กมธ.งบส่อยื้อลงมติอีก
พท.นัดเคลียร์ก้าวไกล
ไม่ร่วมวงปิดสวิตช์สว.
คณะทำงานสภาโฉ่ซ้ำ
ตั้งเสี่ยโป้กุนซือแก้บ่อน

‘บิ๊กตู่’ยันไร้ใบสั่งกมธ.งบฯ เลื่อนถกซื้อเรือดำน้ำ แย้มเตรียมแผนเจรจาจีน หาทางออก‘บิ๊กป้อม’ ฉุนคนแอบอ้าง กมธ.ส่อยื้อลง มติอีก ระบุหาก 31 ส.ค. อนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯรายงานผลพิจารณาไม่ชัดเจนก็ยังไม่ลงมติ แต่จะเชิญทัพเรือชี้แจงวันถัดไป ‘พีระพันธุ์’ เผยส่งผลศึกษาแก้ รธน.ให้สภาจันทร์นี้ นายกฯ ติงอย่ามองส.ว.แค่อำนาจโหวตนายกฯ เพื่อไทยนัดก้าวไกลเคลียร์ใจไม่ร่วมปิดสวิตช์ส.ว. ศาลฎีกาฯยืนคุก 1 ปี แต่รอลงอาญา ‘นาที รัชกิจประการ’ ส.ส.ภูมิใจไทย ซุกบัญชีทรัพย์สิน ‘บิ๊กแดง’ ปัดตอบข่าวลือปฏิวัติ ฮือฮา!คณะทำงานสภาตั้ง ‘เสี่ยโป้’ นั่งกุนซือแก้ปัญหาบ่อนพนัน

 

‘บิ๊กตู่’โอดกดดัน-ขอประเทศสงบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “เกษตรทางรอดของประเทศไทย” ในพิธีเปิดงานเกษตรกรสร้างชาติว่า ตนต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเพื่อการพัฒนา แก้ปัญหาอุปสรรคให้กับพวกเรา อย่าให้บ้านเมืองไม่สงบขึ้นมาอีก ทุกอย่างแย่พอแล้ว วันนี้รัฐบาลบริหารงานแบบนิว นอร์มัล จากข้างบนลงล่าง ตนได้ให้ผู้ว่าฯ เป็นที่ปรึกษาทุกกลุ่มทุกฝ่ายในพื้นที่ของตัวเอง และส่งขึ้นมาข้างบน ส่วนโครงสร้างใหญ่ต่างๆ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำ เพื่อแก้ปัญหา อย่าให้ปัญหามันพัลวันเหมือนเดิม สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องยึดมั่นต่อสถาบันที่มีมาอย่างต่อเนื่องทุกรัฐบาล นั่นคือการรวมใจไทยสร้างชาติมาได้ทุกวันนี้ ต้องมีศูนย์รวมใจ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนมาถึงอนาคตของไทย

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์พูดมาถึงช่วงนี้ ได้หยุดพูด ก่อนถอนหายใจพร้อมพูดว่า “เหนื่อยนะ กดดันมากเหมือนกัน ผมไม่มีการเมือง แต่อยากพูดให้เข้าใจเท่านั้นเอง ตั้งใจจะพูด เพราะเห็นคนเยอะ ก็อยากจะพูด เป็นคนทำงานเป็นคนชั้นนำแต่ไม่ใช่รวยมาก แต่นำคนอื่นได้ อยากให้ทุกคนช่วยกัน พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อน ต้องสร้างเหล่านี้ให้ได้ ไม่จำเป็นต้องมีศูนย์เรียนรู้อะไรมากมาย แต่ให้เรียนรู้ออนไลน์ ออฟไลน์ สอนทางปฏิบัติ เพื่อสร้างการเรียนรู้ ที่ทุกอย่างมีตัวชี้วัด เพื่อไปสู่การเกษตรปลอดภัยไร้สารพิษ ขอให้ช่วยกันทำเรื่องนี้ ขออย่าทำลายประเทศ ขอร้องให้หยุดความขัดแย้ง และขอให้ช่วยกันนำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่ดีต่อไป”

ไม่ปฏิเสธ‘บิ๊กเล็ก’นั่งเลขาฯสมช.

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุม สมช.ครั้งที่ 3/2563 มีวาระพิจารณาแต่งตั้งเลขาธิการสมช. คนใหม่ แทน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ คาดว่าที่ประชุมจะเสนอแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ. ข้ามห้วยมาเป็นเลขาธิการ สมช.

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับการแต่งตั้งเลขาธิการสมช.คนใหม่ ได้เห็นชอบร่วมกัน โดยใช้ทั้งเกณฑ์อาวุโสและความเหมาะสม ข้อสำคัญ ไม่ได้ตั้งญาติตนมาเป็น โดยวันนี้ได้พูดคุยกับภายในสมช.แล้ว ก็แฮปปี้ และไม่ได้มีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมเลขาธิการสมช. มักข้ามห้วยมาจากกองทัพและกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า แล้วมันเป็นยังไง ทำไมรังเกียจทหารกันนัก ซึ่งคนในเขาก็ขึ้น ขึ้นรองมาคนหนึ่ง”

เมื่อถามว่าใช่พล.อ.ณัฐพลหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า แล้วเขาทำงานดีหรือไม่ แล้วต้องทำต่อหรือไม่ ขอให้มองในแง่นี้ด้วย โดยเฉพาะขณะที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้อยู่ เรื่องโควิดด้วย จึงถือว่ามีความเหมาะสม

พร้อมถอยซื้อเรือดำน้ำ

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เลื่อนการพิจารณางบจัดซื้อเรือดำน้ำ ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตอาจมีใบสั่งจากคนในรัฐบาลว่า เรื่องใบสั่ง ยุ่งกันมาตลอด การจัดซื้อเรือดำน้ำ ตนจะไม่ไปเกี่ยวข้องตรงนี้ก็ไม่ใช่ เพราะเป็นรมว.กลาโหม แต่เรียนไปแล้วว่าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกมธ. ตนไม่ได้ไปสั่ง ไม่มีใครสั่ง ใครสั่งไม่ได้ ทราบว่าจะพิจารณากันในวันที่ 28 ส.ค. และลงมติวันที่ 31 ส.ค. ต้องรอดู รัฐบาลและตนในฐานะรมว.กลาโหม ได้เตรียมแก้ปัญหา ขอให้เดินทีละขั้นตอน การทำงานเป็นขั้นตอนแบบนี้

“ผมได้เคยพูดไปแล้ว และไม่เคยบอกว่าต้อง แต่ไปพาดหัวข่าวกันว่าต้องซื้อ ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้น แต่พูดถึงเหตุผลความจำเป็น และแหล่งที่มาของงบประมาณ ถ้าซื้อไม่ได้ จะต้องเจรจากับจีนอย่างไร ผมได้เตรียมแผนงานของผมไว้อย่างนี้ เรื่องนี้เป็นการอนุมัติมาล่วงหน้าแล้ว ขั้นตอนนี้อยู่ในระดับที่ 2 ที่ 3 อย่างที่ว่าในเรื่องความจำเป็น การต่อเรือไม่ได้ใช้เวลาสั้นๆ ต้อง เตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ อะไรที่คุยไว้ จะผ่อนยืดระยะได้บ้างไหม ทั้งหมดต้องรับผิดชอบด้วยกันอยู่แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ และรมว.กลาโหม ขอเพียงความเข้าใจ ไม่อยากให้เป็นประเด็นขัดแย้งกันอีก ถ้าขัดแย้งกันทุกเรื่อง มันก็ไปไม่ได้หมดทุกอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

‘บิ๊กป้อม’โต้มีใบสั่ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ระบุว่าอาจมีใบสั่งจากรัฐบาลให้เลื่อนการพิจารณาจัดซื้อเรือดำน้ำ ในกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ว่า ไม่มี ใบสั่งที่ไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีส.ส.อ้างว่ามีใบสั่งจากรัฐบาลเข้าไป พล.อ.ประวิตร สวนทันทีว่า “เอ้ย ให้ใครล่ะ ใครบอก โธ่” เมื่อถามว่ามั่นใจว่างบดังกล่าวจะผ่านหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ๆ

กมธ.เลื่อนพิจารณาเป็น 31 ส.ค.

น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 เปิดเผยว่า ในการประชุมกมธ.เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ช่วงเวลา 21.00 น. ที่ประชุมได้พิจารณารายงานของอนุกมธ.การฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ เสร็จและเตรียมพิจารณารายงานของอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เนื่องจากที่ประชุมใช้เวลาการพิจารณาทั้งวันและเวลาล่วงเลยมามากแล้ว และเห็นว่าการพิจารณาดังกล่าวน่าจะเสร็จไม่ทันภายในคืนวันที่ 26 ส.ค. จึงขอมติที่ประชุมให้เลื่อนการพิจารณารายงานของอนุกมธ.ที่เหลือทั้งหมด ไปพิจารณาพร้อมกันในวันที่ 31 ส.ค.

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ก่อนปิดการประชุม มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด ระหว่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เนื่องจากนายยุทธพงศ์ ยังคงยืนยันให้พิจารณารายงานของอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ ต่อ แต่นายชาดาเห็นว่า ดึกแล้วและไม่สามารถพิจารณาได้ทัน จนมีการปะทะคารมกัน โดยนายชาดาได้ต่อว่านายยุทธพงศ์ว่า “คุณก็คิดว่าตัวคุณเก่งอยู่คนเดียว จนทำให้เกิดปัญหา” จากนั้นได้ขอมติเสียงข้างมากจากที่ประชุมให้เลื่อนการพิจารณาทั้งหมดไปในวันที่ 31 ส.ค. ขณะเดียวกันวันที่ 28 ส.ค. กมธ.ได้เชิญผู้แทนจากกองทัพเรือมาชี้แจงเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนลงมติในวันที่ 31 ส.ค.

เชิญทัพเรือชี้แจงก่อนเคาะ

พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 เตรียมเชิญกองทัพเรือ เข้าชี้แจงการจัดซื้อเรือดำน้ำเพิ่มเติมในวันที่ 28 ส.ค.ว่า ขอให้เป็นเรื่องของชั้นกมธ. ไปว่ากันกับกองทัพเรือ หลังจากนี้จะไม่มีการแถลงข่าวใดๆ จากกองทัพเรือ เพราะได้ชี้แจงแถลงข่าวเหตุผลความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำไปหมดแล้ว

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการมติพรรคให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า พรรคมอบให้กมธ.กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ในสัดส่วนของพรรค ไปหารือกับกมธ.ของพรรคร่วมรัฐบาล และรอฟังคำชี้แจงของกองทัพเรือ ที่จะมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุมกมธ.งบชุดใหญ่ วันที่ 28 ส.ค. เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าที่ประชุมใหญ่อาจให้ชะลอการจัดซื้อออกไปก่อน

ช่วงค่ำปรับแผน-ส่อยื้อลงมติอีก

ช่วงค่ำวันเดียวกัน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 เปิดเผยว่า กมธ.ได้ข้อสรุปในการเรียกอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ ที่มีนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน เข้ารายงานผลการพิจารณา รวมถึงงบจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 2.25 หมื่นล้านบาท ตามที่กองทัพเรือเสนอ ในวันที่ 31 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

เบื้องต้นกมธ.ยังไม่มีการเชิญกองทัพเรือมาร่วมพิจารณาด้วย แต่จะซักถามถึงผลการพิจารณาในชั้นอนุกมธ.อย่างละเอียดก่อน หากคำชี้แจงของอนุกมธ.ไม่ครบถ้วนรอบด้าน ถึงจะเชิญกองทัพเรือ ในฐานะหน่วยรับงบเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.งบชุดใหญ่อีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย. มั่นใจว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 จะเสร็จทันภายใน 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแน่นอน

ภูมิใจไทยยังไม่โชว์จุดยืน

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยต่อการลงมติซื้อเรือดำน้ำ ว่า เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่มีนโยบายอะไร แต่ต้องเข้าใจข้อเท็จจริงด้วยว่า สภาอนุมัติซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2 กับ 3 ไปเมื่อปีที่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ทำสัญญา แต่ก่อนไปทำสัญญาเกิดสถานการณ์โควิด-19 กองทัพเรือจึงโอนงบงวดแรก 3,000 กว่าล้านบาทกลับมาเพื่อช่วยโควิดก่อน ทำให้ต้องมาตั้งงบในปี 2564 ดังนั้น การจะบอกว่าไม่เอา มันไม่ได้แล้ว การมาอ้างโควิดไม่จบ ทั้งๆ ที่งบโควิดมีพร้อมดูแล ถ้าจะอ้างโควิด อ้างไปช่วยน้ำท่วมสุโขทัยดีกว่า เห็นๆ เลยตรงประเด็นกว่า

“วันนี้ต้องเอาความจริงมาพูดกัน คนที่ออกมาพูดต้องอย่าเบี่ยงเบนประชาชนออกไปจากข้อมูลที่แท้จริง ต้องยืนยันว่า งบก้อนนี้เป็นของเก่า ไม่ใช่ของใหม่ เป็นงบที่สภาอนุมัติเงินผูกผัน เป็นการซื้อเงินผ่อนให้กองทัพเรือปีละ 3,000 ล้านบาท เพียงแต่ยังไม่ทำสัญญา ไม่ใช่จะเสียก้อนเดียว 2.25 หมื่นล้านบาท นี่คือข้อเท็จจริง ไม่ใช่มาใช้วาระซ่อนเร้น ขี่กระแสสังคมแบบนี้” นายชาดากล่าว

‘ยุทธพงศ์’สู้ต่อ-จัด 73ส.ส.ชำแหละ

เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียนกล่าวว่า ยืนยันว่าตนจะยังเดินหน้าต่อสู้ที่จะไม่เอาเรือดำน้ำต่อไป

ส่วนที่กมธ.งบชุดใหญ่ จะเชิญให้กองทัพเรือมาชี้แจงอีกนั้นตนคิดว่าหมดเวลาไปแล้ว เพราะกองทัพเรือมาชี้แจงหลายครั้งแล้ว เรื่องนี้คิดว่าเป็นเกมการเมือง และพยายามที่จะเยื้อ เพื่อให้งบผ่าน รวมทั้งร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 รับเข้าสภาตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. และต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน คือภายในวันที่ 28 ก.ย.

ถ้าพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดอาจทำให้งบฉบับนี้ในชั้นกมธ.ตกไป และใช้ร่างเดิมของรัฐบาลคือได้เรือดำน้ำไปเลย ซึ่งอาจจะใช้เทคนิคขั้นตอนทางกฎหมายตรงนี้ก็ได้ เพราะเมื่อเลื่อนการประชุมออกไปก็ไม่สามารถสรุปได้ พอสรุปเสร็จก็ต้องตรวจรายงานการประชุม และต้องให้เวลาในการพิมพ์เล่ม และส่งสภาใหญ่ก่อนอย่างน้อย 7 วันเพื่อให้สมาชิกได้อ่าน ซึ่งสภาใหญ่นัดประชุมในวันที่ 16-18 ก.ย.จึงเชื่อว่ามีความไม่ปกติ ทำให้การประชุมของกมธ.ไม่เป็นอิสระถูกฝ่ายรัฐบาลครอบงำ

ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำนี้ ดังนั้นเมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 เข้าสู่สภา วาระ 2 และวาระ 3 พรรคเพื่อไทยได้ เตรียมส.ส.แปรญัตติในมาตราเรือดำน้ำ และมาตราอื่นๆ ประมาณ 73 คน ไว้อภิปรายถึงเหตุผลที่มีความเห็นว่าไม่ควรจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำนี้

กมธ.จ่อส่งผลศึกษารธน.ให้สภา

เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2564 เปิดเผยว่า รายงานของ กมธ. เสร็จแล้ว หากทุกอย่างเรียบร้อย คาดว่าวันที่ 31 ส.ค. จะยื่นรายงานต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภา และตามระบบแล้วเมื่อสภาเห็นชอบ จะส่งรายงานฉบับนี้ไปที่รัฐบาล โดยหลักการรัฐบาลควรนำรายงานนี้ไปศึกษาประกอบด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ อยู่ที่รัฐบาลว่าจะให้ความสำคัญกับรายงานนี้แค่ไหน ซึ่งไม่ได้มีบทบังคับไว้

ขอย้ำว่าในรายงานไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ แต่ศึกษาว่าบทบัญญัติต่างๆ เขียนไว้ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ โดยใส่ความเห็นทั้งเสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย ซึ่งเป็นเอกสารทางวิชาการ มากกว่า

‘บิ๊กตู่’ตามใจพรรคร่วม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค ต่างคนต่างทำแยกกันไป ทำนองนี้ก็แล้วแต่พวกท่านจะแก้อย่างไรก็แก้มา แต่อย่าลืมว่าขั้นตอนของกฎหมายว่าอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น

“ถ้ายังไม่มีรัฐธรรมนูญใหม่ก็ต้องใช้รัฐธรรมนูญเก่า ก็ต้องไปดูว่าจะแก้กันอย่างไรถ้าแก้ผิดวิธี มันก็วุ่นไม่เลิก ก็ต้องแก้อยู่อย่างนี้ แก้จนกว่าใครจะได้ประโยชน์ละมั้งผมว่า วันนี้ต้องดูว่าเขาแก้เพราะอะไร มีการกันอะไรไว้หรือเปล่า ไม่ได้ทำเพื่อผมหรอก พูดกันไปกันมาเรื่อยเปื่อย ว่าทำเพื่อผม ความจริงบอกแล้วว่าที่ผมอยู่ทุกวันนี้ คือความรับผิดชอบของผมจนกว่าที่ผมจะไม่ได้อยู่” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

อย่ามองส.ว.แค่เสนอนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเสนอแก้ไขอำนาจของส.ว.ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะเสนอไปได้อย่างไร เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาลก็เสนอแยกกันไปแต่ละพรรคก็ไปชนกันข้างบน ในสภาก็ไปเจอกัน ต้องไปถกแถลงและลงมติกัน ต้องไปดูว่า ประชามติจะทำอย่างไร ต้องทำหรือเปล่า ใช้เวลาเท่าไหร่ ท่านจะไปลบทั้งหมดไม่ได้ เพราะเป็นกลไกของรัฐธรรมนูญที่มีอยู่

เมื่อถามว่าส.ว.ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามกลับว่า “แล้วจะไม่มี ส.ว.หรือ ประเทศไทยไม่ควรมี ส.ว. อย่างนั้นหรือ ในส่วนของอำนาจที่มีการเรียกร้องกันอยู่ในขณะนี้ก็ต้องมีการไปหารือกัน ต้องมีการหารือกันจนได้ ไม่มีใครอยากโดนว่าหรือถูกตำหนิทุกวัน เพราะทุกคนก็ตั้งใจทำงาน แล้วบ้านเมืองมีความสงบสุขหรือไม่ ขอให้ไปดูตรงนั้น ที่ผ่านมาเคยมี ส.ว.อีกประเภทหนึ่งแล้วเป็นอย่างไรลองเปรียบเทียบดู

“อย่ามามองประเด็นเดียวว่าเขาสนับสนุนให้ผมเป็นนายกฯ ประเด็นอื่นก็มีอีกเยอะแยะ ปัญหาเกิดขึ้นมากมายหลายประการ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

‘วิษณุ’ยันรบ.ไม่ทำร่างแก้ไข

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นนโยบายเร่งด่วน ข้อที่ 12 หน้า 33 แต่พรรคร่วมรัฐบาลจะทำเป็นร่างของพรรคร่วม เพราะเขาอาจมีวิธีทำได้ดีกว่ารัฐบาล หากรัฐบาลทำ ต้องเอาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้กำหนด ซึ่งอาจจะไม่สบอารมณ์พรรคร่วมต่างๆ เขาอาจจะอยากมีมาตรานั้น ไม่เอามาตรานี้ ต้องไปตกลงกันเองและได้ยินว่าเขาตกลงกันเรียบร้อย และส่งร่างมาให้ตนแล้ว แต่ยังไม่ได้ดู

สำหรับร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล จะปล่อยให้วิปรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรจัดการกันเอง เพราะรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ตั้งกมธ. ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วจะทำเป็นร่างของรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี อันนี้ถือเป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาล

วิปรัฐส่งกฤษฎีกาปรับปรุง

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุม วิปรัฐบาลมีมติให้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามพรรคร่วมรัฐบาลเพียงร่างเดียว เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะนี้ได้ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปปรับปรุงร่าง ก่อนเสนอต่อสภา โดยยึดหลักการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และเป็นไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายค้าน แต่จะเพิ่มรายละเอียดที่มาของส.ส.ร. คือมาจากการเลือกตั้ง 150 คน มาจากการเลือกของส.ส. 10 คน การสรรหาของส.ว. 10 คน มาจากการสรรหาของอธิการบดี 20 คน และตัวแทนนักเรียน นักศึกษา 10 คน โดยให้เลือกกันเอง

