60กระสอบ-วืด!
ชี้สารผสมอาหาร
ปปส.ยันโปร่งใส
พิสูจน์ต่ออีก400

คดีพลิกเหตุป.ป.ส. และหลายหน่วยงานบุกทลายโกดังยาเสพติด ก่อนตั้งโต๊ะแถลงใหญ่ยึดยาเค 466 กระสอบ น้ำหนัก 11.5 ตัน มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ก่อนถูกแกนนำชุมนุมปราศรัยตั้งข้อสังเกตคดีไม่คืบ และของกลางอาจอยู่ไม่ครบ เลขาธิการ ป.ป.ส.พาสื่อเข้าไปดูของอยู่ครบ แต่ผลตรวจชุดแรก 60 กระสอบพบไม่ใช่ยาเค แต่เป็น ‘ไตรโซเดียมฟอสเฟต’ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา ซึ่งมี รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกัน สั่งเร่งตรวจสอบ ของกลางที่เหลือว่าเป็นยาเค หรือสารอื่น ชี้ของกลางเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดแน่ เพราะใช้กระสอบแบบเดียวกันใส่ยาเค ปนกับสารอื่นตบตาส่งไปต่างประเทศ ก่อนถูกจับได้ และประเทศปลายทางประสานมายังเมืองไทยกระทั่งบุกเข้ายึดของกลางเพิ่ม ป.ป.ส.ยืนยันทำทุกอย่างตามความเป็นจริง

จากกรณีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ร่วมแถลงข่าว ทลายโกดังเก็บสารเสพติดยาเค ในโกดังแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบสารต้องสงสัยเป็นยาเค 475 กระสอบ น้ำหนักรวม 11.5 ตัน มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท โดยพบว่าหน่วยงานด้านการข่าวของต่างประเทศเป็น ผู้ส่งข้อมูลมาให้ หลังจากจับยาเคได้ถึง 300 ก.ก. ก่อนขยายผลพบว่าต้นทางมาจากประเทศไทย

จึงประสานงานมาทางนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป.ป.ส. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม (ผบช.ปส.) นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนสำนักงานป้องกัน ยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก เข้าจับกุม และยึดของกลางได้ดังกล่าว ส่วนผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสืบสวน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบห้องเก็บของกลาง ที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี หลังมีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ปราศรัยตั้งข้อสงสัย ว่าของกลางดังกล่าวสูญหายไปแล้ว และคดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยนายวิชัยกล่าวว่าห้องเก็บของกลางมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สามารถเข้า-ออก ได้เพียง 2 คน ส่วนของกลางทั้งหมดที่ยึดได้จำนวน 466 กระสอบ เบื้องต้นที่เข้าจับกุมมี 60 กระสอบเปิดไว้อยู่แล้ว จึงนำตัวอย่างสุ่มตรวจด้วยน้ำยาทดสอบปรากฏว่าเป็นสารสีม่วง ซึ่งตรงกับยาเสพติด จึงตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ไว้ก่อนว่าเป็นยาเค

“อย่างไรก็ตามหลังจากนำเข้าส่งตรวจที่ห้อง ปฏิบัติการอย่างละเอียด พบว่าสารที่พบในโกดัง ไม่ใช่ยาเค แต่เป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอาหารและยา แม้ของกลางที่ตรวจสอบ 60 กระสอบ ไม่ใช่ยาเค แต่อีก 400 กว่ากระสอบยังไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่ง ป.ป.ส.เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานระหว่างประเทศเข้าตรวจสอบ ร่วมกันภายในไม่เกินสัปดาห์นี้” นายวิชัยกล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่าตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า หลังตรวจสอบเสร็จสิ้นทั้งหมดจะมียาเคซุกซ่อนอยู่ภายในหรือไม่ เนื่องจากกระสอบของกลางที่พบคาดว่า เป็นของที่ถูกนำมาใช้บรรจุยาเคไว้ภายใน เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่เท่านั้น สอดคล้องกับข้อมูลของไต้หวัน ที่จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดยาเคได้จำนวน 300 กิโลกรัม ที่ปะปนกับสารแคลเซียมคาร์บอเนต จากประเทศไทยจำนวน 16 เมตริกตัน และอีกจำนวนนำเข้าไตรโซเดียม ฟอสเฟต 19.95 เมตริกตัน เจอยาเสพติด อีก 200 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนพบว่าการนำเข้าไปที่ไต้หวัน พบว่ามาล็อตเดียวกับโกดังนี้เลย

ก่อนหน้านี้ป.ป.ส.เสนอข่าวไปว่าจับเคได้ล็อตใหญ่ แม้ผลการตรวจสอบกลับไม่ใช่ยาเค แต่ป.ป.ส.ยืนยันว่า ทำทุกอย่างตามความเป็นจริง ที่ผ่านมาเร่งดำเนินการโดยตลอด พร้อมกันนี้จะเข้มงวดตรวจบริษัทเคมีภัณฑ์ ที่นำเข้าสารชนิดนี้เข้ามาในประเทศไทย เพื่อป้องกันการสั่งมานำไปใช้ซุกซ่อนขนส่งยาเสพติด

นายวิชัยกล่าวอีกว่าแม้เบื้องต้นยังไม่พบสารซึ่งเป็นยาเค แต่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้เพราะความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากว่าพบว่ามีสารเคตามีน ที่จับได้อยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเป็นการดำเนินคดีระหว่างประเทศ โดยอำนาจในการสอบสวนทางกฎหมาย จะเป็นของอัยการสูงสุด ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ป.ป.ส.จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนของ บช.ปส. จากนั้นจะรับเรื่องไว้ แต่ยังไม่มีอำนาจสอบสวน ทาง บช.ปส. จะทำเรื่องถึงอัยการสูงสุดเนื่องจากเป็นคดีระหว่างประเทศ จากนั้นอัยการสูงสุดจะ มอบหมายให้อัยการร่วมกับตำรวจพนักงานสอบสวน ตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมา จากนั้นถึงจะมีการดำเนินการสอบสวนต่อ ซึ่งขั้นตอนต่างๆ จะยุ่งยากกว่าความผิดภายในประเทศ และจะรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์

น.ส.กัญญนันท์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.กล่าวว่า ในวันที่ 12 พ.ย. ตรวจสอบไปจำนวน 60 กระสอบ พบสารไตรโซเดียมฟอสเฟต เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นหากใช้ในอุตสาหกรรม นมจะทำให้นมไม่ตกตะกอน ซึ่งที่เราตรวจพบว่าใช้มาเป็นตัวอำพรางซุกซ่อนยาเสพติด โดยต้องตรวจทุกกระสอบและการตรวจสารเคมีจะต้องใช้เวลา ในส่วนอีก 400 กว่ากระสอบ เราจะตรวจซึ่งอาจไม่พบสารเสพติดเลยก็ได้ เพราะคนร้ายอาจจัดเตรียมเพื่อใช้ซุกซ่อนสารเสพติดในล็อตต่อไปก็เป็นได้ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของไตรโซเดียมฟอสเฟตจะเหมือน เคตามีนเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน