ชู 3เรียกร้อง-รื้อระบบ
‘ณัฏฐพล’โวยคุกคาม
ปมเด็กกดดันให้ออก
กัก14วันอานนท์ -ไมค์
คุกห้ามเยี่ยม-อ้างโควิด

‘กลุ่มนักเรียนเลว’มอบ‘ซาหริ่ม -น้ำกะทิ-ปูไทย-นกหวีด’ เป็นของที่ระลึกให้รมว.ศธ.หลังขึ้นเวที ดีเบตหน้ากระทรวงหลังตั้งเวทีตามคำสัญญา ประกาศ 3 ข้อเรียกร้อง 1 เงื่อนไข ‘ณัฏฐพล’ยันไม่ได้เห็นต่างม็อบนักเรียน แต่การที่กดดันให้ลาออกคือการคุกคาม เพนกวินรับทราบข้อหาที่ลำปางก่อนไปไฮด์ปาร์กที่เชียงราย เรือนจำ กัก ‘อานนท์-ไมค์’ ห้ามเยี่ยม 14 วัน อ้างมาตรการโควิด

‘เพนกวิน’พร้อมพวกรับทราบข้อกล่าวหา

โดนอีกคดี – นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน พร้อมแกนนำกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน รับทราบข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง#ลำปางรวมการเฉพาะกิจ รวมพลคนไม่ทนในลำปาง ที่สภ.เมืองลำปาง เมื่อวันที่ 5 ก.ย.

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 ก.ย.ที่ลานบริเวณหน้าสภ.เมืองลำปาง มีมวลชนเพื่อประชาธิปไตยในนามกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชนจำนวนมากรวมตัวเพื่อให้กำลังใจนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายพินิจ ทองคำ แกนนำกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน และนายธนวัฒน์ วงไชย หรือบอล ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก หลังจากร่วมกันจัดกิจกรรมลำปางรวมตัวกันเฉพาะกิจ เรียกร้องประชาธิปไตย ที่สวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยกลุ่มพิราบขาวฯ นำป้ายข้อความ “หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รัฐบาลต้องยุบสภา” มาชูด้านหน้าพร้อมกับแสดงสัญลักษณ์โดยการชูสามนิ้วและผูกริบบิ้นสีขาว ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดเดินทางมาถึง นำโดยนายพริษฐ์เดินชูสามนิ้วเข้ามาในสถานีตำรวจด้วยหน้าตายิ้มแย้ม และร่วมถ่ายรูปแสดงสัญลักษณ์กับกลุ่มพิราบขาวฯ ก่อนจะลงชื่อจุดคัดกรองและเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัย หลังจากที่ทั้งหมดรับทราบข้อกล่าวหาแล้วมีการปราศรัยเล็กๆ เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลด้วย ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

สำหรับผู้ถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ประกอบด้วยนายพริษฐ์ ทนายอานนท์ นำภา นายพินิจ ทองคำ แกนนำกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน และนายธนวัฒน์ วงไชย ซึ่งทนายอานนท์ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้แล้ว

ภายหลังการสอบสวนนานอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ออกมาจากห้องสอบสวน พร้อมกับชู 3 นิ้ว ท่ามกลางมวลชนที่มาต้อนรับและให้กำลังใจ นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า หากตำรวจออกหมายเรียกที่ไหนก็จะไปที่นั่นและจะพูดที่นั่น ยิ่งจับยิ่งพูดไม่มีความกังวล ก็จะมาตามหมายเรียกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอให้การปฏิเสธ ไม่ยอมรับข้อหาและขบวนการจับกุม และไม่ยอมให้การใดๆ ด้วย เพราะไม่มีอำนาจจับกุมสอบสวนมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยตำรวจนัดหมายให้มาพบอัยการในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งยังไม่ยุติ เนื่องจาก ผู้ต้องหาร่วมคือทนายอานนท์ถูกขังอยู่ในเรือนจำ อาจต้องให้ตำรวจประสานกรมราชทัณฑ์อีกที

“เย็นวันนี้ผมจะเดินทางไปปราศรัยที่จ.เชียงราย เพรามีความตั้งใจที่จะปักธงปฏิรูปสถาบัน ทุกจังหวัด ขอฝากถึงตำรวจทุกจังหวัดว่า ถ้าจับผมตั้งข้อหาออกหมายเรียกจะเดินทางไปปราศัยเรื่องปฏิรูปสถาบัน ทุกสน.หรือสภ.ทุกที่ โดยจะถือว่า หมายเรียกหมายจับนั้นเป็นคำเชื้อเชิญ การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะนอนรวมจัดที่มธ.ท่าพระจันทร์ หากว่ามีคนมากขึ้นก็จะไปรวมที่สนามหลวง วันรุ่งขึ้นก็จะมีการเดินขบวน ซึ่งจะมีการแถลงให้ทราบอีกที ส่วนที่มีคนเป็นห่วงว่าตนเองอาจจะไม่ได้ขึ้นเวทีก็ไม่เป็นไร เพราะมีคนอื่นขึ้นแทนอยู่แล้ว เพราะเราทำงานเป็นทีมสับเปลี่ยนกันพูดตลอดเวลา และคิดว่าปัจจัยสำคัญของการเมืองไทยคือเรื่องสถาบัน ไม่ใช่มีแค่ตนคนเดียวที่พูดได้ ยังมีอีกหลายคนที่พูดได้” นายพริษฐ์กล่าว

‘ณัฏฐพล’อ้างกำลังแก้ไขปัญหา

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดแถลงข่าวการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนกว่า 95% เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษามีหลายเรื่องที่ศธ.กำลังดำเนินการอยู่แล้ว เพราะอยู่ในแผนงบประมาณปลายปีงบประมาณ 2563 ต่อเนื่องถึงปีงบประมาณ 2564 เช่น เรื่องทรงผม เป็นต้น ขณะนี้ปรับแก้ระเบียบศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 โดยได้ยกเลิกข้อ 7 ที่ให้อำนาจผู้บริหารสถานศึกษาตัดสินใจเกี่ยวการไว้ทรงผมของนักเรียนได้ นักเรียนหญิงสามารถไว้ผมสั้นหรือยาว แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย ส่วนผู้ชายไว้รองทรง

“ให้เสรีภาพเพียงแต่จะต้องยึดการรักษาความสะอาดไว้ การแต่งกาย ต้องยอมรับว่าต่างประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่ยังมีการใส่เครื่องแบบนักเรียน ดังนั้นเรื่องนี้อาจจะยังไม่จำเป็นที่จะนำมาเป็นเรื่องสำคัญในการแก้ปัญหา แต่ในอนาคตก็อาจจะมีการพูดคุย แต่จากการรับฟังเสียงส่วนใหญ่ของนักเรียนนั้นยังอยากให้มีชุดนักเรียน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยให้รู้ว่านักเรียนอยู่ตรงส่วนไหน ขณะเดียวกันยังลดปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ เพราะหากให้แต่งกายอย่างอิสระก็อาจจะเกิดการแข่งขัน และเกิดการดูถูกกัน ซึ่งน่าจะกลายเป็นปัญหามากกว่า” นายณัฏฐพลกล่าว

รมว.ศธ.กล่าวว่า ส่วนเรื่องความหลากหลายทางเพศ ขณะนี้รัฐบาลเห็นชอบร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต พ.ศ…. อยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทุกคนเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องภาระงานของครูนั้น เป็นสิ่งที่ศธ.รับฟังจากครูมาโดยตลอดพร้อมจะปลดล็อก เปลี่ยนจากประเมินเพื่อตัดสินเป็นการประเมินเพื่อคุณภาพคืนเวลาของครูให้เด็กและคิดว่าจะเกิดประโยชน์กับการศึกษามากขึ้น

อีกเรื่องคือความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ศธ.จัดทำหน่วยบริการจัดการองค์ความรู้ของประเทศ เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ DEEP ขณะนี้มีอยู่ทั้งหมดกว่า 200 ศูนย์ทั่วประเทศ ที่ยังอยู่ระหว่างการปรับหลักสูตรการเรียนรู้ มาเป็นหลักสูตรการเรียนรู้แบบฐานสมรรถนะ ทั้งในส่วนของการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษา เดิมวางแผนจะเริ่มในปี 2565 แต่เมื่อเป็นข้อเรียกร้องหนึ่งก็จะผลักดันให้เร็วขึ้น โดยจะเริ่มในปี 2564 รวมถึงการส่งเสริมการเรียนภาษาต่างประเทศนั้นเมื่อเร็วๆ นี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติอัตราครูต่างประเทศมาสอน ภาษาอังกฤษ 1 หมื่นอัตรา และภาษาจีน 1 หมื่นอัตรา เพียงแต่ติดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเดินทางข้ามประเทศมาได้

ส่วนข้อเรียกร้องให้มีการยกเลิกการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต โดยเฉพาะปีนี้ที่การศึกษาไม่เท่าเทียมกันทั่วประเทศ มีการเปิดปิดโรงเรียนต่างกัน และไม่แน่ใจว่าในอนาคตเชื้อโควิด-19 จะระบาดและส่งผลให้ต้องปิดโรงเรียนอีกหรือไม่ ดังนั้นต้องมาดูว่าการสอบโอเน็ตยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ โดยศธ. จะเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศนั้น ที่ผ่านมาศธ.เปิดศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ศคพ.) เพื่อให้การแก้ปัญหาเร็วขึ้นและมีการลงโทษให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว 15 ราย แต่ทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป สำหรับรายชื่อ 109 โรงเรียนที่ได้รับร้องเรียนว่า มีการคุกคามการแสดงออกของนักเรียน พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่แก้ปัญหาได้จากการพูดคุย เพราะบางเรื่องเกิดจากความไม่เข้าใจ เช่น การให้ตำรวจเข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่นักเรียนมองว่าเป็นการคุกคาม เป็นต้น

ถูกคุกคามให้ลาออก

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายข้ออาจจะยังไม่ตอบโจทย์ข้อเรียกร้องของนักเรียน นายณัฏฐพลกล่าวว่า ทุกเรื่องที่มีข้อเสนอแนะมา เป็นข้อเสนอจากคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ตนต้องฟังความคิดเห็นจากคนส่วนใหญ่ทั้งครู ผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษา และแนวทางปฏิบัติของคนทั่วประเทศ รวมถึงแนวทางปฏิบัติของนานาชาติด้วยเป็นเรื่องที่ต้องมาพูดคุยและต้องวางลำดับความสำคัญ อย่างเช่นเรื่องการแต่งกาย หากจะยกเลิกตนก็ชัดเจนว่า คงไม่ใช่ภายในปีนี้หรือในช่วงที่ตนอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ขณะเดียวกันอีกหลายเรื่องยังสามารถทำความเข้าใจและพูดคุยกันได้

“สำหรับน้องๆ ที่จะมาวันนี้ ผมได้ติดตามทางทวิตเตอร์เห็นว่า เตรียมหาทางให้รัฐมนตรีตอบคำถามไม่ได้ ผมเลือกที่จะพบหรือไม่พบก็ได้ แต่คิดว่าการพูดคุยอย่างสันติวิธีน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมกับการศึกษาไทย และประเทศไทย ตอนนี้เรามีความเปราะบางในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ไม่อยากให้ข้อเรียกร้องต่างๆ มาทำให้เศรษฐกิจของไทยมีปัญหา แต่ผมก็พร้อมรับฟัง และคิดว่าการเปิดเวทีที่จะรับฟังในทุกรูปแบบจะลดความกดดันหรือลดความไม่เข้าใจลงได้บ้าง เราสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ ตราบใดที่เคารพกติกาซึ่งกันและกัน หากจะอ้างว่าทำไมอดีตมีการชุมนุมได้ นั่นเพราะในช่วงนั้นไม่มีการรับฟังความคิดเห็นเท่าตอนนี้” รมว.ศธ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า วันนี้จะลงมาพบนักเรียนหรือไม่ นายณัฏฐพลกล่าวว่า การโต้วาทีเป็นการแสดงความคิดเห็นแตกต่าง แต่ตนไม่ได้เห็นต่างกับนักเรียน ส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นที่ตรงกัน เพียงแต่บางเรื่องอาจต้องใช้เวลา ดังนั้นหากไม่มีความเห็นแตกต่าง จึงไม่จำเป็นต้องโต้วาที ซึ่งการลงมาพบนักเรียนหรือไม่ คงต้อรอดูสถานการณ์เพราะทราบว่า ไม่ได้มีเฉพาะนักเรียนเท่านั้น ยังมีกลุ่มคนอื่นด้วย ซึ่งตนไม่มีปัญหากับการแสดงออก ตราบใดที่ไม่เกิดความรุนแรง ก็พร้อมพูดคุย ส่วนที่มีข้อเสนอว่า ให้รัฐมนตรีว่าการศธ.ลาออก หากไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของนักเรียนได้ การพูดเช่นนั้นคือการคุกคามตนเอง เพราะตอนนี้ตนพยายามแก้ปัญหาทุกเรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องใช้เวลา

ม็อบน.ร.จี้ 3 ข้อเรียกร้อง 1 เงื่อนไข

ชู 3 นิ้วพรึ่บ – กลุ่มนักเรียนเลว และเครือข่ายนักเรียนแนวร่วมกว่า 50 โรงเรียน พร้อมใจชูสามนิ้ว ระหว่างนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ขึ้นดีเบตบนเวที ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.

ที่กระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “นักเรียนเลว” พร้อมแนวร่วมเครือข่ายนักเรียนจาก 50 โรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จัดชุมนุมครั้งใหญ่ของเครือข่ายนักเรียน โดยระบุว่าวันนี้มีเซอร์ไพรส์ใหญ่ พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมดีเบตกับรัฐมนตรีศึกษา โดยมี ‘มิน’ ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้นม.6 ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มนักเรียนเลวเคยรวมตัวกันจัดกิจกรรมผูกโบขาวชูสามนิ้ว และเป่านกหวีดขับไล่รมว.ศธ. ระบุว่า ไม่สามารถปฏิรูประบบการศึกษาของไทยให้ดีขึ้นได้มาแล้ว พร้อมกันนี้กลุ่มนักเรียนยังได้ประกาศยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อบวก 1 เงื่อนไขได้แก่

1.หยุดคุกคามนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการต้องปกป้องนักเรียนจากการถูกคุกคามทั้งจากหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวง 2. ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง กระทรวงศึกษาธิการต้องยกเลิกกฎหรือระเบียบของกระทรวง ที่มีเนื้อหาเป็นการกดขี่นักเรียน ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวนักเรียน 3.ปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการต้องวางแผนปฏิรูประบบการศึกษาทั้งหมด เพื่อขจัดปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลต่อตัวผู้เรียน เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการเข้าไม่ถึงการศึกษา ปัญหาหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพ ปัญหาภาระงานครู ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู ทั้งนี้ต้องให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการด้วย และอีก 1 เงื่อนไข คือ “หากทำไม่ได้ ก็ลาออกไป” หมายความว่า หากกระทรวงไม่สามารถดำเนินการข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อข้างต้นได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้ผู้มีความสามารถมากกว่าเข้ามาดำเนินการแทน

ทั้งนี้ในการชุมนุมครั้งนี้มีบรรดาผู้ปกครอง มาร่วมให้กำลังใจรวมถึง ‘อั๋ว’ จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนท.) นักศึกษามหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ‘ช่อ’ พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า “แอมมี่” นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลงด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณโดยรอบของการทำกิจกรรมกลุ่มนักเรียนที่กระทรวงศึกษาฯด้วยว่า กลุ่มนักเรียนได้มีการร้องเพลงล้อเลียนการเมือง สลับการปราศรัยบนเวที โดยบริเวณหน้าเวทียังมีนักเรียนยืนร่วมทำกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีการนำพวงหรีดที่มีข้อความเสียดสี อาทิ “ซาร่าวิดยาไม่เอาเผด็จการ โรงเรียนชื่อดังย่านปิ่นเกล้าไม่ใช่สลิ่ม เสรโญไม่โอกับเผด็จการ สตรีจอมไม่ทนเผด็จการ” มาวางไว้ที่บริเวณกำแพงของกระทรวงศึกษาธิการ กว่า 30 พวงด้วย นอกจากนี้บริเวณโดยรอบ กลุ่มนักเรียนยังได้ตั้งโต๊ะเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ครบ 50,000 รายชื่อ เพื่อร่วมรื้อร่วมสร้างร่วมร่างรัฐธรรมนูญใหม่

มาเบิ้มๆ – ‘กลุ่ม นักเรียนเลว’ พร้อมแนวร่วมเครือข่ายนักเรียนจาก 30 โรงเรียนทั้ง ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวนนับพันคน จัดชุมนุมใหญ่ เพื่อทวงสัญญา 3 ข้อเรียกร้อง และอีก 1 เงื่อนไข โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.ขึ้น เวทีดีเบตด้วย ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.

คุกอ้างโควิดกับอานนท์-ไมค์

ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. เปิดเผยการเตรียมการรักษาความปลอดภัยว่า ได้จัดกำลังตำรวจในพื้นที่สน.ดุสิต และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ประมาณ 50 นาย เข้าดูแลความสงบเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ตรงจุดที่มีการประสานขอใช้เป็นสถานที่การชุมนุมแล้ว ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขออนุญาตจัดกิจกรรมถึงไม่เกินเวลา 20.00 น. ขณะนี้ยังไม่มีรายงานข่าวสถานการณ์ที่น่าเป็นกังวล และที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงเชื่อว่าการชุมนุมในวันนี้ก็จะผ่านไปด้วยดีเช่นกัน ทั้งนี้ยืนยันว่า ตำรวจเพียงทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ให้เกิดอันตรายกับกลุ่มผู้ชุมนุม หรือมีมือที่สามเข้าไปสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนความวุ่นวายเท่านั้น

วันเดียวกัน นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง” แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่า หลังจากเรือนจำได้รับตัวนายอานนท์ และนายภาณุพงศ์ ก็ได้ตรวจร่างกายตามปกติ โดยได้ส่งตัวไปยังห้องกักโรค แดน 2 ของเรือนจำ ตามมาตรการคัดกรองป้องกันโควิด-19 ก่อนจะถูกจำแนกไปยังแดนควบคุมปกติ ทั้งนี้ผู้ต้องขังใหม่ทุกรายที่ถูกส่งตัวเข้ามาในเรือนจำ จะต้องถูกกักตัวในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 14 วัน ห้ามเยี่ยมญาติ แต่อนุโลมให้พบทนายความได้ ซึ่งเป็นระเบียบปฏิบัติของเรือนจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 อยู่แล้ว ส่วนในวันเปิดทำการตามปกติ หากมีญาติหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมาติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย ทางเรือนจำก็ต้องชี้แจงให้ทราบว่า ระเบียบของเรือนจำเป็นแบบนี้ ไม่ได้ปิดกั้นแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 16.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า รมว.ศึกษาธิการ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในช่วงเช้าประเด็นที่กลุ่มนักเรียนเรียกร้องว่าหาก รมว.ศึกษาธิการ ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องไม่ได้ให้ลาออกจากตำแหน่งไป ซึ่งนายณัฏฐพลระบุว่าเป็นการคุกคามเพราะหากใครทำเรื่องไหนไม่ประสบความสำเร็จก็จะต้องลาออกใช่หรือไม่ ดังนั้นข้าราชการ ศธ. ก็ต้องลาออกทั้งหมดด้วยนั้น

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า ข้อเรียกร้องของนักเรียนไม่ใช่การคุกคาม เพราะนักเรียนก็คือประชาชน รัฐบาล รัฐมนตรีกินภาษีจากประชาชน หากรมต.ศึกษาธิการ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการคุกคามในสถานศึกษาได้ เพราะถือเป็นเรื่องพื้นฐานควรลาออกจากตำแหน่ง และโรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน และไม่ควรจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความเห็นต่างของเด็ก

นกหวีดเป่าลั่น-รมว.ดีเบต

ขณะที่ชุมนุมมีการแจกอาหาร น้ำดื่ม รวมถึงยาดมให้กับผู้ร่วมชุมนุมด้วย ด้านบนเวทีตัวแทนนักเรียน ได้นำร้องเพลงลามะลิลา การแสดงละครล้อเลียนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ละครล้อเลียนแก้กฎเด็กเอ๋ยเด็กดี ให้เป็นผู้ใหญ่เอ๋ยผู้ใหญ่ดี มีหน้าที่ 10 อาทิ การเปิดกว้างทางศาสนา ,เปิดกว้างประสบการณ์ ,วางใจเป็นกลางฟังผู้น้อย และอย่าจำกัดประสบการณ์ เป็นต้น จากนั้นมีการปราศรัย ทวงถามข้อเรียกร้องต่างๆ จากกระทรวงศึกษาธิการทั้งเรื่องทรงผม การแต่งกาย ระบบการเรียน การคุกคามในโรงเรียน พร้อมย้ำขอเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนเลวในวันนี้ 3 ข้อ คือ หยุดคุกคามนักเรียน ยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าหลัง และ ปฏิรูปการศึกษาพร้อมเงื่อนไขทำไม่ได้ก็ลาออกไป

ต่ออมาเวลา 17.20 น. นายณัฏฐพลมาร่วมเวทีดีเบต โดยตัวแทนนักเรียนเข้ามาพูดคุยถึงแนวทางการขึ้นเวทีดีเบตกับกลุ่มแกนนำนักเรียนบนเวที โดยนายณัฏฐพลยืนยันไม่ได้มีความเห็นต่างกับกลุ่มนักเรียน ดังนั้นจะเรียกว่าเป็นการดีเบตไม่ได้ เพราะการดีเบตเป็นการนำผู้เห็นต่างมาโต้วาที แต่กรณีนี้เห็นด้วยเมื่อคราวที่แล้วข้อเสนอของกลุ่มนักเรียนตนได้นำปัญหาต่างๆ มาแก้ไขปัญหา และนำมาพิจารณาไปบ้างแล้ว ซึ่งเคยพูดไปแล้วว่าได้นำเรื่องไหนมาพิจารณาบ้าง บางเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล แนวทางการพูดคุยกันก็ชัดเจนไม่ได้มีข้ออะไรที่ต้องมาขัดแย้ง

นายณัฏฐพลพยายามชี้แจงว่ากระทรวงเปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนแล้ว สำหรับกรณีที่เด็กร้องเรียนกรณีถูกคุกคาม และมีครูจำนวนน้อยที่ยังไม่เข้าใจ เรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาน้อยลง ส่วนนายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้นม.6 กล่าวย้ำถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และ 1 เงื่อนไข อย่างไรก็ตามขณะที่นายณัฏฐพลพูดหลายช่วงก็จะถูกโห่ร้องใส่ รวมถึงมีเสียงเป่านกหวีดใส่ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างดีเบตนั้น มีชาวจังหวัดอุดรฯ ยืนตะโกนหน้าเวที ขอมอบนอกหวีดผูกโบขาวให้รมว.ศธ. เมื่อฝากจนท.หน้าเวทีรับมาแล้ว รมว.ศธ. ได้กล่าวผ่านไมค์ว่า “นกหวีดที่บ้านผมมีเยอะแล้วครับ” เรียกเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องดังลั่น พิธีกรบนเวทีจึงกล่าวขึ้นมา ผมรักในความจริงใจของรมต.มาก เพราะรมว.ก็ได้ตำแหน่งมาเพราะนกหวีด ทำให้เด็กๆ นักเรียนตะโกนขึ้นพร้อมๆ กันว่า นกหวีดๆๆๆๆ และในเวลา 18.00 น. เปิดเพลงเคารพธงชาติ ทุกคนทั้งบนเวทีและ ผู้ชุมนุมต่างชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วขึ้นพร้อมๆ กันด้วย ส่วนนายณัฏฐพลยืนตรงเคารพธงชาติอยู่บนเวทีเฉยๆ

กระทั่งเวลา 18.22 น. ช่วงท้ายการดีเบตกลุ่มนักเรียนได้มอบของที่ระลึก ให้กับรมว.ศึกษาธิการ ประกอบด้วยหนังสือเรียนจำนวนมากของแปดกลุ่มสาระ ไม้เรียว ขนมขบเคี้ยวยี่ห้อปูไทย ขนมซาหริ่ม น้ำกะทิกล่อง และนกหวีดจำนวน 44 อัน ทั้งนี้นายณัฏฐพลขึ้นเวทีกับกลุ่มนักเรียนนานประมาณ 1 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน