องความเร็วรถคือนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาฯ มาให้ข้อมูล รวมถึงประเด็นสารโคเคน จะเชิญ พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี มาให้ข้อมูล

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯฝากอะไรมายังคณะกรรมการตรวจสอบฯ บ้าง นายวิชากล่าวว่าไม่มี เพียงแต่บอกให้ทำเต็มที่ ให้ประชาชนสบายใจ ทุกเรื่องกระจ่าง ไม่มีลับลมคมใน คาดว่าอย่างน้อยสัปดาห์หน้า ผบ.ตร.คงต้องมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการชุดใหญ่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน