พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนา ‘พระพรหมมงคลญาณ’ หรือ ‘หลวงพ่อวิริยังค์’ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร กรุงเทพมหานคร ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะรูปใหม่ มีราชทินนามที่จารึกในสุพรรณบัฏว่า ‘สมเด็จพระญาณวชิ โรดม’ นับเป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกายรูปที่ 5 ในปัจจุบัน

‘สมเด็จ’ใหม่ – เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระ บรมราชโองการ ประกาศสถาปนา พระพรหมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินธโร) วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร กทม. ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามที่จารึกในสุพรรณ บัฏว่า “สมเด็จพระญาณวชิโรดม” เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

 

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนา สมณศักดิ์ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศร ภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่าพระพรหมมงคลญาณ เป็นพระเถระผู้เจริญในสมณคุณ ยินดีในเนกขัมมปฏิบัติ สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตร รัตตัญญูมหาเถรกรณธรรม มั่นคงตลอดมา ได้ประกอบกรณียกิจเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และราชอาณาจักรอย่างไพศาล ดังปรากฏในประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ เป็นที่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2562 แล้ว นั้น

ครั้นต่อมา พระพรหมมงคลญาณ ได้เจริญยิ่งด้วยอุตสาหวิริยาธิคุณมิได้ท้อถอย ได้ปกครอง ดูแลและให้ความอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในอารามอย่างสม่ำเสมอ สนับสนุนและให้ความสำคัญด้านการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนของชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาสมาธิ การฝึกอบรมสมาธิภาวนาจิต เผยแพร่ไปทั่วประเทศ และในต่างประเทศ ก่อให้เกิดการน้อมนำธรรมเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนของพุทธศาสนิกชน ในยุคปัจจุบัน

สรรพกรณียกิจที่ พระพรหมมงคลญาณ ได้บำเพ็ญปฏิบัติตลอดมานั้น ย่อมเกิดผลดี ทั้งแก่พระพุทธศาสนา ประเทศชาติ และประชาชนทั่วไป นับได้ว่าเป็นผู้มีความอุตสาห วิริยะ ประกอบด้วยเมตตาธิคุณและกรุณา ธิคุณเกื้อกูลต่อพหูชน อุทิศตนแก่พระพุทธศาสนาและสังคม อย่างแท้จริง สมควรที่จะได้ยกย่องให้ดำรงสมณฐานันดรที่สมเด็จพระราชาคณะสืบไป

จึ่งทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา พระพรหมมงคลญาณ ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามที่จารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระญาณวชิโรดม พุทธาคมวิศิษฐ์ จิตตานุภาพ พัฒนดิลก สาธกธรรมวิจิตร วิเทศศาสนกิจไพศาล วิปัสสนาญาณธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 10 รูป

ขออาราธนาพระคุณ จงรับธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอน ช่วยระงับอธิกรณ์ และอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในพระอาราม ตามสมควรแก่กำลัง และอิสริยยศ ซึ่งพระราชทานนี้ และจงเจริญอายุ วรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสิริสวัสดิ์ จิรัฏฐิติ วิรุฬหิไพบูลย์ ในพระพุทธศาสนาเทอญ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2563

ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2563 เป็นปีที่ 5 ในรัชกาลปัจจุบัน

สำหรับสมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินธโร) เป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกาย และเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร ถนนสุขุมวิท 101 เขตพระโขนง กรุงเทพฯ

ปัจจุบัน สิริอายุ 100 ปี พรรษา 79

มีนามเดิมชื่อ วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เป็นบุตรขุนเพ็ญภาษชนารมย์ กับนางมั่น บุญฑีย์กุล เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ม.ค.2463 ที่สถานีรถไฟปากเพรียว จ.สระบุรี ต่อมาย้ายมาตั้งหลักฐานที่บ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

บรรพชา เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2478 ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีพระธรรมฐิติญาณ (สังข์ทอง นาควโร) เป็นพระอุปัชฌาย์

จนอายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2484 จึงเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดทรายงาม บ้านหนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี มีพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปัญโญ) วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มีโอกาสครั้งสำคัญสุดในชีวิต คือ การออกเดินธุดงค์กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า สองต่อสอง โดยมีจุดหมายปลายทางที่วัดเลียบ (วัดบูรพาราม) จ.อุบลราชธานี การเดินธุดงค์ร่วมกับหลวงปู่มั่นครั้งนั้น ถือเป็นโอกาสอันสำคัญที่ได้ปฏิบัติสมาธิให้พัฒนามากยิ่งขึ้น รวมถึงได้มีโอกาสเรียนถามปัญหาข้อธรรมและข้อปฏิบัติต่างๆ ทั้งตื้น ลึก หนา บาง ที่ได้นำมาสั่งสอนอบรมศิษย์ ทั้งพระภิกษุ-สามเณร และฆราวาสจนถึงปัจจุบัน

งานปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เถาบุญนนทวิหาร, ประธานกรรม การบริหารคณะสงฆ์ธรรมยุตในประเทศแคนาดา และเป็นพระอุปัชฌาย์

เป็นพระภิกษุที่มีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนา และทำสมาธิเพื่อฝึกจิตให้มั่นคง และเป็นผู้ให้กำเนิด สถาบันพลังจิตตานุภาพ ทั้งในประเทศ ไทยและประเทศแคนาดาอีกด้วย

สถาบันพลังจิตตานุภาพ (Willpower Institute) เป็นสถาบันที่มุ่งสอนให้ผู้คนรู้จักทำสมาธิเพื่อเพิ่มพลังจิตแก่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพและทุกศาสนา มีสาขากว่า 287 สาขาทั่วประเทศไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน