จมแล้ว200หลัง
ทะลักท่วมในรพ.
ปราสาทโบราณ
เก๋งตกคลองดับ
ปภ.สรุป 22 จังหวัดโดนฤทธิ์พายุ‘โนอึล’ ถล่ม ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ที่ ‘พิมาย’ โคราชจมแล้ว 200 หลัง น้ำโนนสูงทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาล ‘ปรางค์สระเพลง’ ปราสาทโบราณ ชลประทานขอให้ชาวบ้านท้ายน้ำเตรียมรับมือ ‘เขื่อนเชียงไกร’ น้ำล้น ต้อง เร่งระบาย ที่ขอนแก่นสลด รถเก๋งฝ่าฝนเสียหลักจมคลองดับ ‘น้ำป่าภูกระดึง’ ซัดถล่มกลางดึก 30 หมู่บ้าน ด้าน ‘ตราด’ ก็โดนน้ำเขาบรรทัด ทั้งบ้าน และพื้นที่การเกษตร เสียหาย
ฤทธิ์‘โนอึล’ถล่ม22จังหวัด
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าจากอิทธิพลพายุโนอึล และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก วาตภัย และดินสไลด์ โดยมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ 22 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา ลพบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง รวม 77 อำเภอ 139 ตำบล 224 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,400 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่ จ.เพชรบูรณ์ แยกเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 17 จังหวัด
นายชยพลกล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 4 จังหวัด รวม 13 อำเภอ 31 ตำบล 73 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 807 ครัวเรือน ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ อ.ดงแคน 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน, จ.นครราชสีมา 8 อำเภอ ได้แก่ ปากช่อง เทพารักษ์ เฉลิมพระเกียรติ ชุมพวง ห้วยแถลง โชคชัย เมืองนครราชสีมา และพิมาย รวม 14 ตำบล 21 หมู่บ้าน, จ.ลพบุรี 5 อำเภอ ได้แก่ ชัยบาดาล สระโบสถ์ ลำสนธิ โคกสำโรง และโคกเจริญ รวม 20 ตำบล 46 หมู่บ้าน และ จ.ชุมพร ได้แก่เมืองชุมพร รวม 1 ตำบล 8 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด
‘พิมาย-โคราช’จม200หลัง
ส่วนสถานการณ์ในจังหวัดต่างๆ นั้น ที่ จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำในลำตะคอง บริเวณวัดป่าอำนวยผล ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ยังคงสูงล้นตลิ่ง มวลน้ำฝนที่ตกสะสมไหลหลากจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ลงมา ทำให้น้ำลำตะคองเพิ่มสูงขึ้น 2 เมตร เอ่อเข้าท่วมพื้นที่วัดป่าอำนวยผล หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คาดว่าน้ำในลำตะคองจะเริ่มลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ อ.พิมาย น้ำป่าในพื้นที่ ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง ไหลหลากเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านสายบ้านโนนกระเบื้อง-หนองหัวช้าง ต.นิคม อ.พิมาย ท่วมถนนระยะทาง 500 เมตร รถขนาดเล็กสัญจรผ่านเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้ ชาวบ้านบ้านหนองหัวช้าง หมู่ 8 และบ้านโนนกระเบื้อง หมู่ 7 ต.นิคม อ.พิมาย 200 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน ต่อมาเจ้าหน้าที่นำรถแบ๊กโฮมาขุดดินเปิดทางน้ำไหล คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีกภายใน 1-2 วัน ปริมาณน้ำที่ไหลหลากเข้าท่วมถนนจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ
ท่วมปราสาทโบราณ-ร.พ.
ด้าน อ.โนนสูง ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมไหลหลากเข้าท่วมปรางค์ปราสาทพลสงคราม หรือปรางค์สระเพลง บ้านพลสงคราม ต.พลสงคราม อ.โนนสูง ก่อตั้งขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็น “อโรคยาศาล” 1 ใน 102 แห่งที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณสระน้ำโบราณ หรือสระเพลง น้ำสูงกว่า 1 เมตร และน้ำยังไหลเข้าท่วมกำแพงปราสาทรอบนอก สูง 60-80 ซ.ม.
นอกจากนี้ น้ำส่วนหนึ่งยังไหลเข้าท่วม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) พลสงคราม ต.พลสงคราม เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ และเอกสารทางราชการต่างๆ ได้รับความเสียหาย ทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยขนสิ่งของหนีน้ำไปไว้บนชั้น 2 ของอาคาร และต้องงดบริการทางด้านสาธารณสุขเป็นการชั่วคราว สาเหตุที่ให้น้ำท่วมขัง เกิดจากการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ที่วางท่อระบายน้ำอยู่สูงกว่าโรงพยาบาล ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน
สั่งรับมือ-น้ำล้นเขื่อนเชียงไกร
ส่วน อ.เทพารักษ์ ยังคงมีน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะที่บ้านมะค่างาม และบ้านห้วยน้ำเค็ม ต.ปรึงปรือ กับบ้านไทยสามัคคี ต.หนองแวง อ.เทพารักษ์ รวมกว่า 60 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนหนัก เจ้าหน้าที่ระดมความช่วยเหลือลำเลียงน้ำ และอาหารลงเรือท้องแบนเข้าไปส่งให้กับผู้ป่วยติดเตียง และผู้ประสบภัยที่ถูกน้ำท่วมบ้าน ไม่สามารถสัญจรออกมาได้ มีบ้านหลายหลังเป็นบ้านชั้นเดียว ถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมภายในจนข้าวของในครัวเรือนเสียหายอย่างหนัก
นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผอ.โครงการชลประทาน จ.นครราชสีมา รายงานว่าอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนบน (บ้านสระพัง) อ.ด่านขุนทด น้ำล้นทางระบายน้ำล้นฉุกเฉินแล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเขื่อน จึงจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำ ขุดเปิดคันดินของชาวบ้านด้านท้ายประตูระบายน้ำด้วย เพื่อช่วยระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น จึงขอให้ชาวบ้านริมลำน้ำลำเชียงไกรรับมือน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ โดยเฉพาะที่บ้านหนองพังโพด บ้านดอนใหญ่ บ้านตะเคียน และบ้านกุดม่วง ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด
ขอนแก่นสลด-เก๋งจมน้ำดับ
ขณะเดียวกัน ที่ จ.ขอนแก่น สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ปริมาณน้ำในลำห้วยต่างๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ น้ำลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม เกิดเหตุสลดมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ฝนตกหนัก โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.อ.ถาวร เหล่าแพง รองสว.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุรถเก๋งตกคลองชลประทาน ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง รุดไปที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีแดง ทะเบียน ขข 5249 ขอนแก่น จมอยู่ในคลอง อาสาสมัครกู้ภัยนำรถขึ้นจากน้ำ พบคนขับเสียชีวิต ทราบชื่อนายณรงค์ ศรีวิชา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/1 หมู่ 6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเมื่อบ่ายวันที่ 19 ก.ย. ขับรถจากเมืองขอนแก่นไปจ่ายค่าแรงคนงานที่บ้านนาคำน้อย อ.น้ำพอง ขากกลับมีฝนตกตลอดเวลา ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี และถนนมืด ทำให้รถเสียหลักตกคลองชลประทาน และขณะเกิดเหตุไม่มีผู้พบเห็นช่วยเหลือ จึงเสียชีวิตคารถ
น้ำป่า‘ภูกระดึง’ซัดจม 30 หลัง
ด้าน จ.เลย เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ภูกระดึง ตลอดทั้งคืน และบนยอดภูกระดึงด้วยเช่นกัน ทำให้น้ำป่ายอดภูกระดึงไหลลงน้ำพอง เข้าท่วมบ้านเรือน 3 หมู่บ้าน จำนวน 25-30 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านห้วยเดื่อหมู่ 8 หมู่ 12 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังแล้วจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน
นายชัยยันต์ สุรสรณ์ ตำแหน่งนายช่างชลประทานอาวุโส สำนักงานชลประทาน จ.เลย กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ใน อ.ภูกระดึง หลายจุด และตั้งศูนย์เฝ้าติดตาม ขณะนี้น้ำเริ่มทรงตัว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าน้ำจะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่สภาพปกติ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนมีปริมาณมากถึง 123 มิลลิเมตร และบรรยากาศในพื้นที่ อ.ภูกระดึง ยังคงมีเมฆฝนจำนวนมาก
‘ตราด’ก็โดนน้ำป่าเขาบรรทัด
ส่วน จ.ตราด ที่หมู่ 6 บ้านคลองขัด ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด น้ำป่าจากเขาบรรทัดไหลลงมายังคลองขัด และคลองท่ากุ่มตั้งแต่กลางดึก จนถึงช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ย. ทำให้บ้านเรือน 10 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ต่ำ บางจุดสูงถึง 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเดินทางเข้าออก ขณะที่ถนนและสะพานหลายแห่งถูกน้ำท่วมเช่นกัน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะปาล์มได้รับความเสียหาย
ขณะที่ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ ฝนตกต่อเนื่องมา 2 วัน ระดับน้ำในคลองหนองบอนสูงขึ้น อีกทั้งน้ำจากเขาบรรทัดไหลผ่านคลองเขาปีกกา และน้ำตกธารหินดาษมารวมกับคลอง ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ ทำให้น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรกรรมของประชาชน ทั้งสวนเงาะ สวนทุเรียน รวมทั้งเข้าท่วมบ้านเรือนบางส่วน สูง 80-100 ซ.ม.
น้ำป่าทะลัก 5 หมู่บ้านระนอง
ด้านสถานการณ์ จ.ระนอง เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.อ.เจริญทอง พุ่มพวงทอง รองสว.สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุต้นไม้ล้มทับภายในวัดหาดส้มแป้น หมู่ 2 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง รุดไปที่เกิดเหตุพบต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มแบบขุดรากถอนโคน ทังศาลาวัดและโรงครัวพังยับเสียหายทั้งหลัง พบศพนายอเนกพงศ์ พงศ์จันทร์ อายุ 30 ปี สอบสวนทราบว่าขณะที่นายอเนกพงศ์ผิงไฟคลายหนาวในโรงครัวเฝ้างานศพภรรยา ซึ่งในช่วงเกิดเหตุในพื้นที่ จ.ระนอง เกิดฝนตกหนัก และลมพัดกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ใหญ่ข้างศาลาและโรงครัวล้มทับใส่
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ชายแดนไทย- เมียนมา มีน้ำป่าทะลักจากแนวเทือกเขาลงสู่แม่น้ำกระบุรี เอ่อล้นคลองเข้าท่วมบ้านเรือน 5 หมู่บ้านชายแดน ในเขตพื้น ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ระดับน้ำสูง 30-100 ซ.ม. รวมจำนวนกว่า 70 หลังคาเรือน บ้านเรือนชั้นเดียวถูกน้ำเข้าท่วมพื้นบ้าน ส่วนบ้าน เรือนไม้ 2 ชั้น ต้องนำข้าวของไปไว้ชั้น 2