กก.ละ250บาท
พาณิชย์สั่งสอบ

พ่อค้าแม่ค้าขอนแก่นก็โอด ‘พริกแพง’ ที่สุดตั้งแต่ขายมา 20 ปี ไม่เคยเจอแพงเว่อร์ขนาดนี้ตกเม็ดละเกือบ 1 บาท พริกแดงจินดาจาก โลละ 80 ขึ้นเป็น 200 บาท พริกขี้หนูสวนจาก 120 เป็น 250 บาท ร้านส้มตำเจ้าดังเมืองขอนแก่น ยันแม้ราคาพริกสูงขึ้น แต่ยังขายราคาเดิม เข้าใจโควิดระบาด เศรษฐกิจไม่ดี เดือดร้อนกันทั่ว ถือว่าช่วยกัน บางร้านปรับใช้พริกแห้งผสม ด้านพ่อค้าตลาดเมืองพิมาย โคราช แบ่งขายถุงละ 6 เม็ด 5 บาท อธิบดีกรมการค้าภายใน ชี้เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว เพราะผลผลิตออกมาน้อย จากอากาศเปลี่ยน ยันพริกไม่ขาดตลาด สั่งสอบแล้ว เตรียมนำพริกจากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ไปกระจายขายช่วยประชาชน

จากกรณีที่มีประชาชนในพื้นที่จ.นครราชสีมา ออกมาเปิดเผยว่า พริกขี้หนูในตลาดสดมีราคาแพงขึ้น สาเหตุเนื่องจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา ภาคใต้ของประเทศไทยประสบอุทกภัย ทำให้เกษตรกรไม่สามารถปลูกพริกส่งขายได้ จึงกระทบกับราคาพริกขี้หนูในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะราคาพริกขี้หนูในพื้นที่อ.พิมายมีราคาพุ่งสูงขึ้น โดยพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดสดพิมายเมืองใหม่ ได้จำหน่ายพริกขี้หนู ราคาเม็ดละ 1 บาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายปรีชา บัวระบัติ อายุ 58 ปี พ่อค้าร้านขายของชำรายหนึ่ง ในบ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ไปรับซื้อพริกแดงมาจากตลาดสดพิมายเมืองใหม่ ในราคากิโลกรัมละ 180 บาท โดยนำพริกแดงมาแบ่งชั่งใส่ถุงขาย ถุงละครึ่งขีด หรือ 50 กรัม จะได้พริกแดง 6 เม็ด ตนจะขายในราคา 5 บาท เนื่องจากพริกแดงมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะพริกสายพันธุ์ซูเปอร์ฮอต มีขนาดเม็ดใหญ่ แต่ถ้าเป็นพริกแดงขนาดเม็ดเล็กๆ เมื่อชั่งน้ำหนักครึ่งขีด จะได้ประมาณ 10-15 เม็ด แต่ขายในราคา 5 บาทเท่ากัน ซึ่งบางครั้งตนซื้อพริกแดงมาในราคาที่แพงอยู่แล้ว เมื่อมาแบ่งชั่งขายเป็นขีดทำให้ขาดทุน จึงจำเป็นต้องไปหาซื้อพริกแดงที่พ่อค้าในตลาดมัดใส่ถุงขาย โดยรับซื้อมาในราคาถุงละ 4 บาท แล้วนำมาขายในราคาถุงละ 5 บาท พริกแดงจึงมีราคาแพงเพราะซื้อต่อกันมาเป็นทอดๆ จึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยแก้ไขปัญหาราคาพริกแพงในช่วงนี้ด้วย เพราะต่างเดือดร้อนจากปัญหา โควิดระบาดกันมากพออยู่แล้ว

ที่จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาพริก ที่ย่านการค้าตลาดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังพบว่าราคาจำหน่ายพริกทุกประเภทในช่วงนี้มีการปรับราคาขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบปะกับเหล่าบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ล้วนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าตั้งแต่ขายพริกมาราคาพริกไม่เคยแพงและแพงยาวนานขนาดนี้ ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน แล้วราคาพริกยังคงไม่มีทีท่าจะลดลง โดยพริกสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท จากการสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็ทราบว่าพริกสดและพืช ผัก ที่นำมาขาย ไปรับมาจากตลาดศรีเมืองทองขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งรวมพืช ผัก ที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย แล้วนำมาขายในตลาดบางลำภูแห่งนี้ โดยพริกสดมีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาถึงกิโลกรัมละ 250 บาท แต่ในช่วงนี้ราคาพริกสดได้มีการปรับราคาลงมาบ้างอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท และนำมาแบ่งขายขีดละ 20 บาท ก็จะได้พริกสดประมาณ 30 เม็ด หรือตกเม็ดละ 70 สตางค์ ซึ่งแต่ก่อนพริกนั้นมีราคาอยู่เพียง 70-80 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น

สอบถามนายไมตรี ลือเทพ พ่อค้าขายผักตลาดบางลำภู กล่าวว่า จากการที่สวนปลูกพริกในพื้นที่ภาคใต้ถูกน้ำท่วม ทำให้ไม่มีพริกที่จะส่งมาจำหน่ายในพื้นที่ภาคอีสาน จึงทำให้พริกประเภทต่างๆ มีราคาแพงขึ้นประกอบกับพริกจากต่างประเทศไม่สามารถส่งเข้ามาขายได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้ตลาดแทบทุกที่พริกขาดตลาด

“ตั้งแต่ขายมาปีนี้พริกมีราคาแพงมากและแพงยาวนานที่สุดเท่าที่เคยขายพริกมา เดิมปกติราคาพริกแดงจินดาอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท วันนี้ขยับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท พริกขี้หนูสวนปกติราคา 120 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท พริกชี้ฟ้าแดงกิโลกรัมละ 70 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 140 บาท ราคาพริกที่แพงแบบนี้ แพงขึ้นมานานกว่า 2 เดือนแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะราคาลดลง ถ้าเอาไปชั่งกิโลขายลองนับเม็ดดูตกเกือบเม็ดละ 1 บาท ทำให้ลูกค้าประจำที่เคยมาสั่งพริกนำไปประกอบอาหารก็บ่นว่าช่วงนี้พริกแพง แต่ก็จำเป็นต้องซื้อ โดยเฉพาะแม่ค้าส้มตำ เพราะไม่สามารถหาสิ่งอื่นที่จะมาแทนความเผ็ดของพริกได้” นายไมตรีกล่าว

เช่นเดียวกันกับ นางสินเพ็ญ นิลเนตร แม่ค้าขายหอม กระเทียม พริก ที่ตลาดบางลำภู กล่าวว่า ราคาพริกที่แพงสาเหตุอาจเป็นเพราะคนปลูกน้อยลง แต่ความต้องการของผู้บริโภคเท่าเดิม ส่งผลกระทบต่อแม่ค้าที่ซื้อมาขายอย่างมากเพราะคนส่งมาแพงเราก็ต้องขายแพง คนซื้อก็ต้องซื้อแพงตามไปด้วย

“ตั้งแต่ขายพริกมา 20 ปี ยังไม่เคยเห็นราคาพริกแพงขนาดนี้ ลูกค้าประจำที่มาซื้อแม้รับได้ แต่ปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อ จากซื้อ 1 กิโลครึ่ง ก็ลดลงมาเหลือ 1 กิโลกรัม ซึ่งโดยส่วนตัวคาดว่าราคาจะลดลง หากนำเข้าพริกมาจากต่างประเทศได้ตามปกติ” นางสินเพ็ญกล่าว

ด้านแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งและส้มตำในตลาดโต้รุ่งร่วมจิต ในเขตพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น ก็ยังมีการใช้พริกสดในการทำอาหารปกติ แต่เนื่องจากพริกที่มีราคาสูงขึ้นก็ได้มีการดัดแปลงใช้พริกแห้งมาใช้ในการประกอบอาหาร โดยอาหารที่มีการใช้พริกเป็นส่วนประกอบนั้นทางร้านก็ไม่ได้มีการคิดราคาเพิ่มแต่อย่างใด

นางทองสุข วงศ์ษาซ้าย แม่ค้าส้มตำ กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมพริกสดถึงมีราคาแพงขึ้น เพราะตอนนี้ราคาพริกสดพุ่งสูงมากว่า 2 เดือนแล้ว ก็ได้มีการแก้ไขปัญหา โดยการนำพริกแห้งมาผสมกับพริกสดเพราะว่าพริกสดตอนนี้ 1 กิโลกรัมก็มีราคาสูงถึง 200 บาท ทำให้กำลังซื้อไม่เพียงพอ ส่วนลูกค้าที่สั่งส้มตำแบบเผ็ดๆ ตนก็ไม่ได้เพิ่มราคาขึ้นเช่นกัน ยังคงขายราคาปกติ สุดท้ายจึงขอวอนให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ปัญหากรณีที่มีพริกราคาสูงขึ้นเนื่องจากตอนนี้การค้าขายไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน

ที่ร้านส้มตำยายนี ริมถนนประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น ร้านส้มตำขวัญใจชาวขอนแก่นมาอย่างยาวนาน นางปราณี โทบ้านซ้ง อายุ 64 หรือป้านี เจ้าของร้านส้มตำยายนี กล่าวว่า ร้านใช้พริกแดงจินดาเป็นวัตถุดิบหลักวันละ 2-2.30 ก.ก.ควบคู่กับพริกแห้ง โดยซื้อพริกจากร้านค้าประจำที่ตลาดสดขอนแก่น ซึ่งราคาการจำหน่ายวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 180 บาท ซึ่งถือว่าแพงมาก โดยแพงยาวนานมาตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค.2563 ต่อมาซื้อแพงสุดคือซื้อในราคากิโลกรัมละ 220 บาทในช่วงปีใหม่ จากนั้นราคาก็ปรับขึ้นๆ ลงๆ เคยสอบถามร้านขายพริกก็ทราบว่า พริกที่ปลูกในประเทศของเรานั้นมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้นำเข้าพริกไม่ได้ จึงทำให้ราคาพริกมีราคาแพง

“ซื้อแพงสุดคือ กิโลกรัมละ 220 บาทในช่วงปีใหม่ จากนั้นราคาก็ปรับขึ้นๆ ลงๆ ครั้งละ 10 บาท ที่ผ่านมาเคยซื้อสูงสุดคือ 150 บาท แต่เมื่อราคาพริกวันนี้แพงขึ้นร้านจำเป็นต้องซื้อเพราะเป็นวัตถุดิบหลักของการนำมาประกอบอาหารโดยเฉพาะส้มตำ แจ่วพริกและอาหารต่างๆ ซึ่งทุกวันลูกค้าที่มาซื้ออาหารก็จะถามว่าพริกแพง ราคาจะปรับแพงขึ้นหรือไม่ ร้านก็ตอบไปว่าคงราคาจำหน่ายเท่าเดิม ปริมาณเท่าเดิม วัตถุดิบเหมือนเดิม เพราะเรารู้ว่าสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อทุกคน ดังนั้นเมื่อทุกคนต้องประหยัดเรื่องการใช้จ่าย จะไปขึ้นราคาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเชื่อว่าอีกไม่นานราคาพริกก็จะลดลง ดังนั้นช่วงนี้ทุกคนต้องช่วยกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน 5 บาท 10 บาทก็คือเงิน เราช่วยลูกค้าวันนี้ ลูกค้าก็จะช่วยเราและสนับสนุนเราตลอดไป ราคาส้มตำของทางร้านยังคงราคาจำหน่ายเท่าเดิมคือครกละ 40 บาท แจ่วพริกสดถุงละ 10 บาท ขณะที่อาหารและเครื่องเคียงต่างๆ ก็จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 10 บาทเท่านั้น” นางปราณีกล่าว

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ราคาพริกที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเพียงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะผลผลิตออกมาน้อยเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ผลผลิตในเดือนธ.ค.2563 ที่ผ่านมาจึงออกมาน้อยและ สุกช้า การขนส่งที่ล่าช้าในช่วงของการระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง ทำให้ราคาสูงขึ้นในช่วงปลายเดือนธ.ค. ต่อเนื่องถึงต้นม.ค.2564 แม้จะมีราคาสูงขึ้นมาบ้าง จากการออกสำรวจของเจ้าหน้าที่ก็พบว่าผลผลิตไม่ได้ขาดแคลน ในตลาดขายส่งต่างๆ รวมทั้งตลาดขายปลีกทั่วไปก็ยังมีจำหน่าย

ส่วนที่มีการขายแพงจนผิดปกตินั้นก็ต้องมาดูว่าทำไมถึงขายแพง เพราะยืนยันว่าพริกอาจมีผลผลิตลดลงแต่ไม่ได้ถึงขั้นขาดตลาดและที่สำคัญคือในช่วงเดือนก.พ.เป็นต้นไป ผลผลิตจากแหล่งปลูกใหญ่ๆ ในภาคอีสานคือจ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษก็จะออกมาอีกจำนวนมากซึ่งจะทำให้ปริมาณพริกมีมากขึ้นและราคาก็จะปรับตัวลดลงตามกลไกตลาด ซึ่งกรมก็ต้องติดตามสถานการณ์ผลผลิตและราคาอย่างใกล้ชิด และได้สั่งการให้ทางพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตลาดต่างๆ ในจังหวัดไปแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมในการเชื่อมโยงตลาดด้วยการนำพริกจากแหล่งผลิตหรือจากตลาดค้าส่งเช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ไปกระจายจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาพริกแพง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน