โคราช-เชียงใหม่แชมป์
ซิ่ง-จยย.ไม่สวมกันน็อก
มิตรภาพ-พหลฯรถแน่น
จากตจว.ทยอยกลับกรุง

วันที่สี่ปีใหม่ตายอีก 80 รวม 4 วัน 267 ศพ บาดเจ็บ 2,362 คน เกิดอุบัติเหตุ 2,365 ครั้ง สาเหตุใหญ่เมาแล้วขับรวม 1,028 คดี จับดำเนินคดี 9.8 หมื่นคน ไม่สวมหมวกกันน็อก 26,682 ไม่มีใบขับขี่ 25,111 คน คมนาคมแจงคนนั่งขนส่งสาธารณะแค่ 5.8 ล้าน ปริมาณรถเข้า-ออกกรุง 7 ล้านคัน ต่ำกว่าประมาณการ 40% เหนือ-อีสานทยอยกลับกรุงเทพฯ แล้ว ถนนพหลโยธิน-มิตรภาพเริ่มแน่น ผวาโควิด ไม่แวะเที่ยวเหมือนช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงหินกองเปิดทางพิเศษลงจากเขากลางดง ปากช่อง โคราช ถึงอ.แก่งคอย ระบายรถติด ส่วน อ.หนองแค จ.สระบุรี เปิดเลนระบายรถเพิ่มถึงอ.วังน้อย อยุธยา

4 วันหยุดยาว-ตายพุ่ง 267

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ที่ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 กล่าวว่า วันที่ 4 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 713 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 80 ราย ผู้บาดเจ็บ 709 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 43.06 ขับรถเร็ว ร้อยละ 35.20 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.74 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 66.06 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 40.39 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 34.22 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01-04.00 น. ร้อยละ 30.01 ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 21.67 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,908 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,428 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 460,054 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 98,530 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,682 ราย ไม่มีใบขับขี่ 25,111 ราย

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา 28 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงราย จังหวัดละ 5 ราย มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา 30 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.63-1 ม.ค. 64 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,365 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 267 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,362 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 11 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ สงขลา จังหวัดละ 87 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 16 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 92 คน

ส่วนการคุมประพฤติผู้ที่ฝ่าฝืนเมาแล้วขับนั้น นายวิตถวัลย์ระบุว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกนำตัวไปเข้าอบรมเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งปีที่ผ่านมา มี 65 ราย แต่ปัจจุบันแนวโน้มพฤติกรรมผู้ขับขี่ดีขึ้น และปีนี้จะเน้นการติดตามผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวอีเอ็ม เพื่อจำกัดการออกนอกพื้นที่ และจำกัดความเร็วมากกว่า

จับเมาขับแล้ว 1,028 คดี

นายวิตถวัลย์เผยสถิติคดีขับรถในขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ ต้อนรับวันปีใหม่ 1 ม.ค.2564 ว่า มีเพียง 36 คดี เนื่องจากศาลปิดทำการ ทำให้ตัวเลขสถิติยอดรวม 4 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด (29 ธ.ค.2563-1 ม.ค.2564) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,028 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 911 คดี หรือร้อยละ 88.62 คดีขับเสพ 100 คดี หรือร้อยละ 9.73 คดีขับรถประมาท 17 คดี หรือร้อยละ 1.65 โดยจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับยังคงเดิม ได้แก่ 1.ชัยภูมิ และอุบลราชธานี 105 คดี 2.จันทบุรี 104 คดี และ 3.บุรีรัมย์ 99 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันที่ 4 ของช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี 2563 จำนวน 404 คดี และปี 2564 มี 36 คดี ลดลง 368 คดี คมนาคมสรุป 4 วัน 29 ธ.ค.-1 ก.ค.64 คนเดินทาง 5 ล้าน ต่ำกว่าประมาณการ 40%

นั่งขนส่งสาธารณะแค่ 5.8 ล.

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งถึงรายงานผลการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย ตามนโยบาย “คมนาคมใส่ใจกำลังสาม เดินทางอุ่นใจตลอดปีใหม่” ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2564 ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2563-1 ม.ค.2564 (ข้อมูลวันที่ 2 ม.ค.2564 เวลา 08.30 น.) โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน โรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สรุปได้ดังนี้

1.ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 5,827,324 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ ร้อยละ 39.82 โดยมีปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ 7,831,775 คัน ต่ำกว่าประมาณการ ร้อยละ 19.68 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 7,452,661 คัน หรือร้อยละ 95.16 ของปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ ทั้งหมด

2.การตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจความพร้อม 206 แห่งทั่วประเทศ โดยเริ่มตรวจ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. จำนวน 35,876 คัน พบข้อบกพร่องและสั่งให้เปลี่ยนรถ 1 คัน ส่วนท่าเรือ/แพ จำนวน 173 แห่ง พบข้อบกพร่อง และได้พ่นห้ามใช้เรือ 1 ลำ ด้านการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รถไฟ รถไฟฟ้า และผู้ประจำเรือ ไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด

ชนย่างสด – นายเมธี เตียงกูล หนุ่มห้างขับรถเก๋งชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำไฟลุกท่วมเสียชีวิตคาซากรถ บนถนนเศรษฐกิจ ปากซอยบ้านสวน-เศรษฐกิจ 4 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 2 ม.ค.

3.เกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม 1,059 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 174 ราย บาดเจ็บ 1,099 ราย บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นทางตรง หรือร้อยละ 72.71 สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด หรือร้อยละ 63.08 รถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 37.55 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ นครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี 39 ครั้ง

และ 4.สถานการณ์อุบัติเหตุบนระบบขนส่งสาธารณะและรถบรรทุก พบรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกเกิดอุบัติเหตุ 17 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 11 คน บาดเจ็บ 12 คน อุบัติเหตุทางรถไฟ จำนวน 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 คน ส่วนทางน้ำและทางอากาศไม่พบการเกิดอุบัติเหตุ

นายกฯห่วงสนุกจนประมาท

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นห่วงเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้รับรายงานว่าอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันหยุดนี้มาจากพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันลดอุบัติเหตุด้วยการป้องกัน อย่าเห็นแก่ความสนุกสนานมากเกินไปในช่วงนี้ การขับรถควรต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ดื่มสุรา และขอให้นึกถึงครอบครัวให้มากๆ และนึกถึงคนอื่นที่ต้องเดือดร้อนจากการกระทำที่ประมาทเลินเล่อ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินได้

กลับกรุง – ประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางกลับจากท่องเที่ยวปีใหม่ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ถนนหมายเลข 304 ตั้งแต่อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ถึงอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี การจราจรติดขัด เมื่อวันที่ 2 ม.ค.

ถ.มิตรภาพ-พหลโยธินเริ่มแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพการจราจรบนถนนเส้นสายหลักพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ช่วงบ่าย โดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ปริมาณรถเต็มพื้นผิวการจราจร ส่งผลให้สภาพจราจรติดขัดสลับหยุดนิ่ง รถติดยาวหลายกิโลเมตรไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยอำนวยความสะดวกตามจุดกลับรถต่างๆ เพื่อระบายรถให้คล่องตัวขึ้น ส่วนเส้นทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์หมายเลข 122 รถที่มาจากจ.กำแพงเพชรเลี้ยวขวาผ่านจ.นครสวรรค์ ไปบรรจบกับถนนสายเอเชียช่วงอำเภอพยุหะคีรี รถติดยาวไปจนถึงจุดรอยต่อกับทางหลวงหมายเลข 1 รถติดสลับหยุดนิ่งเป็นระยะผิวจราจรคลาคล่ำไปด้วยรถที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯเช่นกัน เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเปิดช่องทางพิเศษบริเวณหลักกิโลเมตร 328-321 ตั้งแต่บริเวณเขาเขียวยาวไปจนถึงเขต อ.พยุหะคีรี เป็นระยะทางนับ 10 กิโลเมตร เพื่อระบายรถที่สะสมมีเพิ่มอีก 1 ช่องทาง

ส่วนบริเวณแยกเดชาติวงศ์ปริมาณรถยังคงหนาแน่นและติดขัด เพราะสภาพถนนเป็นคอขวดรถจึงแย่งกันขึ้นสะพานเดชาฯ เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดสะพานเดชาติวงศ์เส้นตรงกลางเพื่อช่วยระบายรถ คาดว่าจากนี้สภาพจราจรนครสวรรค์จะหนาแน่นทุกวัน เพราะประชาชนเริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเพื่อหนี รถติดกัน

ตร.เปิดช่องทางเพิ่มระบายรถ

ด้านถนนมิตรภาพ ช่วงจากต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นคราชสีมา ไปอ.มวกเหล็ก และอ.แก่งคอย สระบุรี นั้นมีปริมาณรถหนาแน่น จากอ.มวกเหล็ก ลงมารถวิ่งเต็มช่องทางทำความเร็ว 30-40 ก.ม. ต่อชั่วโมง ชะลอติดขัดบางช่วง ทางลงเนินเขากลางดง และเนินเขาจันทร์ อ.มวกเหล็ก เนินเขาวัดซับบอน อ.แก่งคอย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง หินกอง จ.สระบุรี ได้เปิดทางพิเศษจากทางลงเขาเขต ต.กลางดง อ. ปากช่อง จ.นคราชสีมา หลัก ก.ม.ที่ 36 อ.มวกเหล็ก ลงมาถึง ก.ม.17 อ.แก่งคอย จ. สระบุรี เพื่อเร่งระบายรถเข้ากรุงเทพฯ

กลับกรุง – ประชาชนทยอยเดินทางกลับจากท่องเที่ยวปีใหม่ในพื้นที่ภาคอีสานมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ถนนมิตรภาพช่วงเนินเขาจันทร์ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี การจราจรติดขัด เมื่อวันที่ 2 ม.ค.

ส่วนถนนสายพหลโยธิน จากตัวเมืองสระบุรี มุ่หน้ากรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงหินกอง สระบุรี ได้เปิดช่องทางพิเศษช่วงที่ 1 จาก หลักก.ม.92-87 เบื้องต้น แต่ถ้าหากมีรถเพิ่มปริมาณมากขึ้น ก็มี ช่วงที่ 2 ก็จะเปิดเส้นทางจาก หลักก.ม.99 เขต อ.หนองแค จดก.ม.ที่ 74 เขต อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะเปิดรวม 6 เลน วิ่งสวนเข้ากรุงเทพฯ ส่วนรถที่จะเข้ามา สระบุรี บังคับใช้เส้นทางคู่ขนาน 2 เลน นอกนั้นปัดเป็นรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ

ต่อมาเวลา 12.00 น. การจราจรตั้งแต่ขึ้นเนินเขาลำตะคอง ก.ม.91 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เริ่มติดขัดสะสมบริเวณ ก.ม.55 ขึ้นมอบันไดม้า ถึงทางโค้งผ่านหน้าฟาร์มโชคชัย ก.ม.51-52 ผ่านหน้าศูนย์ข้าวโพดข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) เข้าเขตกลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล้น 4 ช่องจราจร และวิ่งผิวข้างทางฟุตปาธเต็มแน่นขนัด 5 ช่องทาง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าประชาชนไม่ค่อยจอดรถแวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางผ่านเหมือนทุกเทศกาลที่ผ่านมาหลังโรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง ขณะที่ส่วนหนึ่งทยอยเดินทางกลับไปแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์และคืนที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งจุดบริการริมถนนมิตรภาพในพื้นที่จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เขต อ.ประทาย เขตติดต่อ จ.ขอนแก่น ตลอดเขต ลงเนินกลางดง อ.ปากช่อง เขตติดต่อ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ให้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประชาชนเดินทางกลับ และถนนเส้นรองให้อำนวยความสะดวกกับประชาชน และให้รักษาระเบียบกฎหมายตามพ.ร.บ.จราจรทางบก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุตามนโยบายของพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน