นันทิดา-บิ๊กแจ๊ดได้เฮ ชิงอบจ.เดือด

ร้องซื้อเสียง40เรื่อง
จับได้ที่ตรัง-ขอนแก่น
คนดัง-บ้านใหญ่ยังแรง
‘เด็กทักษิณ’ลิ่วเชียงใหม่

เลือกตั้งอบจ.คึกคัก ตระกูลดัง-บ้านใหญ่ยังแรง ญาติรมต.พรึ่บทั้งชลบุรี-โคราช-พะเยา-ระยอง ‘ตู่’นันทิดาลอยลำสมุทรปราการส่วนเชียงใหม่ ‘ส.ว.ก๊อง’เด็กทักษิณนำโด่ง ‘บิ๊กแจ๊ด’ มีเฮที่ปทุมธานี ‘ปลัดแต’ครองใจชาวสมุทรสาคร กกต.เผยร้องซื้อเสียงอื้อ 40 เรื่อง เมืองตรัง-ขอนแก่นรวบแจกเงินคาหน่วยเลือกตั้ง โคราชวุ่นถูกสวมสิทธิ์ 2 ราย ชาวบ้านห้วยทรายเหนือ พิษณุโลกประท้วงอบจ.เมินทำถนน เลยไม่มาลงคะแนนยกหมู่บ้าน ที่ประชุมอธิการ บดีฯเคาะ 3 ชื่อนั่งกรรมการสมานฉันท์ เพื่อไทยชงกมธ.รัฐธรรมนูญหารือนอกรอบก่อนประชุม-ไฟเขียวสมาชิกอภิปรายเต็มที่ สกัดซ้ำรอยล่ม

เลือกตั้งอบจ.คึกคักทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบ 7 ปี มีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ 8,521 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายกอบจ. 335 คน ผู้สมัครส.อบจ. 8,186 คน จังหวัดที่ผู้สมัครมากที่สุด คือ บุรีรัมย์ 352 คน แยกเป็นผู้สมัครนายกอบจ. 8 คน ส.อบจ. 344 คน จังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุด คือ เพชรบุรี 34 คน แยกเป็นผู้สมัคร นายกอบจ. 1 คน และส.อบจ.33 คน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)จัดกำลังตำรวจ 120,000 นาย ดูแล 96,191 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งบรรยากาศการลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างคักคัก มีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น

ขณะที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการลงคะแนนเลือกตั้งในจ.ขอนแก่น และให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการนับคะแนนคาดว่าในหน่วยเลือกตั้งต่างๆ น่าจะเสร็จและติดประกาศผลคะแนนไม่เป็นทางการที่หน้าหน่วยได้ประมาณ 20.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. จากนั้นแต่ละหน่วยจะต้องส่งผลคะแนนไปรวมที่จังหวัด ซึ่งคะแนนรวมแต่ละจังหวัดคาดว่าจะประกาศผลไม่เป็นทางการได้ประมาณ 24.00 น. ส่วนที่จ.สมุทรสาคร ทราบว่ามีประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนหนึ่งอาจจะไม่มากเท่าที่คาดไว้ แต่สามารถเลือกตั้งได้

แห่ร้องซื้อเสียง 40 เรื่อง

นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนเรื่องการร้องเรียนนั้นได้รับรายงานว่าทั่วประเทศ มี 129 เรื่อง แบ่งเป็น เรื่องร้องเรียน 122 เรื่อง ความปรากฏต่อกกต. 7 เรื่อง มีจังหวัดที่มีเรื่องร้องเรียน 41 จังหวัด ไม่มีเรื่องร้องเรียน 35 จังหวัด เรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นเรื่องทุจริต ซื้อเสียง 40 เรื่อง การใส่ร้ายหาเสียง 36 เรื่อง เจ้าหน้าที่ไม่เป็น กลาง 28 เรื่อง หลังจากนี้จะเข้าสู่การพิจารณาว่าคำร้องเหล่านี้มีมูลเพียงพอที่จะรับไว้ดำเนินการหรือไม่

ขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ เลือกตั้ง และระมัดระวังตัวเองรวมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และขอเน้นย้ำว่าสำหรับผู้ที่ไม่ได้มาใช้สิทธิ ยังมีเวลา 7 วันในการแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้เพื่อป้องกันการถูกจำกัดสิทธิ

ใช้สิทธิ์ – ผู้พิการพร้อมใจกันมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกอบจ. และนายกอบจ.นนทบุรี หน่วย เลือกตั้งที่ 8 บ้านนนทภูมิ ต.บางตลาด เทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.

กกต.มั่นใจคนใช้สิทธิ์ทะลุเป้า

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เขตเลือกตั้งที่ 7 อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต. เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และตรวจติดตามสังเกตการณ์การเลือกตั้ง พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าโควิด-19 น่าจะมีส่วนทำให้ผู้มาใช้สิทธิ์น้อยกว่าที่คาดการณ์ แต่เชื่อว่าการประชาสัมพันธ์ของกกต. ที่ดำเนินการในวัน ดีเดย์นั้นน่าจะส่งผลให้ประชาชนมีความตื่นตัว ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่าครั้งนี้จะมีผู้มาใช้สิทธิ์กี่เปอร์เซ็นต์ นายเลิศวิโรจน์กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าควรประเมินหรือไม่ แต่โดยปกติการเลือกตั้งทั่วไปที่เปรียบเทียบกันนั้นอยู่ในระดับประมาณ 70%

ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยที่ 3 ศาลาหมู่บ้านป่าหมาก ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจบการเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ.แล้วกกต.จะมีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมและจะหารือกับกระทรวงมหาดไทยว่าจะดำเนินการเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับใด เพื่อกก.ต.จะได้มีการประกาศกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่นต่อไป

กลางน้ำ – ประชาชนลุยน้ำท่วมเข้าไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอบจ. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 1 บ้านคลองไทร ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.

ห่วงภาคใต้เจอฝนกระหน่ำ

ที่จ.ตรัง นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. กล่าวว่า ในเคสของอ.นาโยง จ.ตรัง ที่มีประชาชนขึ้นป้ายไม่ออกไปใช้สิทธิ์ ตนได้หารือกับนายอำเภอนาโยง พบว่าเป็นการขึ้นป้ายในพื้นที่ของเขา ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ ได้กำชับว่าหากมีการทำความผิด ชาวบ้านมีการต่อต้านรณรงค์ ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างเปิดเผยก็ต้องดำเนินคดี เท่าที่สอบถามมีประมาณ 7 หน่วยเลือกตั้ง แต่ใน 7 หน่วยเลือกตั้งนี้ยังมีผู้มาใช้สิทธิ์มาก

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถมาใช้สิทธิ์วันนี้ต้องไปแจ้งที่ไม่ไปขอใช้สิทธิ์ในวันที่ 27 ธ.ค. แต่หากหลังจากนั้นถือว่าบุคคลนั้นไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตอนนี้กกต. คาดหวังว่าจะให้มีประชาชนทั่วประเทศมาใช้สิทธิ์ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยสถานการณ์ทางภาคใต้ที่มีฝนตก อาจจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่เท่ากับที่คาดไว้ ก็ยังหวังว่าจะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์

เวลา 07.30 น.นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่ 52 ตั้งอยู่ในพุทธสถาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดการเลือกตั้งจ.เชียงใหม่ เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหาการร้องเรียนเข้ามา ส่วนการหาเสียง และการติดตั้งป้ายหาเสียงพบว่าเป็นไปอย่างเรียบร้อยเช่นกัน

สมุทรสาครป้องกันโควิดเข้ม

ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่ 2 เขตเลือกตั้งที่ 8 โรงเรียนอนุบาลสมุทรสาคร และหน่วยเลือกตั้งที่ 22 เขตเลือกตั้งที่ 8 บริเวณค่ายลูกเสือ หลังตลาดกลางกุ้ง โดยบริเวณคูหาเลือกตั้ง ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด ด้วยการลดจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนลง 40% ในแต่ละหน่วย เพื่อลดความแออัด มีอุปกรณ์ป้องกันอย่างครบถ้วน แต่หากผู้มีสิทธิในการลงคะแนนรายใด ตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว พบว่าสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จะต้องใช้สิทธิ์เลือกตั้งในคูหาพิเศษที่ทางกกต.กำหนดให้ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอย่างดีที่สุด

ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานกกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ แถลงว่า ภาพรวมทุกหน่วยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้ง 96,191 หน่วยเลือกตั้ง ส่วนในจ.สุมทรสาคร กกต.ได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 19 ธ.ค. เพราะเกรงว่าจะต้องใช้มาตรา 94 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น แต่คณะกรรมการควบคุมโรคของจ.สมุทรสาคร ยืนยันว่า สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งของกกต.ไม่ได้อยู่ในพื้นที่กระจายเชื้อ และมีการใช้มาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น ส่วนเรื่องการนับคะแนนของจ.สุมทรสาคร จะมีการนับจนเสร็จสิ้น แม้จะเกินเวลาที่คณะกรรมการควบคุมโรคของจังหวัดจะขอความร่วมมือให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านในเวลา 22.00-05.00 น.

จับซื้อเสียงแล้ว 4 จังหวัด

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเดินทางไปยังพื้นที่จ.สุมทรสาครแล้วต้องกลับมากักตัวหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปในแหล่งชุมชน หรือพื้นที่แออัด รวมทั้งไม่ได้ใกล้ชิด แต่ได้รักษาระยะห่าง และเมื่อเข้าไปในพื้นที่หน้าหน่วยเลือกตั้งก็มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง ล่าสุด มีการจับกุมผู้แจกเงินซื้อเสียงการเลือกตั้งได้ใน 4 จังหวัด คือ นครปฐม กาญจนบุรี สุโขทัย และพิจิตร ยอมรับว่าอาจกระทบต่อการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะต้องตรวจสอบหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ส่วนการร้องเรียนในจังหวัดอื่นๆอยู่ระหว่างหาหลักฐาน

กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมตัว ร.ต.ปัญญกร ภู่ระหงษ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนออกไปจ่ายเงินซื้อเสียงในเขตพื้นที่ หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมของกลางธนบัตรใบละ 500 บาท 3 ใบ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ธ.ค. โดย ร.ต.ปัญญกร ให้การว่าจ่ายเงินให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนให้กับผู้สมัครนายกอบจ.และส.อบจ.เบอร์ 1 ทีมพลังกาญจน์ ที่มีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย เป็นหัวหน้าทีม ส่วนผู้สมัครส.อบจ.อำเภอเมือง เขต 5 เบอร์ 1 คือนางอัจฉรา อ่วมทอน ซึ่งนายสุรพงษ์ ระบุว่าถูกกล่าวหา จงใจใส่ร้ายทางการเมือง และไม่เคยรู้จัก ร.ต.ปัญญกร ในพื้นที่บริเวณนั้น ไม่เคยเข้าไปด้วยซ้ำ

ซื้อเสียง – ตำรวจจับกุมนายทวี เกลี้ยงรัตน์ พร้อมเงินสดในซองปิดผนึก และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนหลายราย บริเวณใกล้เคียงหน่วยเลือกตั้ง หมู่ 6 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง คุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองตรัง เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.

ตรัง-ขอนแก่นรวบคาหนังคาเขา

ส่วนบรรยากาศการเลือกตั้งในจังหวัดภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง แต่ประชาชนยังฝ่าสายฝนมาใช้สิทธิ์ รวมทั้ง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารเรียน 10 โรงเรียนวัดควนวิเศษ อ.เมือง จ.ตรัง

เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง บริเวณริมรั้วโรงเรียนบ้านควนปริง หมู่ 6 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 5 เมื่อลงไปตรวจสอบพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ทะเบียน กค 6402 ตรัง สีบรอนซ์ทอง ภายในพบนายทวี เกลี้ยงรัตน์ อายุ 61 ปี จึงเข้าไปตรวจค้นพบเงินสด 28,700 บาท และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 200-300 รายชื่อ จากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็น หัวคะแนนของนายปณต ศิริเสถียร ผู้สมัคร ส.อบจ.หมายเลข 2 ในนามอิสระ จึงแจ้งดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ หาเสียงในเวลาต้องห้าม และการจัดเตรียมเงินเพื่อให้เงิน หรือแจกจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.เปิดเผยว่า นายทวีเป็นหัวคะแนนใหญ่ของผู้สมัคร ส.อบจ.เขตเลือกตั้งที่ 4 ที่สนับสนุนพรรคท้องถิ่นพรรคหนึ่ง เมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีมาแล้วว่ามีนายทวีเป็นหัวคะแนนคอยซื้อเสียงแต่ไม่สามารถจับกุมได้ ก่อนจะเฝ้าระวังมาโดยตลอดจนกระทั่งมารับแจ้งและควบคุมตัวในครั้งนี้ เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้ง อ.บ้านไผ่ เขต 1 หมู่ 8 ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จับกุมนางสำเนียง ทุมพา อายุ 41 ปี พร้อมพวกอีก 2 คน ขณะเดินแจกเงินซื้อเสียงกับประชาชนที่มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พร้อมของกลางคือ เงินจำนวน 200 บาทแนบกับบัตรหาเสียงของ ผู้สมัคร ส.อบจ.รายหนึ่ง นำตัวส่งสภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ดำเนินการต่อไป

ฉีกบัตร – ตำรวจสภ.ห้วยหลวง จับกุมนายสุพจน์ โพธิ์ศรี อายุ 48 ปี เมาเหล้าขาวเข้าคูหาเลือกตั้ง แล้วฉีกบัตรลงคะแนน โดยอ้างว่าไม่ชอบผู้สมัคร ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 เขตเลือกตั้งที่ 9 อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.

ฉีกบัตรเลือกตั้ง 9 ราย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงภาพรวมการดูแลรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้งว่า ภาพรวมช่วงเช้าพบการกระทำความผิดฉีกบัตรเลือกตั้ง 3 ราย ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี อุดรธานี และอุตรดิตถ์ สาเหตุมาจากมึนเมา 2 ราย และอีก 1 รายคือเข้าใจผิด ฟังผิดจากเจ้าหน้าที่บอกให้ขีดบัตรเป็นฉีกบัตร จึงนำไม้บรรทัดที่วางอยู่บนโต๊ะมาใช้ฉีกบัตร

สำหรับการฉีกบัตรเลือกตั้งที่จ.อุดรธานี เกิดเหตุที่ศาลาประชาคมหน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ 5 บ้านหนองสมเด็จ ต.เชียงพิณ อ.เมือง คือนายสุพจน์ โพธิ์ศรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 5 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งจากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 343 ม.ก. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาทำลายบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง และเมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย

ส่วนที่จ.ราชบุรี คือนายวันเฉลิม พรดำริ อายุ 54 ปี ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ สาเหตุน่าจะเกิดจากอาการมึนเมาของผู้มาใช้สิทธิ์

ต่อมา เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 5 เขตเลือกตั้งที่ 4 ต.คลองวาฬ เทศบาลตำบลคลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำนางประทิน เกตุสละ อายุ 72 ปี มาลงบันทึกประจำวันด้วยน้ำตานองหน้า หลังไปใช้สิทธิ์ ได้รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จึงนำมาเก็บไว้ในกระเป๋าหนึ่งใบ ส่วนใบที่เหลือนำเข้าคูหาเพื่อลงคะแนน เมื่อจะหย่อนลงหีบ กลับมีหีบเลือกตั้ง 2 ใบ จึงฉีกบัตรเป็นสองส่วน แยกใส่คนละหีบ

นอกจาก 4 จังหวัดดังกล่าวแล้ว กกต.ยังได้รับรายงานว่า พบฉีกบัตรเลือกตั้งที่ ปทุมธานี พัทลุง สงขลา บึงกาฬ และอุบลราชธานี รวมเป็น 9 จังหวัด

โคราชวุ่นถูกสวมสิทธิ์

เมื่อเวลา 11.25 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 23 เขตเลือกตั้งที่ 4 อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านหลักร้อย ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายสุพัฒน์ กรัญญประสิทธิ์ อายุ 56 ปี และนางบุญยอด เหลี่ยมสูงเนิน อายุ 74 ปี ได้มาใช้สิทธิ์ แต่ปรากฏว่ามีบุคคลมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปแล้วตั้งแต่ตอนเช้า

ทั้งสองคนได้สอบถามว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งปล่อยให้บุคคลอื่นมาสวมสิทธิ์เลือกตั้งแทนได้อย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ปลัดเทศบาลนครนครราชสีมาได้รับทราบ แต่ปลัดไม่สามารถทำอะไรได้ จึงแนะนำให้ทั้งสองคนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและกกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา

พิษณุโลกไม่ใช้สิทธิ์ยกมบ.

เมื่อเวลา 17.00 น. หลังปิดหีบเลือกตั้ง ปรากฏว่าที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 อาคารอเนกประสงค์บ้านห้วยทรายเหนือ เขตเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 6 ต.ห้วยเฮี้ย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 849 คน บวกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วย รวมทั้งสิ้น 850 คน ปรากฏว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์เพียง 1 คน คือเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วย เนื่องจากไม่พอใจที่อบจ.ไม่ทำถนนภายในหมู่บ้านตามที่เคยขอไป

นายนิสิต สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทย เปิดเผยว่า พื้นที่นี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง การเทคอนกรีตแบบถาวรต้องทำเรื่องขออนุญาตไปยังสำนักงานอุทยาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาทาง อบจ.พิษณุโลก นำรถเกรดมาปรับถนนให้เป็นประจำไม่ได้เพิกเฉย

กกต.พอใจปิดหีบไร้ปัญหา

เวลา 18.00 น. ที่สำนักงานกกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวแสดงความพอใจภาพรวมการจัดการเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ.ทั่วประเทศที่ปิดการลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อเวลา 17.00 น. โดยจากรายงานไม่มีจังหวัดใดที่มีปัญหา มีที่จ.สมุทรสาคร พบว่าผู้มาใช้สิทธิ์อาจจะเบาบางไปบ้างเท่านั้น

ส่วนการประกาศรับรองผล ตามมาตรา 17 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น กำหนดว่าหากการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต.สามารถประกาศรับรองผลได้ภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง แต่หากพบว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต มีเรื่องร้องเรียนร้องคัดค้านให้พิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในไม่เกิน 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง

คาดตระกูลดัง-บ้านใหญ่เข้าวิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครนายกอบจ.ในนามพรรคเพียง 3 จังหวัด คือ สงขลา สุราษฎร์ธานี และสตูล พรรคเพื่อไทย 25 จังหวัด คณะก้าวหน้า 42 จังหวัด ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มีมติไม่ส่งผู้สมัครลงในนามพรรค แต่มีอย่างน้อย 8 จังหวัดที่มีความเชื่อมโยงถึงพรรค พรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ส่งในนามพรรค แต่มี ผู้สมัครนายก อบจ. กว่า 6 จังหวัด เป็นคนในครอบครัวของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย

สำหรับผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ. อย่างไม่เป็นทางการ มีแนวโน้มว่าตระกูลดัง-บ้านใหญ่ จะเข้าวินกันถ้วนหน้า เช่น จ.สมุทรปราการ นางนันทิดา แก้วบัวสาย กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า มีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งตั้งแต่เริ่มนับคะแนนเลยทีเดียว ขณะที่นายอำนวย รัศมิทัต อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ ตามมาห่างๆ

เช่นเดียวกับจ.ชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม ทีมเรารักชลบุรี ซึ่งถือเป็นบ้านใหญ่ นำโด่งผู้สมัครรายอื่นทั้ง น.ส.พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ทีมคณะก้าวหน้าเปลี่ยนชลบุรี นายสรายุทธ์ วงษ์แสงทอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กลุ่มชลบุรีก้าวหน้า และนายสภา พละวารี ผู้สมัครอิสระ

จ.นครราชสีมา เวลา 19.40 น. ปรากฏว่า นางยลดา หวังศุภกิจโกศล กลุ่มโคราชโฉมใหม่ ภรรยาของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ พรรคภูมิใจไทย นำโด่งได้ 54,817 คะแนน นายสาธิต ปิติวรา กลุ่มก้าวหน้า 19,956 คะแนน นพ.สำเริง แหยงกระโทก กลุ่มรักษ์โคราช 17,896 คะแนน

จ.พะเยา นายอัครา พรหมเผ่า กลุ่มฮักพะเยา น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ทิ้งห่างคู่แข่งด้วยคะแนน 40,303 คะแนน นายชัยประพันธ์ สิงห์ชัย คณะก้าวหน้า 16,997 คะแนน นายณรงค์ นามวงศ์ ผู้สมัครอิสระ 2,354 คะแนน นายสันติชัย ชุ่มมงคล ผู้สมัครอิสระ 2,17 คะแนน

คนแม้วเชียร์-‘บิ๊กแจ๊ด’นำห่าง

ในส่วนของจ.เชียงใหม่ นับเป็นจังหวัดที่แข่งขันดุเดือดมากที่สุดจังหวัดหนึ่ง ถึงขนาดนายทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนจดหมายและส่งคลิปให้ชาวเชียงใหม่เลือก ผลคะแนนรวมอย่างไม่เป็นทางการเวลา 21.15 น. ส.ว.ก๊อง-นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร พรรคเพื่อไทย ได้ 183,014 คะแนน นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม 153,069 คะแนน ซึ่งยังคงค้างการนับคะแนนของอำเภอรอบนอกที่ห่างไกล และไม่มีสัญญาณในการติดต่อ คาดจะรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการเวลาประมาณ 01.00 น วันที่ 21 ธ.ค.

จ.ปทุมธานี เวลา 21.00 น.บิ๊กแจ๊ด-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ทีมคนรักปทุม พรรคเพื่อไทย ได้ 33,107 คะแนน นายชาญ พวงเพ็ชร์ ทีมปทุมรักไทย อดีตนายก อบจ.ได้ 22,820 คะแนน

จ.บุรีรัมย์ นายภูษิต เล็กอุดากร อดีต ส.อบจ.บุรีรัมย์ หลานชาย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ กลุ่มเพื่อนเนวิน มีคะแนนนำ ผู้สมัครคู่แข่งคนอื่นๆ ส่วนผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง ใน 23 อำเภอ ผู้สมัคร ส.อบจ.กลุ่มเพื่อนเนวิน ก็มีคะแนนนำเช่นกัน

สะใภ้ป๋าเหนาะ-พี่สาธิตไม่พลิก

ส่วนจ.สระแก้ว ไม่พลิกโผเมื่อ กำนันกี่- นางขวัญเรือน เทียนทอง สะใภ้คนเล็กของ ป๋าเหนาะ-นายเสาะ เทียนทอง และเป็นมารดาของนายฐานิสร์และน.ส.ตรีนุช เทียนทอง สอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนนำห่างผู้สมัครนายกอบจ.อีก 7 คน แบบไม่ เห็นฝุ่น

เมื่อเวลา 20.30 น.ที่อบจ.ระยอง ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีตนายก อบจ.ระยอง พี่ชายนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณะสุข นำคู่แข่งขาดลอยเกือบทุกเขต ทั้งนางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ คณะก้าวหน้า นายเกรียงไกร กิ่งทอง พรรคเพื่อไทย และนายสุวิทย์ เหล่าฤทธิไกร ผู้สมัครอิสระ

การนับคะแนนที่จ.หนองคาย เป็นไปอย่างสูสี ผ่านไปร้อยละ 77 นายยุทธนา ศรีตะบุตร อดีตนายก อบจ.หนองคาย 4 สมัย หัวหน้ากลุ่มรักหนองคาย ได้ 67,841 คะแนน นายธนพล ไลละวิทย์มงคล พรรคเพื่อไทย 60,225 คะแนน นายกฤศภณ หล้าวงศา คณะก้าวหน้าหนองคาย 38,326 คะแนน และนายสมคิด บาลไธสง อดีต ส.ส.หนองคาย ผู้สมัครอิสระ 2,009 คะแนน

จ.อุดรธานี นับได้ร้อยละ 16.67 ช่วงเวลา 20.30 น. ผู้สมัครนายกอบจ.ที่มีคะแนนนำ 3 อันดับแรกคือ นายวิเชียร ขาวขำ พรรคเพื่อไทย 31,630 คะแนน นายฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ กลุ่มก้าวหน้า 17,106 คะแนน น.ส.อิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงศ์ กลุ่มเพื่ออุดรธานี 3,163 คะแนน

แม่ส.ส.ปชป.-ปลัดแตมีเฮ

ที่จ.นครศรีธรรมราช ผลการนับคะแนนจนถึงเวลา 21.00 น. นับไปแล้ว 540 หน่วย จากทั้งหมด 2,172 หน่วย ผู้นำ 4 อันดับแรกคือ นางกนกพร เดชเดโช มารดานายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 63,764 คะแนน นายอนันต์ ทองอุ่น ทีมทิศทางใหม่ 32,618 คะแนน นายอำนวย ยุติธรรม น้องชายนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ 24,653 คะแนน นายพิชัย บุณยเกียรติ ทีมทำทันที อดีต นายกอบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ 16,883 คะแนน

จ.ขอนแก่น การนับคะแนนผ่านไป 42% ผลปรากฏว่า นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ผู้สมัครอิสระอดีตนายก อบจ.ขอนแก่น มีคะแนนนำถึง 152,195 คะแนน รองลงมาคือนายภัทรพันธ์ หงส์วัฒนาพิเชษฐ ผู้สมัครอิสระ 47,301 คะแนน ขณะที่ผลการนับคะแนน จ.สมุทรสาคร ผลการรวมอย่างไม่เป็นทางการ ผู้สมัครนายกอบจ.ที่ได้คะแนนสูงสุดคือ ปลัดแต-นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ทีมฅนทำงาน

ปชป.-เพื่อไทยถูกคว่ำ

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว หรือกำนันศักดิ์ กลุ่มคนรักสุราษฎร์ และอดีตนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคะแนนนำนายชุมพล กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งครั้งนี้ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์

จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ หรือ เฮียไล้ ทีมประจวบโมเดล ได้ 84,966 คะแนนนำห่างนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล พรรคเพื่อไทยได้ 42,242 คะแนน ผลการนับคะแนนโดยภาพรวมมีบัตรเสียและบัตรผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนจำนวนมาก

ส่วนจ.ลำปาง ผู้สมัครที่มีคะแนนนำ 4 คนคือ นางตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร บุตรสาวนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย 75,296 คะแนน นายดาชัย เอกปฐพี กลุ่มพลังลำปาง 12,041 คะแนน นายประยูร แก้วเดียว กลุ่มอนาคตลำปาง 10,567 คะแนน นายจินณ์ ถาคำฟู อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ 10,357 คะแนน

จ.กาญจบุรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ทีมพลังกาญจน์ ได้ 82,764 คะแนน นายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ทีมพลังใหม่ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ได้ 54,117 คะแนน น.ส.สาวิกา ประเสริฐผล ทีม NEXT กาญจนบุรี ได้ 4,097 คะแนน และพ.ต.ท.กิตติพิชญ์ จันทร์สมบูรณ์ ทีมเมืองกาญจน์ก้าวใหม่ ได้ 1,310 คะแนน

ทำเนียบฯจัดระเบียบกันโควิด

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความผ่านกลุ่มไลน์ เพื่อแจ้งให้ทราบ พร้อมขอความร่วมมือ สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ถึงแนวทางและข้อปฏิบัติของการปฏิบัติงานในทำเนียบช่วงสถานการณ์โควิดขณะนี้ 1.ขอสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และหมั่นล้างมือ งดใช้ของร่วมกัน เว้นระยะห่างตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

2.ขอเช็คว่า มีสื่อคนใดอาศัยอยู่ใน จ.สมุทรสาคร และต้องมาทำงานในทำเนียบฯ ขอแจ้งให้สำนักโฆษกทราบด้วย หรือมีคนใดได้เดินทางไปในจังหวัดดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา รบกวนแจ้งและดูแลปฏิบัติตน หรือสามารถตรวจเชื้อโควิด-19 ได้โดยสำนักโฆษกจะประสานงานอำนวยความสะดวกให้

3.งดรุมจ่อไมค์สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และผู้บริหารอื่นๆ ขอเว้นระยะ พร้อมทั้งสื่อเองขอดูแลตัวเองไม่เบียดเสียดกัน

4.เมื่อมาถึงทำเนียบ สามารถมาวัดไข้ได้ที่ตึกบัญชาการตลอดเวลา

5.หากมีข้อสงสัย หรือต้องการการสนับสนุนอะไรบ้าง ขอให้แจ้งสำนักโฆษก

ทั้งนี้ เพื่อเราจะได้ร่วมกันทำงานอย่างราบรื่นท่ามกลางโควิด-19 ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ด้วยรักและห่วงใย

ด้านสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา (ส.ว.)ได้ออก 7 มาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ที่มีที่พักอาศัยอยู่จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค ให้ปฏิบัติงานในที่พักอาศัยตามแนวทางที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภากำหนด รวมทั้งผู้ค้าขายสินค้าที่มีภูมิลำเนาอยู่จ.สมุทรสาคร จะให้งดมาขายสินค้า ที่อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) และอาคารสุขประพฤติ เพื่อเป็นการป้องการแพร่ระบาดของโรคโควิด

ทปอ.เคาะชื่อนั่งกก.สมานฉันท์

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยกรณีที่รัฐบาลมีมติตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ 7 ฝ่าย ว่า เมื่อเร็วนี้ๆ ที่ประชุม ทปอ. มีมติพิจารณาคัดเลือกตัวแทนจาก ทปอ. ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการสมานฉันท์ ได้แก่ ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ศ.เกียรติคุณ ดร.สุริชัย หวันแก้ว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.สมศักดิ์ รุ่งเรือง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ซึ่งทั้ง 3 รายตอบรับเรียบร้อยแล้ว

“ทปอ.มุ่งในเรื่องการสร้างความสมานฉันท์ ความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคมไทยให้ได้ โดยตัวแทนจาก ทปอ.ทั้ง 3 คน ไม่ใช่จะเป็นเพียงตัวแทนในด้านวิชาการเท่านั้น ต้องเป็นตัวแทนของนิสิต นักศึกษาด้วย เพราะเรามีจำนวนนิสิต นักศึกษาในมหาวิทยาลัยกลุ่ม ทปอ. อยู่กว่า 2 ล้านคน ซึ่งทั้ง 3 คน ได้ทำงานเรื่องนิสิตนักศึกษามาอย่างยาวนาน รวมถึงมีบทบาทในหน้าที่ของนักวิชาการ และยังเป็นอดีตผู้บริหารมหาวิทยาลัยควบคู่ไปด้วย เชื่อว่าทั้ง 3 คน จะเป็นตัวแทนของ ทปอ.และนิสิต นักศึกษาในคณะกรรมการสมานฉัน์ท์ได้เป็นอย่างดี” นายสุชัชวีร์กล่าว

‘วันชัย’แนะรวมพลัง 3 อำนาจ

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ว่า การปรองดองสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้ต้องมาจาก ผู้มีอำนาจแต่ละภาคส่วนอย่างแท้จริง คืออำนาจจากการเมือง จากรัฐบาล และจากฝ่ายความมั่นคง ทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง รัฐสภาต้องโดยประธานรัฐสภา รัฐบาลต้องโดยนายกรัฐมนตรี และผบ.เหล่าทัพ ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ได้ ลองจำลองรูปแบบจากกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมาใช้ในเรื่องสมานฉันท์ก็น่าจะได้ เพราะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมีองค์ประกอบครบจากทุกภาคส่วน

ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจทุกภาคส่วนจะได้รวมพลังทำงานเรื่องนี้ให้เป็นมรรคเป็นผล ต้องทำกันแบบใหม่ วิธีการใหม่ ให้มีเป้าหมายสัมฤทธิผล เชื่อว่าใครทำสำเร็จได้ คนนั้นจะเป็นวีรบุรุษของประเทศที่นำมาซึ่งความสงบเรียบร้อย มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

พท.ชงกมธ.รธน.ถกนอกรอบ

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…กล่าวถึงการประชุมกมธ.เมื่อสัปดาห์ ที่ผ่านมา ที่มีปัญหาจนทำให้การประชุมล่มว่า ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการหารือในหมวด 1 และ 2 ที่ต่างฝ่ายต่างเห็นไม่ตรงกัน จึงส่งผลต่อการประชุม ดังนั้นตนเห็นว่าก่อนการประชุมต้องมีการหารือกันนอกรอบก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชุมอีก

โดยตนจะเสนอประธานว่าต้องปล่อยให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นกันให้เต็มที่ทุกมาตรา ใครที่ไม่เห็นด้วยในมาตราใดให้แขวนไว้เลย จากนั้นค่อยมาไล่ลงมติทีละมาตรา เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว เพราะเป้าหมายของเราคือจะไม่ขยายเวลาเพิ่มอีกแล้ว หากคิดว่าล่าช้า อาจจะต้องเรียกประชุมเพิ่มหนึ่งวันหลังจากช่วง ปีใหม่ คาดว่าทันตามกรอบเวลาอย่างแน่นอน