จากนั้น มอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้กำหนดขั้นตอนและหลักเกณฑ์ และกำหนดกรอบเวลาให้ส.ส.ร.ยกร่าง 240 วัน จากนั้นเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากรัฐสภาไม่เห็นชอบ ก็ให้ทำประชามติ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนอำนาจหน้าที่ของ ส.ว. ขึ้นอยู่กับส.ส.ร.เป็น ผู้พิจารณา

‘เทพไท’ชงปชป.รื้อมาตรา 272

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนได้รับคำยืนยันจากวิปของพรรคว่า มติวิปรัฐบาล จะเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงร่างเดียว ตนจึงจำเป็นต้องนำประเด็นการแก้ไขในบทเฉพาะกาล มาตรา 272 ขึ้นมาหารือกับที่ประชุม ส.ส.พรรคอีกครั้ง เพื่อขอความเห็นชอบผลักดันแก้ไขมาตรา 272 ในนามพรรค ซึ่งขณะนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เตรียมยกร่างญัตติในเรื่องนี้แล้ว และจะเสนอในที่ประชุม ส.ส.พรรควันที่ 31 ส.ค.

เชื่อมั่นว่าที่ประชุมส.ส.จะอนุมัติญัตติ ดังกล่าว เพราะเป็นญัตติที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค และเป็นไปตามคำให้สัมภาษณ์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่แสดงจุดยืนแก้มาตรา 272 ว่าส.ว.ยังมีความจำเป็นในระบบรัฐสภา แต่ควรจำกัดบทบาท อำนาจหน้าที่ ให้มีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายและควบคุมการบริหารของรัฐบาลเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตัดอำนาจ ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ ออกไป

“เมื่อญัตติร่างแก้ไขเสร็จแล้ว จะเปิดให้ลงชื่อในญัตติดังกล่าวจนครบ 98 คน ขณะนี้มีส.ส.ในสังกัดพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านหลายคน ได้ประสงค์ขอลงชื่อในญัตตินี้ด้วย และมั่นใจว่าจะยื่นต่อประธานสภา ได้ภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน” นายเทพไทกล่าว

พท.ออกแถลงการณ์ 8 ข้อ

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายโภคิน พลกุล และส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงจุดยืนการแก้รัฐธรรมนูญ

น.อ.อนุดิษฐ์อ่านแถลงการณ์ว่า ตามที่ส.ส. พรรค มีมติไม่ร่วมลงชื่อในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับส.ว. มาตรา 269-272 นั้น ขอชี้แจงว่า 1.พรรคเห็นว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันมีปัญหามากในแทบทุกหมวด รวมทั้งบทเฉพาะกาล รวมทั้งสิ้น 279 มาตรา 2.รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และมุ่งสืบทอดระบอบเผด็จ การอำนาจนิยม โดยเฉพาะบทเฉพาะกาล และไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่มีขึ้นเพื่อปกป้อง รับฟังและยอมรับการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

3.พรรคได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่อาจจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงเห็นว่ามีเพียงหนทางเดียวที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง และยุติระบอบเผด็จการอำนาจนิยม รวมถึงระบบรัฐราชการได้ นั่นคือ การสร้างกลไกให้ประชาชนเป็นผู้ร่างและให้ความเห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งต้องทำทั้งฉบับ

4.การให้มีส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่และให้ประชาชนทั้งประเทศ ลงประชามติจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะประชาชนจะเป็นผู้แก้ปัญหาด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่พวกรัฐประหารที่ชอบอ้างว่าทำเพื่อประชาชน

5.ร่างแก้ไขมาตรา 256 พรรคเพื่อไทยยกร่างตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งในเดือนมี.ค.2562 และได้เสนอพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรคขณะนั้นตั้งแต่กลางปี 2562 โดยกำหนดว่าจะไม่แก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเห็นพ้องต้องกันมาตั้งแต่นั้น และแสดงจุดยืนมาเป็นระยะ

เล็งนัดเคลียร์ก้าวไกล

6.ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นพ้องต้องกันว่า ควรเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ตามร่างเดิมเพียงประเด็นเดียวก่อน และนัดวันยื่นญัตติต่อประธานสภาช่วงเช้าวันที่ 17 ส.ค. ต่อมาก่อนยื่นญัตติ ส.ส.พรรคก้าวไกล 21 คน ขอถอนชื่อออก โดยให้เหตุผลว่าร่างแก้ไขมาตรา 256 มีการสงวนไม่แก้ในหมวดที่ 1 และ 2 ไว้

7.การดำนินการแก้ไขด้วยการให้มี ส.ส.ร. เป็นไปโดยสุจริต มุ่งหวังผลสำเร็จที่เป็นจริง จากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายให้เป็นโรดแม็ปของประเทศ ซึ่งนอกจากพรรค ร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคเห็นด้วยแล้ว พรรค ร่วมรัฐบาล นักเรียน นักศึกษา ประชาชนก็ เห็นด้วย

8.การแก้ไขอำนาจของส.ว. ที่มาของวุฒิสภา และมาตรา 279 นั้น อยู่ในวิสัยที่จะร่วมปรึกษาหารือและสร้างความเห็นพ้องร่วมกันต่อไปในห้วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่การสนองความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง และปัจจัยเกื้อหนุนที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ

นายสมพงษ์กล่าวว่า ส่วนการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลนั้น ต้องคุยกันดีๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้นัดวันเวลาอย่างเป็นทางการ เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิด แต่ยืนยันว่าจะนัดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

‘เอ๋’ยื่นสอบจริยธรรม‘อมรัตน์’

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า ตนได้ยื่นคำร้อง ขอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กรณีทวีตข้อความ ตามหาลูกประยุทธ์ เทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ วันนี้ถึงคิวลูกของคุณแล้ว

ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ใช้ถ้อยคำข่มขู่คุกคาม และเชิญให้ผู้ที่มีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกับตนเองด่าทอหรือจูงใจให้คุกคามตามที่ตนเสนอ มีการนำเสนอทำร้ายร่างกายอย่างชัดเจน เป็นพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนคุณธรรม จริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงขอให้ประธานสภาตั้งกรรมการสอบจริยธรรม ดังกล่าว

ดีอีเอสตามปิดเพจหมิ่น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์กรณีเฟซบุ๊กเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับรัฐบาลไทย หลังดีอีเอส ขอให้บล็อกเพจหรือบัญชีผู้ใช้ที่โพสต์เนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง อาทิ เพจกลุ่มที่ชื่อ รอยัลลิสต์ มาร์เก็ตเพลส ว่า จนถึงขณะนี้เฟซบุ๊กยังไม่มีอะไรยืนยัน ไม่มีการส่งหนังสือมายังประเทศไทย ยังไม่ชัดเจนว่าจะฟ้อง แล้วฟ้องเรื่องอะไร หรือที่ศาลใด

“กระทรวงยืนยันว่าทำตามกฎหมายไทย ไม่ได้คิดเองทำเอง และทุกเรื่องที่ส่งไปทาง เฟซบุ๊ก เราก็มีคำสั่งศาล เราไม่ได้ดำเนินการนอกกรอบ และเฟซบุ๊กก็ลบให้ก่อน 15 วันตามที่กฎหมายกำหนด และเราไม่ได้ดำเนินการอะไรเขา จากนี้เราจะมีส่งไปอีก ซึ่งต้องดูว่าเขาให้ความร่วมมือเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าครบ 15 วันแล้ว ยังไม่ให้ความร่วมมือ เราก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย” นายพุทธิพงษ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ไปเปิดกลุ่มใหม่และมีผู้ติดตามจำนวนมาก นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่ากลุ่มไหน ถ้าเข้าข้อกฎหมายและเห็นว่ามีข้อความที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 เราต้องดำเนินคดีอย่างเข้มแข็งจริงจัง เพราะเป็นการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของคนไทยทุกคน ถ้าไม่ทำให้จริงจัง คงพูดกับคนอื่นไม่ได้ว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มแข็งและศักดิ์สิทธิ์

ฎีกาคุก‘นาที’ซุกทรัพย์สิน

เมื่อเวลา 11.00 น.ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา (ชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์) คดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 5/2562 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ภรรยานายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ถูกกล่าวหา เรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ

ตามที่เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่านางนาที จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ และพ้นจากส.ส.บัญชีรายชื่อ ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปีนับแต่วันพ้นจากตำแหน่งและลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปีตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสองและมาตรา 119 นั้น ผู้ถูกกล่าวหาอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อแก้ตัวตามอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหา ฟังไม่ขึ้น แต่กรณีเข้ารับตำแหน่งขาดอายุความทางอาญาแล้ว จึงไม่อาจนำมาตรการ จำกัด สิทธิทางการเมืองมาใช้บังคับแก่กรณีนี้ได้ จึงพิพากษาแก้เป็นว่า นางนาที จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เฉพาะกรณีพ้นจากส.ส.บัญชีรายชื่อ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 32, 33 และ 34 วรรคสอง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สำหรับ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลำดับถัดไปคือนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ โดยนางกนกวรรณ ยื่นขอสละสิทธิ์ ทำให้ลำดับต่อไปคือ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ขั้นตอนต่อจากนี้ต้องรอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่งรายละเอียดคำพิพากษามาที่สภาก่อน จากนั้นประธานสภาจึงจะประกาศตามขั้นตอนต่อไป ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยยังมีส.ส.เท่าเดิมคือ 61 คน

‘บิ๊กแดง’ปัดตอบข่าวลือปฏิวัติ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีวันคล้ายวันเปิดบก.ทบ. ครบรอบปีที่ 34 ถึงการแถลงผลงานก่อนเกษียณอายุราชการว่า คงเป็นเดือนก.ย. เพราะจะมีการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป ตนจะพูดภาพรวมทั้งหมด เพราะทุกคนก็ทำงาน ไม่ใช่ตนทำคนเดียว ส่วนการปฏิรูปกองทัพ ที่ผ่านมาตนได้ไปชี้แจงต่อกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 แล้ว โดยได้ตอบหมดทุกเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหาร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า สื่อเองยังพูดว่าข่าวลือเลย ต่อข้อถามว่าอยากได้ยินจากปากผบ.ทบ.เอง พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า นักข่าวยังพูดว่าข่าวลือ เมื่อถามว่าจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ไม่ตอบและเดินขึ้นห้องทำงานทันที

กุนซือ - คณะทำงานแก้ปัญหาบ่อนการพนัน ในกมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนฯ เชิญนายอภิรักษ์ หรือโป้ ชัยอานนท์ และพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ มาให้ข้อมูล ก่อนแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.

กุนซือ – คณะทำงานแก้ปัญหาบ่อนการพนัน ในกมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนฯ เชิญนายอภิรักษ์ หรือโป้ ชัยอานนท์ และพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ มาให้ข้อมูล ก่อนแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.

ตั้ง‘เสี่ยโป้’กุนซือแก้บ่อนพนัน

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่รัฐสภา ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงความคืบหน้าการทำงานของคณะทำงานแก้ปัญหา ศึกษาการพนัน และบ่อนการพนันออนไลน์ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภา ผู้แทนราษฎรว่า คณะทำงานได้เชิญ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ มาให้ข้อมูลและปรึกษาหารือวิธีการแก้ปัญหาการพนันที่ต้องมีการศึกษาแนวทางปราบปรามอย่างจริงจัง ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญหาการพนันออนไลน์ ต้องมีวิธีการเสนอแก้ไขกฎหมาย หรืออาจต้องเขียนกฎหมายกันใหม่ อีกประเด็นที่ต้องศึกษาคือ การปลดล็อกให้การพนันถูกกฎหมายนั้นทำได้หรือไม่ โดยต้องพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสีย จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเสนอให้กมธ.การกฎหมายฯพิจารณา ก่อนส่งให้สภาพิจารณา

ส่วนเหตุผลที่คณะทำงานเชิญบุคคลภายนอกทั้ง 2 คนเข้ามาให้ข้อมูลนั้น ต้องยอมรับว่าทั้งสองคนเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ และมีความชำนาญในเรื่องการพนัน จึงเชิญเข้าให้ข้อคิดเห็นและเป็นที่ปรึกษาของคณะเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน