ผช.ผบ.จารุวัฒน์บุกรร.ดังชลบุรี
พ่อร้องแจ้งสภ.นับเดือน-ไม่คืบ
จ่อหมายจับร่วมก่อเหตุ7-8คน

‘บิ๊กโต้ง’ ลุยจี้คดีครู-เพื่อนน.ร. รุมโทรมด.ญ.วัย 14 ที่ป่วยออทิสติกในห้องน้ำโรงเรียนดังเมืองชลบุรี หลัง ผู้ปกครองพาแจ้งความนานนับเดือน แต่ไม่คืบหน้าต้องบุกไปร้องทุกข์ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบผู้ก่อเหตุมี 7-8 คน อยู่ระหว่างเร่งออกหมายจับ พร้อมรื้อสำนวนมาสอบสวนใหม่ให้ชัดเจน พบส่อโยงปมค้ามนุษย์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ม.ค. พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผช.ผบ.ตร.รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร.ท.เริงศักดิ์ สระกัน กอ.รมน.ชลบุรี รวมประชุมที่ สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ติดตามความคืบหน้าคดี ด.ญ.อายุ 14 ปี ป่วยออทิสติก ถูกเพื่อนและครูโรงเรียนแห่งหนึ่งร่วมกัน รุมโทรม ภายในห้องน้ำของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี เหตุเกิดระหว่างวันที่ 14-28 ธ.ค.2563

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอัจฉริยะพาด.ญ.ผู้เสียหายและผู้ปกครองเข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ที่สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เนื่องจากหลังผู้ปกครอง ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ไม่มีสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำ เกรงจะไม่ได้ รับความเป็นธรรม และกังวลว่าผู้ต้องหา อาจได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจท้องที่

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ เปิดเผยหลังการสอบปากคำ ด.ญ.ผู้เสียหาย เบื้องต้นเหตุการณ์ ดังกล่าวพบมีมูลความจริง โดยตำรวจอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และประสานทางคณะสหวิชาชีพเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากคดีดังกล่าวผู้เสียหายเป็นเด็ก รวมทั้ง อาจมีความเชื่อมโยงกับมูลฐานความผิดการค้ามนุษย์ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ตำรวจต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

หลังร่วมประชุมเพื่อติดตามคดีดังกล่าว พล.ต.ท.จารุวัฒน์ เผยว่า คดีดังกล่าวคืบหน้าไปด้วยดีจะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน การลงพื้นที่ในครั้งนี้นำทีมงานป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์มาด้วย และจะรื้อพยานหลักฐานที่สอบไปแล้วทั้งหมดมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ส่วนผู้ที่รุมโทรมหญิงในครั้งนี้มีประมาณ 7-8 คน ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจะได้ออกหมายจับต่อไป

ขณะที่ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุซึ่งเข้าร่วมประชุมด้วย เผยว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่ปิดเทอม ต้องให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ส่วนมาตรการ ความปลอดภัยต่อไปทางโรงเรียนจะเฝ้าระวัง เพิ่มมากขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน

ด้านผู้ปกครองของด.ญ.ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า เมื่อนายอัจฉริยะลงมาติดตามคดีให้ทำให้มีความหวังที่จะนำผู้ต้องหามาดำเนินคดี

ส่วนนายอัจฉริยะกล่าวยืนยันว่า เมื่อเข้ามา ร่วมรับผิดชอบในคดีดังกล่าวจะไม่ทิ้งคดี แต่ต้องให้เวลาตำรวจทำงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน