คดี‘น้องชมพู่’เริ่มบาน
สหวิชาชีพเรียกเค้นลูก

ถึงคิว 2 ลูกชายลุงพล ตร. มุกดาหารเชิญไปให้ทีม สหวิชาชีพซักถาม เพราะสนิทกับน้องชมพู่ ด.ญ.วัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้าน วันที่ 11 พ.ค. 2563 ก่อนพบกลายเป็นศพบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร หลังลุงพล- ป้าแต๋นเข้าเครื่องจับเท็จที่กรุงเทพฯ แต่ตร. ไม่ให้ผู้ปกครองร่วมรับฟังด้วย จึงมอบอำนาจให้ทนายความเข้าไปเป็นตัวแทน

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ตำรวจสภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เชิญตัว 2 ลูกชายของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ไปให้ปากคำต่อทีมสหวิชาชีพ ที่สภ.กกตูม หลังนายไชย์พลและนางสมพรเข้าให้ปากคำต่อหน้าเครื่องจับเท็จที่ศูนย์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 ม.ค. มาราธอน 11 ชั่วโมง เพื่อหาข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม วันที่ 11 พ.ค. 2563 ก่อนพบกลายเป็นศพบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยตำรวจเชิญตัวลูกชายทั้งคู่ของนายไชย์พลและนางสมพรมาให้ปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นบุคคลที่คุ้นเคยและใกล้ชิดกับน้องชมพู่ และลูกชายทั้งสองคนไม่มีพฤติกรรมต่อต้าน แต่ไม่อนุญาตให้พ่อแม่เข้าร่วมรับฟังการซักถามด้วย นายไชย์พลจึงได้ประสาน นายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี ทนายความเป็นตัวแทนผู้ปกครองเข้าไปรับฟังการสอบปากคำ

โดยบรรยากาศหน้าสภ.กกตูม เป็นไปอย่างคึกคัก นายไชย์พลแต่งชุดนุ่งขาวห่มขาวพูดคุยกับทนายความและลูกก่อนไปพบตำรวจ และมียูทูบเบอร์และแฟนคลับนาย ไชย์พลเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก

หลังใช้เวลาซักถามประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงให้เด็กทั้งคู่กลับบ้านได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ขอเส้นผมของนายไชย์พลไว้ตรวจสอบประมาณ 10 เส้น

ด้านนายไชย์พลเผยว่า ไม่หนักใจการเข้าเครื่องจับเท็จ แต่รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ทำงานช้าไปนิด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อในการสืบสวนเชื่อในข้อมูลของเจ้าหน้าที่ แต่หากจะโยนความผิดหรือโผลงมาที่ตนเองโดยไม่มีความผิดจะสู้อย่างถึงที่สุด

ไม่เป็นแพะ – ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา ให้สัมภาษณ์ระหว่างรอลูกชาย 2 คนที่เข้าให้ปากคำสหวิชาชีพคดี ‘น้องชมพู่’ ยืนยันเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ แต่หากโยนผิดมาให้ก็จะสู้ถึงที่สุด ที่สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 10 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน