พีเอ็ม2.5พุ่ง-บางพลัดหนักสุด
เหตุอากาศนิ่ง-ไอเสียรถ-ควัน
‘บิ๊กตู่’ชี้วังวนประจำปี-สั่งเร่งแก้
อีก3วันก็เบาบาง-มีลมพัดช่วย

กรุงเทพฯ-ปริมณฑลสำลักฝุ่นพิษ พีเอ็ม 2.5 พุ่ง 59 จุด หนักสุดภายในสำนักงานเขตบางพลัด สูงถึง 81 มคก./ลบ.ม. ชี้เหตุลมนิ่ง ควันรถ-เผาในที่โล่งทำให้เหมือนมีฝาชีครอบอยู่ คาดอีก 2-3 วัน จะมีลมมาช่วยทำให้ดีขึ้น แต่จะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ ‘บิ๊กตู่’ โพสต์เฟซบุ๊กชี้เป็นวังวนที่เกิดขึ้นทุกปีและเป็นปัญหาระดับโลก

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ เฟซบุ๊กระบุว่า ช่วงนี้ของทุกปีประเทศไทย จะเข้าสู่วังวนปัญหาฝุ่นละอองเล็ก หรือพีเอ็ม 10 และ พีเอ็ม 2.5 ปกคลุมทั่วท้องฟ้า เกิดจากไอเสียรถยนต์ การเผาขยะเผาเศษ วัสดุภาคเกษตรกรรม และควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ประกอบกับสภาพอากาศปิดไม่มีลม เป็นสิ่งที่เราต้องประสบกันมานาน เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและทุกรัฐบาลพยายามแก้ไข ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยังถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องร่วมมือกัน อีกด้วย

ที่ผ่านมาได้มีการหารือ ทำความเข้าใจ และรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกส่วนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการแก้ไขจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วน รวมถึงการขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน และการปรับปรุงข้อกฎหมายให้สามารถ แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ยั่งยืน เราทุกคนสามารถช่วยลดปัญหาได้ที่ต้นตอด้วยตนเอง เช่น งดการเผาวัชพืชหรือขยะในที่โล่งแจ้ง หมั่นตรวจเช็กสภาพรถเก่าอยู่เสมอ โดยภาครัฐจะเคร่งครัดและเพิ่มการตรวจแหล่งเกิดฝุ่นควัน และควันดำในหลายจุดทั่วทุกพื้นที่ สำหรับใครที่จำเป็นต้องออกนอกอาคาร อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย เพื่อช่วยป้องกันฝุ่นและป้องกันโควิด-19 ไปด้วย รวมไทยสร้างชาติ

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุม ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่นพิษทั่วกรุงเทพฯ พบว่าในช่วง 3 วันนี้ตั้งแต่วันที่ 14-17 ธ.ค. สภาพทางอุตุนิยมวิทยามีข้อจำกัดในเรื่องการหมุนเวียนของอากาศโดยเฉพาะความกดอากาศ ลม การยกตัวของมวลอากาศจะมีข้อจำกัดมากทำให้อากาศในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีความนิ่ง ดังนั้นมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดต่างๆ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก การเผาในที่โล่งโดยรอบกรุงเทพฯ ทำให้เหมือนมีฝาชีครอบอยู่ จนมีมลพิษทางอากาศในบางจุดที่สูงมาก

อนุกรรมการจึงไประสานงานแจ้งไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ ขอความร่วมมือกรมการขนส่งทางบก กทม. กรมควบคุมมลพิษ ช่วยกันตรวจสอบรถควันดำ โดยเฉพาะรถบรรทุกเล็ก และรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล เพื่อการตรวจแจ้งเตือนและตรวจจับ ตามสถิติพบว่า 100 คัน มีถึง 46 คัน ที่ไม่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ทำให้เกิดควันดำ นอกจากนี้ยังมีการวางแผนที่จะตรวจรถควันดำ ทั้งรถบรรทุกเล็ก รถบรรทุกใหญ่ รถขนส่งต่างๆ โดยจะตรวจทุกวัน ยาวไปอีก 6 เดือนข้างหน้า จนถึงช่วงหน้าแล้งด้วย

นอกจากนี้เรื่องการจราจรจากการที่ได้ตรวจจากแอพพลิเคชั่น Air4Thai สำรวจทั่วกรุงเทพฯ และพบว่าจุดที่มีสภาพ พีเอ็ม 2.5 ค่อนข้างสูงหรือสูงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณสี่แยก สามแยก จุดกลับรถ จุดที่มีปริมาณรถสะสมมาก จึงประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกทม. ช่วยพยายามทำให้เกิดการไหลลื่น การเคลื่อนตัวของรถให้เร็วขึ้น เพื่อไม่ให้มาจอดนิ่งจนทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ

อีกทางหนึ่ง ประสานไปที่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับเกษตรกร ในพื้นที่ที่อยู่โดยรอบกรุงเทพฯ ที่มีการเผาเศษวัชพืชในที่โล่งจนทำให้อากาศบางส่วนทำให้เกิดหมอกควันเข้ามาอยู่ในพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ จึงขอความร่วมมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ช่วยประสานขอความร่วมมือจากเกษตรกรงดการเผาในช่วงนี้ ถึงวันที่ 17 ธ.ค. นอกจากนี้ขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางไปผ่านมาใช้รถสาธารณะให้มากขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้า และให้ดำเนินการตรวจบำรุงรักษารถยนต์ให้เป็นไปตามรอบระยะเวลาด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องการเหลื่อมระยะเวลาการทำงานนั้นยังดำเนินไปตามปกติที่เคยทำมา สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเหลื่อมเวลาทำงานอยู่แล้วเช่นเดียวกับทุกสถานที่ราชการ

ทั้งนี้ ในช่วงเวลานี้มีความชื้นในอากาศ เข้ามาสูงอีกด้วยจึงทำให้เห็นเป็นหมอกครึ้ม จึงขอความร่วมมือประชาชนใช้รถสาธารณะ และเมื่ออยู่ในที่โลกด้านนอกอาคารขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัย กรุงเทพฯ จะเป็นฝาชีอยู่อย่างนี้ประมาณ 2-3 วัน แล้วจะมีลมเข้ามาช่วย แล้วอีกสักพักหนึ่งก็จะเป็นอย่างนี้อีก เป็นช่วงๆ อย่างนี้ ซึ่งเป็นปกติของช่วงฤดูหนาว

วันเดียวกัน ศกพ. รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของคพ. ร่วมกับกทม. ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 วัดค่าได้ 36-87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีถึงมีผล กระทบต่อสุขภาพ โดยพบพื้นที่ที่เกินมาตรฐานรวม 59 สถานี

ส่วนศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ตรวจวัดได้ 40-81 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. จำนวน 56 พื้นที่ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลต่อสุขภาพ จึงแนะนำให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานให้เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น มากสุดที่เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด 81 มคก./ลบ.ม. รองลงมาเป็นเขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุด ใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน และเขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย78 มคก./ลบ.ม.

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม. เปิดเผยว่า ในวันนี้คุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม. มีแนวโน้มแย่ลง เนื่องจากการเดินทางสัญจรของประชาชนกลับจากการท่องเที่ยวในวันหยุดยาว ทำให้ปริมาณการจราจรหนาแน่นและติดขัด ดังนั้น จึงกำชับให้ทุกเขตเข้มงวดมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ดังนี้ 1.ตรวจวัดรถยนต์ควันดำทุกประเภทร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด 2.ประสานสถานีตำรวจท้องที่อำนวยความสะดวกการจราจรหรือจัดการจราจรให้คล่องตัว 3.รณรงค์ไม่ขับ…ช่วยดับเครื่อง 4.ประชาสัมพันธ์ผู้ขับขี่รถยนต์หมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์ 5.ขอความร่วมมือให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชน

6.ควบคุมสถานประกอบกิจการในพื้นที่ไม่ให้ปล่อยมลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด อาทิ สถานประกอบกิจการประเภทการผลิตภาชนะด้วยโลหะ หรือแร่ การถลุงแร่ การเลื่อย ซอย ไสไม้ การผลิตสิ่งของเครื่องใช้จากไม้ การผลิต สะสม แบ่งบรรจุธูป การเผาถ่านหรือสะสมถ่าน กิจการที่มีการใช้ หม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเตาหรือดีเซล และการสะสม ผสมซีเมนต์ หิน ดิน ทราย วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งการขุด ตัก ดูด โม่ บด หรือย่อย ด้วยเครื่องจักร 7.ควบคุมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทุกประเภท ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมทั้งดูแลไม่ให้นำรถที่มีควันดำมาใช้งานบนถนน

8.ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการ เผาในที่โล่งทุกประเภท 9.กำชับเจ้าหน้าที่ ผู้มี หน้าที่ฌาปนกิจศพให้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ 10.เพิ่มความถี่ ในการล้างและดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างใบไม้ 11.ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แนะนำวิธีป้องกันสุขภาพอนามัยผ่านสื่อออนไลน์ ของสำนักงานเขตและสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร การประกาศ เสียงตามสายของชุมชนและแอพพลิเคชั่นไลน์ของหมู่บ้าน และโรงเรียนในสังกัด เป็นต้น

ทั้งนี้ กทม.ได้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายของฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องแบบ Real Time ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ www.bangkokairquality.com, www.prbangkok.com, www.air4bangkok.com, Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม Facebook : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชา สัมพันธ์ และแอพพลิเคชั่น AirBKK ซึ่งปัจจุบันมีความถี่การแจ้งเตือนวันละ 3 รอบเวลาคือ 07.00 12.00 และ 15.00 น. รวมถึงเว็บไซต์ Air4Thai.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai เพื่อแจ้งเตือนและเน้นย้ำ ข้อควรปฏิบัติแก่ประชาชนในการเฝ้าระวังสุขภาพและป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็กและผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผล กระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากมี ความจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

ฝุ่นพิษ – บรรยากาศกรุงเทพมหานคร ตลอดวันที่ 14 ธ.ค. เต็มไปด้วยฝุ่นพิษ พีเอ็ม2.5 เกินค่ามาตรฐาน ลักษณะคล้ายหมอกควัน ปกคลุมหนาแน่น เสี่ยงเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยพบว่ามี 59 สถานี ฝุ่นขนาดละเอียดค่อนข้างสูง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน