จุดเทียนสดุดีร.9
ทุกวัด-สวดมนต์

มหาดไทยแจ้งทุกจังหวัดเตรียมจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 ตักบาตรถวายพระราชกุศล วางพานพุ่มและพิธีถวายบังคม จุดเทียนเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 พร้อมเครื่องราชสักการะ บริเวณอาคารสำนักงานหรือสถานที่เหมาะสม และประดับไฟส่องสว่างบริเวณอาคารสำนักงานตลอดเดือนธ.ค.

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้มอบหมายให้ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ เบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้มอบหมายให้ดำเนินการประสานทุกจังหวัด เตรียมการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. ให้เป็นไปตามมติที่ประชุม และสมพระเกียรติ โดยในเวลา 07.30 น. พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เวลา 08.30 น. พิธีวางพานพุ่มและพิธีถวายบังคม เวลา 19.19 น. พิธีจุดเทียนเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณและน้อมรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณ พร้อมจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเครื่องราชสักการะ บริเวณอาคารสำนักงานหรือสถานที่เหมาะสม และประดับไฟส่องสว่างบริเวณอาคารสำนักงานตามที่เห็นสมควรตลอด เดือนธ.ค.

นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเชิญชวนส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดเข้าร่วมกิจกรรม โดยพร้อมเพรียงกัน รวมทั้งจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ตามสถานที่ของหน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน และอาคารบ้านเรือน ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ด้วย

ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักพุทธฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทย ได้รับผล กระทบจากภัยธรรมชาติและโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ผู้คนมีความขัดแย้งทางด้านความคิด เกิดความแตกแยกในสังคม ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนับถือพระพุทธศาสนา และเห็นว่าหากทุกคนได้นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปเป็นกรอบและทิศทางในการดำรงชีวิตและดำรงตนอย่างมีสติ วิกฤตการณ์ต่างๆ ก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี กอปรกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 ก.พ.2560 ประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติ

ดังนั้น เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหา กรุณาธิคุณ และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า มหาเถรสมาคม โดยสำนักพุทธฯ กำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค.2563 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ส่วนกลางกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ ส่วนภูมิภาคให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดประสานงานกับเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 2 ฝ่าย และปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด กำหนดวัดที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัด และอำเภอ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ตามที่เห็นสมควร

นายสิปป์บวรกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบบทเทศน์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตามที่ได้มีมติมอบให้พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธัมมจิตโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กรรมการมหาเถรฯ เป็นผู้แต่ง โดยมหาเถรฯ กำชับให้สำนักพุทธฯ เร่งเผยแพร่บทเทศน์ดังกล่าวไป ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านทุกช่องทาง เนื่องจากจะมีการเริ่มให้พระสงฆ์เทศน์บทนี้ ในวันที่ 5 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ จากนั้นให้เทศน์บทนี้ในโอกาสวันสำคัญต่างๆ สำหรับบทเทศน์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีเนื้อหาหลัก คือให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน